All New Honda Civic เจนฯ 11 คาดราคาแตะหลักล้านทุกรุ่น
Honda Civic โฉมปัจจุบัน (เจนเนอเรชั่นที่ 10) ที่เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2559 ผ่านมาครบ 5 ปีแล้ว ถึงเวลาของโมเดลใหม่สักที โดย ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ประกาศพร้อมเปิดตัว All New Honda Civic 2021 ในวันที่ 6 สิงหาคม นี้ เวลา 18.00 น. โดยเปิดตัวในรูปแบบออนไลน์ในประเทศไทย ผ่านทาง Facebook : Honda Thailand ที่ตอนนี้เผยคำเชิญชวน “ไม่ใช่แค่ความแรง แต่เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง” “ไม่ใช่แค่สปอร์ตพรีเมียม แต่คือความพิถีพิถันทุกรายละเอียด” “ไม่ใช่แค่ความปลอดภัย แต่คือความมั่นใจไปอีกขั้น”
รูปลักษณ์ภายนอกปรับใหม่หมด
ในส่วนของตัวรถ All New Honda Civic 2021 ถูกออกแบบในลักษณะบางและเบา หรือ Thin and Light พร้อมกับการมีฝากระโปรงรวมทั้งบริเวณด้านหน้าที่ต่ำ โดยส่วนสำคัญในการออกแบบภายนอกยังอยู่ที่การเลื่อนฐานเสาเอไปด้านหลังเกือบ 2 นิ้วเพื่อเพิ่มความยาวของฝากระโปรงหน้า รวมไปถึงมีเส้นด้านข้างรถใต้กระจกที่ต่ำเพื่อเน้นในส่วนของห้องโดยสารที่โปร่งโล่ง ขณะที่เส้นด้านล่างที่ยาวจากประตูหน้าไปถึงด้านหลังจะถูกออกแบบให้เอียงสูงขึ้นที่ด้านหลังเพื่อสร้างความรู้สึกของการเคลื่อนที่ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบให้มีระยะของล้อหลังที่ยาวกว่าเดิมเมื่อวัดจากล้อหน้า
แน่นอนว่า Civic ซีดานใหม่มาพร้อมกับไฟหน้าและไฟหลัง LED โดยที่มีการเพิ่มการใช้ไฟ LED มากขึ้นทั้งไฟหน้า Wide-set, ไฟ Daytime Running Light, ไฟเลี้ยว รวมไปไฟตัดหมอก โดย Civic ใหม่ มี 8 สีให้เลือกซึ่งเป็นสีใหม่ 3 สีคือ สีเทาเมทัลลิก Meteorite Gray, สีเทามุก Sonic Gray Pearl และสีฟ้าเมทัลลิก Morning Mist Blue ซึ่งเป็นใหม่เฉพาะสำหรับ Civic
ภายใต้การออกแบบใหม่ของ All New Honda Civic Gen 11 ได้มีการปรับปรุงในส่วนโครงสร้างของรถจนมีความแข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Civic โดยทนต่อการบิดตัวเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ และทนต่อการโค้งงอเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเจนเนอรเชั่นก่อนหน้า นอกจากนี้ทาง Honda ยังระบุว่าโครงสร้างของรถถูกออกแบบเพื่อรองรับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการชนทั้งปัจจุบันและอนาคต แต่ก็มีการใช้วัสดุน้ำหนักเบาเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นอลูมิเนียมและเหล็กกล้าที่มีความแข็งแกร่งสูงเกรดต่างๆ โดยโครงสร้างใหม่ของรถยังช่วยลดเสียงจากถนนและเสียงรบกวนจากลมเพื่อให้ความสบายในการเดินทางมากขึ้น ทั้งนี้ยังไม่นับรวมเรื่องของมิติรถที่ปรับใหม่ให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ดีขึ้นจากการขยายฐานล้อและการมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำมากขึ้นกว่าเจนฯ ก่อนหน้า
ภายในห้องโดยสารเสริมด้วยหน้าจอดิจิตอล และระบบความบันเทิงครบครัน
All New Honda Civic Gen 11 ภายในห้องโดยสารมีทั้งเกรดที่ใช้การแสดงข้อมูลผู้ขับแบบดิจิตอลในบางส่วนและเป็นดิจิตอลทั้งหมด ซึ่งแบบแรกจะเป็นจอขนาด 7 นิ้ว ส่วนแบบหลังเป็นจอขนาด 10.2 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีจอตรงกลางขนาด 7 นิ้วหรือ 9 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยมีการเชื่อต่อบลูทูธ และระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนสำหรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมมีการใช้ปุ่มและแป้นปรับต่างๆ ที่เป็นปุ่มจริงในการควบคุม โดยในเกรดสูงสุดของ Civic ที่สหรัฐอเมริกาจะมาพร้อมกับระบบเสียงของ Bose ส่วนเวอร์ชั่นในไทยคาดว่าอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งหมดจะอยู่ในรุ่นสูงสุดอย่าง RS เช่นเคย เราอาจได้เห็นพอร์ทการเชื่อมต่อที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่ๆ ที่ไม่เคยใส่ในรถรุ่นนี้มาก่อน คาดว่าสีภายในจะมีให้เลือกสองแบบ ทั้งสีดำ และสีเบจ
ระบบความปลอดภัย Honda Sensing เต็มระบบ
All New Honda Civic Gen 11 ในส่วนของอุปกรณ์ความปลอดภัย ภายในห้องโดยสารมีการใช้แอร์แบ็กสำหรับผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าใหม่ โดยฝั่งผู้ขับถูกออกแบบให้มีโครงสร้างรูปทรงโนัทเพื่อลดการบาดเจ็บที่สมอง ในขณะที่ฝั่งผู้โดยสารมีการออกแบบในลักษณะ Three-Chamber เพื่อให้มีผลลัพธ์เหมือนกัน สำหรับชุดระบบความปลอดภัย Honda Sensing มีการใช้ระบบกล้องใหม่ที่มีมุมรับภาพกว้างขึ้น รวมทั้งเรดาห์ และซอฟต์แวร์ที่มีความล้ำหน้าขึ้นพร้อมกับหน่วยประมวลผลที่ทรงพลังขึ้น ทำให้มีการระบุคนเดินถนน คนขี่จักรยาน และพาหนะอื่นๆ รวมไปถึงเส้นแบ่งเลน และป้ายสัญญาณบนถนนได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้น คาดว่านอกจากระบบ เตือนการออกนอกเลน เบรกอัตโนมัติ อาจมีฟังก์ชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมขึ้นมาเต็มระบบ รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Adaptive
ด้านขุมกำลังของ All New Honda Civic
เครื่องยนต์ยังคงใช้เครื่องเดิมคือ เบนซิน 4 สูบ VTEC TURBO ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับเชื้อเพลิงทางเลือกสูงสุด E20 (ซึ่งรายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากตัวที่ขายอยู่ก่อนหน้า) คาดว่าน่าจะรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ที่ลากขายมานานหลายปีคงไม่มีแล้วในรุ่นใหม่นี้
ส่วนเรื่องราคาจำหน่ายจะเท่าไหร่ และสเปกอย่างเป็นทางการจะตัดหรือเสริมอะไรหรือเปล่า เราคงต้องรอลุ้นไปพร้อมกันในวันที่ 6 สิงหาคม นี้
เรื่อง: ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th