ลองขับ NEW MG EXTENDER กระบะคันแรกจาก MG
หลังจากการเปิดตัว NEW MG EXTENDER อย่างเป็นทางการ ทางบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์–ซีพี จำกัด และบริษัทเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ก็เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ลองสัมผัส และทดลองขับ กันแบบสั้นๆในสนาม โดยแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนออฟโรด และ ออนโรด
ก่อนอื่นเรามารู้จักเจ้า NEW MG EXTENDER กันก่อนเลยสำหรับ NEW MG EXTENDER มี 9 รุ่นย่อยครอบคลุมทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) และแบบ 4 ประตู (Double Cab) ระบบส่งกำลังแบบธรรมดาและแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ (2WD) และแบบ 4 ล้อ (4WD)
NEW MG EXTENDER แตกต่างด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบโมเดิร์นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเอ็มจี พร้อมมิติตัวถังขนาดใหญ่โดยมีทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) ที่มีความยาวกระบะท้ายถึง 1,900 มิลลิเมตร[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]
ซึ่งยาวที่สุดในรถระดับเดียวกันจึงช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกได้มากยิ่งขึ้น และแบบ 4 ประตู (Double Cab) ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ (Projector) พร้อม Daytime Running Lights บันไดข้าง และกล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ขณะถอย ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่ในรุ่น Giant Cab แบบยกสูง
ภายในสร้างความรู้สึกแข็งแกร่งสอดคล้องกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยใช้โทนสีเข้มและเพิ่มความเรียบหรูด้วยวัสดุให้สัมผัสนุ่ม (SOFT TOUCH) พร้อมแผงหน้าปัดดีไซน์สปอร์ต นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว กุญแจระบบ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ โดยในรุ่น Double Cab ยังมาพร้อมเบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้า เบาะหลังพับได้ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
เอาละเรามาเริ่มขับทดสอบกันที่โซนของออฟโรดกันก่อนเลยดีกว่า เส้นทางออพโรดจะใช้รถ NEW MG EXTENDER รุ่น GRAND X เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งเป็นตัวท็อปสุด เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง และออฟชั่นอื่นๆแบบจัดเต็ม สัมผัสแรกที่ได้ลองไปนั่งหลังพวงมาลัย อืมม มันนั่งสบายดีนะครับ วัสดุอุปกรณ์ และการประกอบ ดูดีกว่ารถรุ่นแรกๆของทาง MG เยอะมาก ตรงนี้ขอชมถือว่าทำได้ดีมีการพัฒนา เคลื่อนตัวออกไปก็จะเป็นเส้นทางแบบเนินสลับซึ่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ NEW MG EXTENDER สามารถทำงานได้ดีถ่ายทอดกำลังในล้อที่ลื่นหมุนฟรีไปยังล้อที่สัมผัสกับพื้นผิวถนนจึงทำให้ขับผ่านมาได้แบบสบาย
ขับต่อมาเจอกับทางขึ้นเนินซึ่งค่อนข้างชันแถมยังเป็นหินลอย และลื่นเพราะฝนตก แต่เจ้า NEW MG EXTENDER มีแรงบิดที่ดีสามารถใช้รอบเดินเบาค่อยๆไต่ขึ้นเนินชันได้อย่างสบาย หลังจากนั้นจึงขับข้ามมาอีกฝั่งของสนามแล้วปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจาก 2H เป็น 4 H โดยไม่ต้องหยุดรถ
และด้านหน้าของเราคือเนินดินจำลองที่สูงชัน ขับขึ้นไปและเบรกค้างระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) ทำงานทันทีไม่มีไหลลงแน่นอน แต่จะหยุดนิ่งบนเนินอยู่ประมาณ 2-3 วินาที ช่วยเราเท่านั้น หลังจากนั้นรถจะไหลลง มันคือระบบช่วยครับเราต้องช่วยตัวเองและมีสติเสมอเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย ซึ่ง 2-3 วินาทีมันเพียงพอกับการที่จะยกเท้าไปกดคันเร่งให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้อย่างปลอดภัย
คุณผู้หญิงน่าจะชอบระบบนี้เพราะมีประโยชน์กับการใช้งานเมื่อขับขึ้นห้างสรรพสินค้า หรือรถติดบนสะพานชันๆ สะดวกดีไม่ต้องกลัวว่าจะไหลไปชนคันหลัง ขึ้นไปถึงบนยอดเนิน ขาลงลองปล่อยไหลลงเลยจ้าไม่เหยียบอะไรทั้งนั้น ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descend Control System) ทำงานช้าไปนิดนะเล่นซะเสียวเลยลงมาช่วงแรกอย่างไวแต่ก็ทำงานนะปลอดภัยเพียงแต่ระบบมันทำงานช้ากว่าค่ายอื่นๆเค้าเล็กน้อย ลงจากเนินมาเจอบ่อน้ำ เจ้าNEW MG EXTENDER สามารถลุยน้ำได้สูง 50 ซม. น้อยกว่าคู่แข่งนะแต่วิ่งผ่านได้แบบสบายๆในระดับ 50 ซม.ไม่ต้องลุ้น ผมว่า 50 ซม.ก็ลึกแล้วนะลึกกว่านี้ผมว่าเรือเถอะเชื่อผม ฮาฮา
จบจากสถานีออพโรดการทดสอบแบบออนโรดเปลี่ยนมาใช้ NEW MG EXTENDER รุ่น GRAND X เกียร์อัตโนมัติ ยกสูงขับเคลื่อน 2 ล้อ ลองอัตราเร่งกันเลย เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 161 แรงม้า วิ่งทางตรงช่วงออกตัวทำได้พอใช้ไม่ได้แรงถึงขนาดดึงหลังติดเบาะแต่ก็ไม่ได้อืดมากนะครับ (ความเร็วช่วงกลางและปลายไม่ได้ลองเพราะไม่มีพื้นที่ให้ลองครับ เอาไว้ยืมรถมาลองเองจะจัดให้ครับ)เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดทำได้น่าพอใจลื่นไหลต่อเนื่องดีครับ วิ่งตรงมาถึงจุดเบรกความเร็วมาที่ประมาณ 80 กม/ชม. กดเบรกเต็มที่ระบบเบรกของ NEW MG EXTENDER สามารถหยุดชลอความเร็วจนหยุดสนิทได้น่าพอใจไม่มีอาการปัดเป๋ของตัวรถ
