ลองขับ มาสด้า 3 ใหม่ เพิ่มเทคโนโลยีเพียบ สปอร์ต หรูหรา ขับง่าย มั่นใจ
หลังจาก มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ไทยทำการเปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดกลาง ที่เรียกได้ว่าเป็นรถธงของทางมาสด้า ประเทศไทย อีก1รุ่นนั้นก็คือ มาสด้า 3 ใหม่ 2017 การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ภายนอกอาจจะดูเปลี่ยนแปลงไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ภายใน และระบบเทคโนโลยีต่างๆที่มาสด้าพัฒนาขึ้นมา บอกเลยว่าขนมาใส่ในรถคันนี้จนเต็ม ถึงขนาดต้องร้องว๊าวกันเลยทีเดียว จุดขายหลักคือ รูปลักษณ์โดดเด่น เทคโนโลยีทันสมัย และสมรรถนะเทียบเท่ารถยุโรป
วันนี้เรามีโอกาศได้รับเชิญจากทางมาสด้า ประเทศไทย ให้เข้าร่วมการทดสอบ มาสด้า3ใหม่คันนี้บนเส้นทางกรุงเทพ – เขาใหญ่-กรุงเทพ โดยเส้นทางทดสอบในครั้งนี้จะมีเส้นทางที่หลากหลายทั้งวิ่งในเมืองที่รถค่อนข้างเยอะ วิ่งบนไฮเวย์ ทางตรงยาว ขึ้น-ลง เขา แบบใช้งนจริง แถมยังมีสเตชั่นต่างๆให้ได้ทดสอบระบบที่มีอยู่มากมายในรถมาสด้า 3 ใหม่คันนี้อย่างเต็มที่
ก่อนอื่นเรามาเริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนเลยดีกว่าว่ารูปทรงภายนอกของเจ้ามาสด้า 3 ใหม่คันนี้เปลี่ยนอะไรไปบ้าง และต่างจากเดิมตรงไหน มองผ่านแถบไม่รู้เลยครับว่ารุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า เพราะด้วยสีและรูปทรงที่สวยงามเป็นทุนเดิม แต่ถ้ามองกันจริงจัง โฮโห !! เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะครับ ทั้งชุดกันชนหน้าใหม่ พร้อมโคมไฟหน้าLEDที่ดูโฉบเฉี่ยวดุดันกว่ารุ่นก่อน และเข้ากันได้อย่างลงตัว ชนท้ายใหม่พร้อมไฟท้ายทรงเก่าแต่เป็นไฟLED ไฟตัดหมอกที่เปลี่ยนไปจากเดิมเป็นกลม รุ่นใหม่เป็นเส้นโครเมี่ยมแนวนอนดูดุดันหรูหรา และที่สำคัญก็คือ ล้อแมกซ์18นิ้วลายใหม่รมดำ เท่ห์อย่าบอกใคร มาสด้า 3 ใหม่คันนี้เน้นรูปลักษณ์ในแนวนอนที่ให้ความรู้สึกกว้างขึ้น และฐานล้อที่ต่ำลงให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำกว่าเดิม ทำให้รถดูสปอร์ตมากขึ้น
มาถึงภายในบอกเลยว่าเปลี่ยนไปเยอะเลยครับดูหรูหราขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทันทีที่ได้เปิดประตูเข้าไปสัมผัสภายในรถ นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกเปิดโล่งและสะดวกสบายแก่ผู้โดยสาร คุมโทนด้วยสีดำ พวงมาลัยแบบ 3 ก้านดีไซน์ใหม่ แผงสวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศแบบใหม่ ติดตั้งระบบเบรกมือไฟฟ้า ยังคงมาพร้อมเทคโนโลยี MZD Connect ที่เป็นเวอร์ชั่นใหม่ สั่งงานผ่านปุ่มแบบโรตารี่บริเวณใกล้กับคันเกียร์ ติดตั้งหน้าจอแบบสัมผัสเหนือแผงคอนโซล กระจกมองหลังปรับตัดแสงอัตโนมัติ โดยรวมถูกพัฒนาให้มีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิม หน้าจอสกรีนใสมีมาตรวัดที่ชัดเจนและอ่านง่ายกว่าเดิม เบาะคู่หน้าหนังสีดำทรงสปอร์ตนั่งกระชับตัวแต่เสียดายไม่ได้ปรับไฟฟ้า พร้อมโหมดสปอร์ตให้ได้เลือกใช้กัน
