ลองขับ NISSAN X-TRAIL HYBRID เอสยูวี รักษ์โลก พร้อมลุยทุกเส้นทาง
ช่วงนี้กระแสรถยนต์รักษ์โลก มลพิษเป็นศูนย์ หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษน้อยกำลังได้รับความนิยมในตลาดรถยนต์บ้านเราหลายค่ายก็ทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และรักษาสิ่งแวดล้อม ออกสู่ตลาดรถยนต์ในเมืองไทย มีอยู่หนึ่งรุ่นของค่ายนิสสันที่ผมคิดว่ามันน่าสนใจเลยละคุณ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ SUV ที่เป็นเครื่องยนต์ไฮบริด มันกว้างขวาง หรูหรา ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง แถมปล่อยมลพิษออกมาน้อยอีกต่างหาก มันคือเจ้า NISSAN X-TRAIL HYBRID วันนี้ผมจะไปลองขับแล้วเรามารู้จักเจ้าคันนี้ไปพร้อมกันเลย
NISSAN X-TRAIL HYBRID จะมีให้เลือก 2 รุ่น คือ 2.0 Hybrid V 4WD 1,537,000 บาท และ2.0 Hybrid VL 4WD 1,617,000 บาท ซึ่งรุ่นที่ผมนำมาทดสอบวันนี้เป็นรุ่นท็อปสุด 2.0 Hybrid VL 4WD รูปโฉมภายนอกดูเรียบหรู ใหญ่ บึกบึน มากครับกระจังหน้าโครเมียม พร้อมตกแต่งด้วยแถบสีฟ้า แสดงให้รู้ว่าเจ้าคันนี้เป็นรถไฮบริดขับไปคนก็จะรู้ว่าเรารักษ์โลกละคุณดูเท่ห์ไม่เบา ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้า อัตโนมัติ และไฟ Daytime Running Lights แบบ LED สวยงามรับกับกระจังหน้าได้อย่างลงตัว มีไฟตัดหมอกคู่หน้า
กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว มือเปิดประตูภายนอกแบบโครเมียม ไฟท้ายแบบ LED สปอยเลอร์หลัง เสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin และ ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/65 R17 [expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]และที่สำคัญมีรางหลังคามาให้ แต่ เฮ้ย ! ที่ผมชอบมากที่สุดก็คือไอ้เจ้า Panoramic Sunroof นี้ละครับมันทำให้รถดูสว่าง ใหญ่ขึ้น และเปิดรับอากาศหรือไม่ก็นอนดูดาวได้แบบชิลล์ๆเลยฟินน์มากเลยคุณ ฝาท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า แถมไม่ต้องใช้มือเพราะมี Hand-Free Auto Lift Gate ดีงามมากเลยครับ
ภายในห้องโดยสารใช้โทนสีดำดูหรูหรา ด้านข้างเสริมลายเครฟล่าเข้าไปให้ดูสปอร์ตมากขึ้น พวงมาลัยหุ้มด้วยหนังแบบสปอร์ตท้ายตัดทรงD-shape จับนุ่มสบายมือปรับระดับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก )หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT 3D Meter แบบสีดูล้ำสมัย เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำเบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทางระบบปรับดันหลังด้วยระบบไฟฟ้า Lumbar Support นั่งสบายขับไกลๆๆไม่เมื้อยเลยละคุณ
ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับอิสระ 60 : 40 เพิ่มพื้นที่ในการเก็บของได้เยอะเลย กระจกหน้าต่างไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ เสียดายมากที่มันขึ้น-ลง ออโต้ เฉพาะบานของคนขับเท่านั้น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone ไม่ต้องกังวลถ้าคนนั่งข้างๆคุณจะหนาว แต่คุณร้อน ตัดปัญหาทะเลาะกันได้เลยปรับอุณหภูมิได้ของใครของมัน
ผู้โดยสารตอนหลังไม่ต้องน้อยใจเย็นสบายเหมือนกันเพราะมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังให้ด้วย ระบบเครื่องเสียงแบบ A-IVI Mid NAVI หน้าจอระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว รองรับ AM/FM CD MP3 และ DVD มีช่องเชื่อมต่อ AUX-in , USB และBluetooth ระบบนำทาง Navigation System ลำโพง 6 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย) ปลอดภัยแน่นอน ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor ก็มีมาให้แล้วเวลาขับขี่ระยะทางไกลๆสะดวกสบายด้วย ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มีปุ่ม ECO Mode ไว้สำหรับขับขี่ในเมืองด้วยนะเออ ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม ระบบ Auto Brake Hold เรียกได้ว่าคันนี้ออฟชั่นสุดจริงครับ