ขับเป็นทางโค้งสลับซ้าย-ขวา แถมมีโค้งแคบเกือบยูเทิร์นด้วย ผมมาด้วยความเร็วประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โยนเค้าโค้งไปเลยตัวรถมีอาการโยนและโคลงเล็กน้อย อาจเพราะด้วยความเร็วที่เกินกำหนด โดยรวมผมชอบนะนิ่งหนึบดีครับคุมง่าย พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี สามารถควบคุมทิศทางได้ดั่งใจ
ถือว่าเป็นรถกระบะที่มีช่วงล่างเด่นสู้เจ้าตลาดได้เลย อ่อลืมบอกไปโช็คอัพของ NEW MG EXTENDER ใช้แบรนด์ Sachs มาเป็น OEM และให้ยาง Bridgestone Duller H/T 245/60R18 ติดรถมาจากโรงงานเลยนะครับ ผ่านทางโค้งมาจะมาเจอพื้นผิวถนนที่มีเชือกเส้นใหญ่วางพาดสลับไปมา ทดลองขับวิ่งรูดไปเลยจ้าระบบกันสะเทือนและการเก็บเสียงของ NEW MG EXTENDER ให้ความนุ่มนวลพอสมควร
สรุป ช่วงล่างของ NEW MG EXTENDER ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) ทำงานควบคู่กับช่วงล่างแบบ BRIT Dynamic ซึ่งจะให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ในความเร็วต่ำ และให้ความมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูง แต่ไอ้แหนบซ้อนแผ่นนี่มันจะบรรทุกหนักมากไม่ค่อยได้เท่าไหร่นักนะครับ
สรุป เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ แปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ และแบบธรรมดา 6 จังหวะ ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง ECO และ POWER เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน ทำหน้าที่ได้ดีอัตราเร่งใช้ได้เลย ระบบส่งกำลังลื่นไหลต่อเนื่องดีครับ
แถมเจ้า NEW MG EXTENDER มาพร้อมระบบปฏิบัติการ i–SMART เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถเชื่อมต่อกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสั่งการ หรือ SMART Command ผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่สามารถสั่งการให้โทรออก เปิด-ปิดหรือควบคุมระบบปรับอากาศ หน้าต่างฝั่งคนขับ ตลอดจนวิทยุภายในรถ รวมทั้งค้นหาจุดสนใจ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมหรือสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการบนสมาร์ทโฟนผ่าน MG Mobile Application การเชื่อมต่อ หรือ SMART Connect ที่สามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music ค้นหาร้านอาหารและที่พัก รวมทั้งเรียกดูข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบันจากเว็บไซต์ดังได้บนหน้าจอในรถ และการตรวจเช็กรถ หรือ SMART Check โดยสามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู ตรวจสอบตำแหน่งและค้นหารถ แจ้งความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทํางานของรถ รวมถึงระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ ระบบความปลอดภัยครบครัน NEW MG EXTENDER มาพร้อมโครงสร้างตัวถังแบบ FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ด้วยโครงสร้างที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง Thermoforming Steel ในบริเวณเสา A ไปจนถึงเสา B และโครงสร้างโดยรวมใช้เหล็กแบบ High Strength Steel ที่มีความแข็งแกร่งสูง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และเสริมความมั่นคงในการขับขี่ พร้อมรับทุกสภาพการใช้งาน และปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ที่ทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย
- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Braking System)
- ระบบช่วยเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบช่วยกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบตรวจสอบความผิดปดติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descend Control System)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning System)
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ รวมถึงกล้องมองภาพ รอบทิศทาง สัญญาณเตือนกะระยะด้านหลังและด้านหน้า และกล้องมองหลังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่
ราคาจำหน่าย
NEW MG EXTENDER รุ่น GIANT CAB (กระบะตอนครึ่ง)
- NEW MG EXTENDER GC 2.0 C 6MT ราคา 549,000 บาท
- NEW MG EXTENDER GC 2.0 D 6MT ราคา 619,000 บาท
- NEW MG EXTENDER GC 2.0 GRAND D 6MT ราคา 659,000 บาท
- NEW MG EXTENDER GC 2.0 GRAND D 6AT ราคา 719,000 บาท
- NEW MG EXTENDER GC 2.0 GRAND X 6MT ราคา 729,000 บาท
NEW MG EXTENDER รุ่น DOUBLE CAB (4 ประตู)
- NEW MG EXTENDER DC 2.0 GRAND D 6MT ราคา 759,000 บาท
- NEW MG EXTENDER DC 2.0 GRAND D 6AT ราคา 819,000 บาท
- NEW MG EXTENDER DC 2.0 GRAND X 6AT ราคา 879,000 บาท
- NEW MG EXTENDER DC 2.0 GRAND 4WD X 6AT ราคา 1,029,000 บาท
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]