มาเริ่มออกเดินทางกันดีกว่าเริ่มต้นที่โชว์รูม มาสด้าแถวถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าผ่านถนนบางนา-ตราด ซึ่งรถบนถนนค่อนข้างเยอะมากความคล่องตัวของมาสด้า3ใหม่ยังคงให้ความกระฉับกระเฉงคล่องตัว สามารถลัดเลาะไปตามช่องว่างได้อย่างสบายหายห่วง มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนเพื่อไปลงแถวรังสิต นครนายก ช่วงนี้ทำความเร็วได้นิดหน่อยเลยลองกดคันเร่งลงไปเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมวาล์วแปรผันคู่ Dual S-VT ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจดี เร่งแซงก็ไม่มีปัญหาหายห่วง แต่ที่ชอบคือความเงียบของห้องโดยสารเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีมากทีเดียวดีกว่ารุ่นก่อนครับ อัตราเร่งผมบอกได้ว่าเป็นรถที่ขับสนุกจริงครับ สรุปว่ายังคงมีอัตราเร่งที่ดีขับสนุกเหมือนรุ่นก่อนครับซึ่งมันก็ต้องอย่างนั้นละครับเพราะใช้เครื่องเดินนี่หน่า แต่เรื่องความเงียบในห้องโดยสารนี่ดีกว่ารุ่นก่อนครับ มีเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มเข้ามาในห้องโดยสารเพิ่มอรรถรสในการขับขี่ให้สนุกยิ่งขึ้นครับ (มาสด้าตั้งใจให้เสียงเครื่องดังเข้ามาในห้องโดยสารนะครับ)
เอาละเดินทางมาถึงเขาใหญ่ซะทีเราวิ่งขึ้นเขากันเลยลองดูว่าระบบใหม่ GVC – G-Vectoring Control ของเค้าดีขนาดไหน ต้องยอมรับว่าเจ้ามาสด้า3ใหม่คันนี้ขับสนุกและขับง่ายกว่ารุ่นก่อนหน้าครับ ควบคุมง่ายขึ้นมากครับหน้าที่ของเราคือหักพวงมาลัยไปตามโค้งนอกนั้นระบบ GVC จัดการให้หมด ทั้งควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์เพื่อถ่ายน้ำหนักใน
ระหว่างการขับขี่ให้เป็นไปตามใจคิดอย่างง่ายดายยิ่งขึ้นขับง่ายและปลอดภัยมากครับ มันเป็นแค่ระบบช่วยให้คุณเค้าโค้งได้ดีและง่ายขึ้นเท่านั้นนะครับ ไม่ได้มาควบคุมการขับขี่ของคุณ ผมถามเพื่อนที่นั่งด้านหลังว่าเวลาเข้าโค้งมีอาการโคลง หรือเหวี่ยงมั้ย ได้คำตอบว่านิ่งมากนั่งสบายไม่โยนไปโยนมา ของเค้าดีจริง แถมมาสด้ายังคอนเฟริม์เลยว่าระบบ GVC ของมาสด้า ดีกว่า ระบบ G-forces ของฟอร์ดแน่นอน
เอาแบบนี้สรุปง่ายๆดีกว่าว่าไอ้เจ้าระบบ GVC – G-Vectoring Control นั้นมันดีอย่างไร
1.ลดการเมื้อยล้า พวงมาลัยควบคุมง่ายและลดการปรับแก้พวงมาลัย
2.ให้การทรงตัวที่ดีในทุกสถานการณ์ของการขับขี่เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่
3.ความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ลดอาการเมื้อยล้าจาการโคลงของตัวรถ
G-Vectoring Control (GVC) จี-เวคเตอริ่ง คอนโทรล ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ให้แปรตามการสั่งการจากพวงมาลัย เพื่อควบคุมให้แรงเหล่านี้เป็นหนึ่งเดียวและเสริมประสิทธิภาพการรับน้ำหนักในแนวดิ่งของยางแต่ละเส้นให้ รถยนต์ขับเคลื่อนไปได้อย่างนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพสูงสุด GVC จะช่วยควบคุมแรงบิด ทำให้เกิดการผ่อนแรงจีทันทีเมื่อเริ่มหมุนพวงมาลัย ทำให้การรับน้ำหนักถูกถ่ายไปที่ล้อหน้าจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนให้ดีขึ้น และการตอบสนองของรถดีขึ้น เมื่อผู้ขับบังคับพวงมาลัยให้อยู่ในองศาที่คงที่แล้ว GVC ก็จะช่วยเรียกคืนแรงบิดของเครื่องยนต์กลับมาและถ่ายน้ำหนักไปที่ล้อหลังเพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้กับตัวรถ การถ่ายน้ำหนักนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนให้แก่ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง รถจะขับเคลื่อนไปดังความตั้งใจของผู้ขับและมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น GVCนั้นให้ผลที่เป็นธรรมชาติและสร้างความสบายให้ทั้งแก่ผู้ขับและผู้โดยสาร