นอกจากนี้เรารุ่นท็อปสุดอย่าง 2.0 Hybrid VL 4WD คันนี้ยังมาพร้อมระบเพื่อความปลอดภัยครบครันที่นิสสันเรียกว่า NISSAN INTELLIGENT MOBILITY ไม่ว่าจะเป็น
- เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ INTELLIGENT CRUISE CONTROL (ICC) ระบบควบคุมความเร็วที่สั่งการได้อัตโนมัติ ในสถานการณ์ที่มีรถอยู่ข้างหน้า ระบบสามารถชะลอรถตามความเร็วของรถคันหน้า และรักษาระยะห่างระหว่างรถตามที่ปรับตั้งไว้ได้เองโดยอัตโนมัติ เมื่อสามารถกลับมาใช้ความเร็วได้ ระบบจะปรับความเร็วขึ้นเองโดยอัตโนมัติ กลับไปสู่ระดับความเร็วที่ผู้ขับตั้งไว้
- เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทางINTELLIGENT AROUND VIEW MONITOR (IAVM)ระบบอัจฉริยะที่จะช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน กล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และนำไปประมวลผล จากนั้นแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ และยังทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ด้านหน้าและด้านหลังของ ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ เทคโนโลยีอัจฉริยะนี้จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัย และให้ความมั่นใจในการขับขี่อย่างคล่องตัว
- GIVING YOU A BIRD’S EYE VIEW ควบคุมทุกอย่างได้จากภายในเทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะINTELLIGENT FORWARD COLLISION WARNING (FCW) เทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่ ระบบเตือนการชนด้านหน้า หากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า โดยระบบจะส่งสัญญาณและเสียงเตือน
นอกจากนี้ยังมี ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS ,ระบบกระจายแรงเบรก EBD ,ระบบเสริมแรงเบรก BA ,ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ VDC ,ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ ARC ,ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะถอนคันเร่ง หรือ เข้าโค้ง AEB ,ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง ATC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS,ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน IEB,ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW,ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา AVM,ระบบตรวจจับ และ ส่งสัญญาณเตือนวัตถุรอบคัน MOD,ระบบกุญแจ Immobilizer และ สัญญาณกันขโมย ,ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ,ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ICC ,ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง LDW ,ระบบเตือนจุดอับสายตา BSW,ระบบเตือนเมื่อมีวัตถุตัดผ่านขณะถอยรถ RCTA ,ระบบช่วยปรับไฟสูงอัตโนมัติ HBA
เรามาลองขับกันดีกว่าสตาร์ทเครื่องยนต์ เฮ้ย!! เงียบดีจังแบบนี้หนีเที่ยวสบาย ขับฝ่ารถติดในเมืองแบบชิลล์เพราะเจ้า NISSAN X-TRAIL HYBRID คันนี้ เป็นเครื่อง เบนซิน 2.0 Hybrid 4 สูบ รหัส MR20DD Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี.4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin C-VTC กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที พ่วงกับมอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous Electric Motor กำลังสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิด 160 นิวตันเมตร และ แบตเตอรี่ Li-ion แรงดันไฟฟ้า 202 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 887 วัตต์/ชั่วโมง เมื่อรวมกำลัง ทั้งเครื่องยนต์ และ มอเตอร์ไฟฟ้า ได้กำลังสูงสุด 179 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT 7 จังหวะ
