มาถึงเรื่องตรงกันข้ามกับลมยางแข็ง คือ “ลมยางอ่อนเกินไป” ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ได้ต้องการ หรือ ไม่ได้เจตนา “ทำ” ให้มันเป็นเช่นนั้น แต่ด้วยความที่ “ลืม” บ้าง “ขี้เกียจ” บ้าง (ก็ได้วะ) ก็ปล่อยปละละเลยจนทำให้ลมยางอ่อนลง บางคนปล่อยจน “ยางแบน” ทำให้ตัวเองเดือดร้อนก็มีเยอะ ลมยางมันไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิตนะครับ มันมีการ “ซึม” ออกมาได้ทีละน้อยๆ นานวันไป มันก็เยอะ หรือ “เจตนาใช้ลมยางอ่อน” เพราะ “อยากจะให้รถนิ่มนวลสุดๆ” เติมน้อยๆ จะได้ไม่สะเทือน จนทำให้ “ลมยางอ่อนเกินไป” แล้วมันจะเกิดเรื่องอะไรกับเราได้บ้าง บอกเลยว่า “มีเรื่องถึงชีวิต” แน่นอน…

• มันไม่ได้นิ่มนวลอย่างที่คิดเสมอไป : จริงอยู่ครับ เมื่อลมยางอ่อน ยางก็จะยุบตัวได้มาก การซับแรงก็ดี ทำให้ “รู้สึกนุ่มนวล” แต่ก็ไม่แน่ ถ้าอ่อนไปมากๆ จะเกิดอาการ “ยางเต้น” เพราะมัน “มีลมไม่พอ” มาช่วยประคองและช่วยรับน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม และทำให้เกิดความกระด้างแบบหลวมๆ โคร่งเคร่ง (ไม่รู้จะบรรยายเป็นศัพท์สากลยังไงเหมือนกัน) มันลอยๆ แปลกๆ น่ะครับ ต่างจากลมยางแข็งที่กระด้างโครมคราม แนะนำว่า “ลมยางถูกต้อง” อย่างไรก็นุ่มนวลและเกาะถนนดีที่สุดครับ…

• การควบคุมรถแย่ลง : ด้วยความที่ยางมันอ่อนนิ่ม โย้ไปโย้มา ไม่มีการรักษาทิศทางอย่างเหมาะสม แก้มยางบิดตัวมาก ทำให้รถย้วย มีอาการแกว่ง โคลงตัว พวงมาลัยหนัก ตอบสนองช้า เบรกก็ควบคุมยาก กินกำลังเครื่องเยอะ อัตราเร่งแย่ลง กินน้ำมันมาก เพราะมันมีแรงต้านการหมุนมาก ไม่เชื่อคุณลองเข็นรถที่ลมยางอ่อนๆ ดูสิ หนักน่าดูเลยเชียว ซึ่งมันก็มีผลกระทบแน่ๆ ครับ ส่วนร่องรอยของหน้ายาง จะตรงข้ามกับลมยางแข็ง เพราะอันนี้มันจะ “กินเฉพาะบ่ายางสองฝั่ง แต่ตรงกลางลอย” เพราะยางมัน “ห่อ” นั่นเอง ก็ทำให้หน้าสัมผัสไม่เต็มที่เช่นกัน…

• ยางมีอายุสั้นกว่าปกติ : ผลกระทบในด้านร้ายก็มีเช่นกันนะครับ เมื่อลมยางอ่อนเกินไป ยางจะ “แบน” เริ่มจะเสียรูป ไม่กลม ตอนวิ่งไปแล้วจะเกิดการ “บด” โครงสร้างยางถูกกดทับ ไม่สมมาตร นี่แหละที่จะทำให้ยางเสียหายได้ง่ายกว่าปกติ และเสี่ยงต่อการโดน “ขอบล้อบด” แก้มยางเสียหายได้ง่าย หากปล่อยลมยางจนเกือบแบน หรือ แบนแล้วยังฝืนไปต่อ ทำให้ยางเส้นนั้นเสียไปเลย…

• ยางระเบิดก็ง่ายนะ : จะมีความคิดที่ว่า ให้เติมลมยางน้อยๆ ไว้ ป้องกันลมยางขยายตัวมากไปจนยางระเบิด อันที่จริง “ยิ่งอ่อนยิ่งเสี่ยง” เนื่องจากโครงสร้างยางบิดตัวมากผิดปกติ ทำให้ “ยางร้อนจัด” ลมยางก็ยิ่งเพิ่มมากจากการขยายตัวด้วยความร้อน ขับๆ ไปแล้วทำไมรู้สึกแข็งกระด้าง อ้อ…มันเป็นอย่างนี้นี่เอง และอาจจะเกิดจาก “โครงสร้างยางเสียหาย” ทำให้ยางร่อน ร้าวใน จนระเบิดได้ในที่สุด อยากเสี่ยงก็เอาเลยครับ…

• อาจจะใช้ลมยางอ่อนลงได้นิดหน่อยในบางกรณี : มันก็มีอยู่บางเรื่องครับ เช่น เปลี่ยนยางใหม่ ยางแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น มีโครงสร้างและเนื้อยางในสูตรที่แตกต่างกัน บางแบรนด์ก็เนื้อนิ่ม นุ่มนวล เกาะดี แต่ “หมดเร็ว” และ “แพงกว่า” บางคนก็ยอมใช้เพราะเน้นสมรรถนะ แต่บางแบรนด์ก็ “หมดช้า” เน้นระยะทาง แต่เนื้อยางแข็ง สึกยาก มันเลยทำให้รู้สึกแข็งกระด้างขึ้นกว่าเดิม แต่ได้ราคาประหยัดกว่า บางคนก็ใช้ลมยางอ่อนลงนิดหน่อย เพราะอยากจะนุ่มนวลขึ้น ทำได้ครับ แต่ไม่ควรอ่อนเกิน 2 ปอนด์ จากมาตรฐานผู้ผลิต เพราะถ้ามากกว่านั้นเดี๋ยวจะมีปัญหาตามมาอย่างที่กล่าวไป…

สำหรับเรื่องลมยางอ่อน มักจะเกิดจากการปล่อยปละละเลยเป็นหลัก ซึ่งจะส่งผลเสียให้กับตัวยาง รวมถึงการขับขี่ สมรรถนะของรถที่ “ด้อยลง” โดยที่รถมันก็ไม่ได้เป็นอะไรด้วยนะ แต่สิ่งร้ายแรงที่ตามมา ก็คือ “ชีวิตคุณเอง” ที่จะต้องเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ควรจะให้เวลากับเจ้า “ยาง” รถหน่อย เพราะมันคือสิ่งเดียวที่สัมผัสกับถนน และ ทำหน้าที่ยึดเกาะรถคุณไว้ ต่อให้ช่วงล่างมหาเทพแค่ไหน แต่มาเสียที่ยาง มันก็ไม่ดีแน่ๆ ขอจบเรื่อง “ลมยาง” ไว้ที่ EP3 นี้ก่อน ไว้มีอะไรจะมาเหลาให้อ่านกันใหม่ ขอฝากไว้ด้วยความปรารถนาดีครับ…

เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th