GVC มีการถ่ายน้ำหนักลงสู่ล้อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และช่วยผู้ขับให้สามารถควบคุมรถให้อยู่ในเส้นทางที่ต้องการได้ ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องคอยแก้อาการพวงมาลัยบ่อยๆซึ่งมักจะทำไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ผู้ขับจึงขับรถได้อย่างง่ายดายและควบคุมรถให้อยู่ในเลนที่ต้องการได้ง่ายขึ้น รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถและมั่นใจในการขับรถมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับในระยะทางไกลๆ การเปลี่ยนของแรงจีที่นุ่มนวลนี้ช่วยให้ทั้งผู้ขับและผู้โดยสารโคลงตัวไปมาน้อยลงทำให้ทุกคนในรถรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง การควบคุมรถและเสถียรภาพของรถบนพื้นผิวถนนลื่น เช่น เมื่อฝนตก หิมะตก จะยิ่งมีประสิทธิภาพขึ้น ผู้ขับจะรู้สึกว่ายางรถนั้นเกาะถนนอย่างมั่นคงและทุกคนในรถรู้สึกปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม
อธิบายง่ายๆ หากเรามีการเข้าโค้งที่ความเร็วปานกลาง เมื่อมีการหักพวงมาลัยไปตามโค้ง ระบบจะทำการตัดการทำงานของเครื่องยนต์ลงเล็กน้อย และจะมีการถ่ายน้ำหนักไปที่ล้อหน้าเพื่อช่วยในการควบคุม และเมื่อมีการคืนล้อกลับสู่ปกติก็จะทำการตัดการทำงานของระบบออกไป ระบบนี้ยังช่วยเมื่อเกิดการเปลี่ยนเลนกระทันหันหรือการเข้าโค้ง ที่จะช่วยลดการสั่นสะเทือนและการเหวี่ยงตัวของผู้โดยสาร โดยเฉพาะผู้โดยสารตอนหลังที่จะรับรู้มากเป็นพิเศษ
งานนี้มาสด้าจัดให้ทดสอบรถรุ่นเดิมที่ไม่มีระบบนี้ กับรถรุ่นใหม่ที่ติดตั้งมาครบพบว่าให้ผลการทดสอบที่น่าพึงพอใจเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน รุ่นใหม่ นั่งสบายกว่า ควบคุมง่ายกว่า ระบบช่วยเยอะกว่า ขับสบายกว่าเยอะพูดเลย
อันนี้ก็เด็ด MRCC – Mazda Radar Cruise Control หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบอัตโนมัติ ซึ่งคุ้นเคยกันดีกับระบบนี้ในรถหรูหลากหลายรุ่นอยู่แล้ว โดยระบบดังกล่าวจะทำงานที่ความเร็ว 30-145 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น
ง่าย ๆ ก็คือเมื่อทำการเปิดระบบแล้ว รถจะวิ่งที่ความเร็วที่เราตั้งเอาไว้ แต่หากมีรถคันหน้ามากีดขวาง ระบบก็จะทำการลดความเร็วลงให้เหมาะสม และเมื่อรถคันหน้าวิ่งพ้นทางไปก็จะกลับมารักษาความเร็วเท่าเดิมอีกครั้ง โดยทั้งหมดนี้ ควบคุมได้อย่างง่ายดายด้วยปุ่มบนพวงมาลัย ซึ่งเหมือนในฮอนด้าแอคคอร์ด ไฮบริด
มาสด้า 3 ใหม่นี้ยังมีระบบเพื่อความปลอดภัยต่างๆอีกมากมายถ้าเขียนหมดคงยาวแน่ๆเอาเป็นว่า เจ้ามาสด้า 3 ใหม่คันนี้ที่อัดเทคโนโลยีเข้ามาให้แบบเต็มๆเครื่องยนต์ยังคงขับสนุก เก็บเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี เค้าโค้งง่าย เนียนกริบ ช่วงล่างนุ่ม หนึบ กว่าเก่า กับราคาค่าตัวที่ 847,000 – 1,119,000 บาท ผมว่าคุ้มอยู่นะ เอาเป็นว่าใครยัง งง กับระบบที่มีเยอะแยะมากมาย เรามี วีดีโอให้ดูกันเลย
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th