พร้อม Manual Mode (M-CVT) ขับเคลื่อน 4 ล้อ เลือกโหมดการขับเคลื่อนได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ, ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แถมมีปุ่มECO ทำให้รถติดขนาดไหนก็ไม่ต้องกังวลน้ำมันเหลือเพียบ แถมถึงรูปลักษณ์ภายนอกจะดูใหญ่แต่ความคล่องมันก็มีสูงนะคุณลัดเลาะไปตามช่องว่างบนถนนได้อย่างสบายเลยละ มันเหมาะกับใช้เดินทางในเมืองมากจริงๆคุณ วิ่งออกมามอเตอร์เวย์รถเริ่มบางตาเพราะเป็นวันธรรมดาคนอื่นทำงานกันแต่เราไปเที่ยว ฮาฮา อัตราเร่งต้องบอกว่าดีกว่าเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาแบบเห็นได้ชัด กดเป็นมามันทำงานผสานกับเกียร์ XTRONIC CVT 7 จังหวะ ได้อย่างนุ่มนวล ลื่นไหล เร่งแซงไม่มีปัญหา ความเร็วปลายทะลุ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก กดคันเร่งเพลินเพราะรถมันขับสนุก มองไปบนหน้าจอมันบอกสถานะว่าตอนนี้เราใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องยนต์อยู่ ขับไปเบื่อๆเลยขอชาเรนจ์ตัวเองซะหน่อย พยายามขับให้ใช้ไฟฟ้าอย่างเดียวเพื่อความประหยัดเงินในกระเป๋า คือการใช้ความเร็วคงที่ประมาณ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง กดคันเร่งเนียนๆไม่กดแรงพรวดลงไป เลี้ยงคันเร่งไว้ประมาณนั้นเท้านิ่งๆ ทำได้อยู่พักเดียวละคุณมันเมื่อย คิดได้ว่าเจ้าคันนี้มีระบบ INTELLIGENT CRUISE CONTROL ลองใช้เลย เฮ้ย !! อีกแล้วคุณมันใช้งานง่ายแล้วใช้ดีด้วย เพราะมันสามารถเร่งความเร็ว ตั้งระยะห่างจากคันหน้าได้ แถมเมื่อมีใครตัดหน้ามันเบรกให้ด้วย สุดยอดไปเลย
แต่จะว่าไปจริงๆแล้วถ้าเอาเจ้าคันนี้วิ่งไปต่างจังหวัดที่ต้องขึ้น-ลงเขา หรือไม่ก็ขับเร็วๆตลอดเวลา มันก็ไม่ประหยัดเท่าไหร่นะคุณ เอาง่ายๆเลยนะถ้าชีวิตประจำวันของคุณจำเป็นต้องผ่านเส้นทางภูเขา วิ่งต่างจังหวัดไกลๆทางยาวๆ ใช้ความเร็วค่อนข้างเยอะ ถ้าคุณต้องใช้รถแบบนี้รถไฮบริดมันจะใช้เครื่องยนต์อย่างเดียว จะไม่ค่อยได้ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เท่าไหร่นัก นั้นหมายความว่ามันก็กินน้ำมันเหมือนรถเบนซินปกตินั้นละ แต่ถ้าคุณใช้ชีวิตอยู่ในเมืองขับรถไปทำงานแล้วกลับบ้าน เที่ยวต่างจังหวัดบ้างนานๆที รถไฮบริดเหมาะกับคุณที่สุด ลองคิดดูครับว่าการใช้ชีวิตของคุณเหมาะกับรถยนต์ไฮบริดหรือไม่ เรื่องพละกำลังของเครื่องยนต์นะหรอหายห่วงครับจะขึ้น-ลงเขา เร่งแซง ใช้ความเร็วในการเดินทางสูงๆ เจ้า NISSAN X-TRAIL HYBRID คันนี้มีให้หมดครับเผลอๆจะแรงและขับสนุกกว่าเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาด้วยซ้ำ
ระบบช่วงล่าง ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ระบบเบรกหน้า-หลัง สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนของพื้นผิวถนนได้ดี การวิ่งทางตรงยาวๆด้วยความเร็วตัวรถยังคงนิ่งควบคุมง่าย เค้าโค้งด้วยความเร็วก็ทำได้ค่อนข้างดีครับ ควบคุมง่ายพวงมาลัยน้ำหนักดีเฉียบคมบังคับได้ดังใจเลยละคุณ
NISSAN X-TRAIL HYBRID รถเอสยูวีที่เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยให้ทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัยขั้นสูง ด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะของนิสสัน Nissan Intelligent Mobility ที่รวมไว้ซึ่งฟังก์ชั่นควบคุมเพื่อความมั่นใจทุกสถานการณ์การขับขี่ ป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยอีกระดับของผู้ขับขี่ อัตราเร่งดีขับสนุก แถมประหยัดด้วยระบบไฮบริด ดีไซน์ภายนอกเรียบหรูดูดี ภายในกว้างขวางสะดวกสบาย ช่วงล่างนุ่มนวลไม่ย้วยไม่โคลง แถมมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยนะ กับราคาคันนี้รุ่นท๊อปสุดฟลูออฟชั่น 1,617,000 บาท ผมว่าเป็นตัวเลือกทีหน้าคิดเลยทีเดียวครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]