ลองขับ Toyota C-HR GR SPORT บนสนามแข่งระดับโลก มีดีแค่ไหนเดี๋ยวรู้กัน
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จัดกิจกรรม Toyota Gazoo Racing GR Driving Experience ซึ่งเป็นการนำเอารถยนต์ในตระกูล GR Sport ทั้งหมด 5 รุ่น ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ Toyota GR Supra, Toyota GR Yaris, Toyota Altis GR Sport, Toyota Cross GR Sport, Toyota Fortuner GR Sport, Toyota Revo GR Sport และคันล่าสุดในตระกูล GR Sport คือ Toyota C-HR GR Sport
มาให้ได้ลองขับกันเพื่อที่จะได้สัมผัสสมรรถนะกันให้ได้รู้ไปว่า GR Sport ไม่ได้มีดีแค่ชุดแต่งรอบคันเท่านั้น บนสนนามแข่งระดับโลก ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ แต่เป้าหมายของเราในงานนี้คือเจ้าน้องใหม่ในตระกูล GR Sport อย่าง Toyota C-HR GR Sport นั้นเอง เพราะอยากรู้เหลือเกินว่ามันจะดีขึ้นกว่ารุ่นปกติขนาดไหน มีอะไรต่าง มีอะไรเสริมเข้ามาบ้างคุ้มค่าหรือไม่เดี๋ยวรู้กันครับ
Toyota C-HR GR SPORT ภายนอก-ภายใน มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
สำหรับ Toyota C-HR GR SPORT จะถูกตกแต่งภายนอกด้วยชุดแต่ง GR Sport สเกิร์ตรอบคันเสริมให้ตัวรถดูสปอร์ตมากขึ้น ชุดตกแต่งกันชนหน้าดูโฉบเฉี่ยว ไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟเลี้ยว LED Sequential พร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED มีสัญลักษณ์ GR บริเวณกันชนหน้าและประตูท้าย ไฟท้าย Full LED รมดำ พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์เฉพาะรุ่น GR Sport เท่านั้น และสามารถเลือกตัวถังได้ 3 สี ประกอบด้วย สีดำหลังคาเงิน (Attitude Black Mica/Silver Roof), สีขาวมุกหลังคาดำ (Platinum White Pearl/Black Roof) และสีแดงหลังคาดำ (Premium Red/Black Roof) น่าเสียดายที่เมืองไทยไม่ได้นำ Toyota C-HR GR SPORT หน้าที่เราเห็นในญี่ปุ่นมา ไม่งั้นนะขายกระหน่ำแน่นนอน
ส่วนภายในห้องโดยสารของ Toyota C-HR GR SPORT ถูกตกแต่งด้วยสีดำ Total Look และสีเงิน Gun Metallic มาพร้อมเบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตเดินด้ายสีเทาพร้อมระบบดันหลังไฟฟ้า (Lumbar Support) มีสัญลักษณ์ GR พวงมาลัยหุ้มหนังแบบเจาะรูพร้อมสัญลักษณ์ GR และปุ่ม Push Start ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ GR หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, ระบบเชื่อมต่อ T-Connect, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อม nanoe, เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold, จอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว และระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense พร้อมระบบ Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-Speed Range จุดเด่นที่ทำให้ GR SPORT นั้นโดดเด่นและเหนือกว่ารุ่นปกติ หรือคู่แข่งที่เป็นรุ่นพิเศษนั้นก็คือ การปรับจูนช่วงล่างใหม่ ด้วยการพัฒนาคอยล์สปริง และโช๊คอัพ ที่ โตโยต้า เคลมเอาไว้ว่าขับสนุกกว่าเดิมแน่นอน
ความรู้สึกในการทดสอบ Toyota C-HR GR SPORT
เอาละเมื่อทางโตโยต้าคอนเฟริ์มมาแบบนั้น วันนี้เราจะมาลองให้มันรู้กันไปว่า Toyota C-HR GR SPORT จะดีสมราคาคุยหรือไม่ ก่อนหน้าที่เราจะไปขับในสนามกันผมได้มีโอกาศนำเจ้า Toyota C-HR GR SPORT มาขับก่อนโดยเครื่องยนต์ของเจ้า Toyota C-HR GR SPORT เป็นเครื่องยนต์ไฮบริด 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิตร ให้กำลังรวมทั้งระบบสูงสุด 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT มีการเร่งออกตัวดีแม้ว่าจะมีจังหวะประมวณผลของเครื่องยนต์ก่อนเล็กน้อย
แต่ก็ไม่ได้อืดอาดยืดยาดอะไร พวงมาลัยมีการปรับเซ็ทใหม่น้ำหนักดีทำให้การขับใช้งานในเมืองทำได้คล่องตัว ขับง่าย ทำให้รถสามารถลัดเลาะตามช่องว่างถนนได้ดังใจต้องการ ออกมานอกเมืองลองอัตราเร่งกันหน่อยต้องบอกว่า Toyota C-HR GR SPORT คันนี้ขับสนุกมากครับ อัตราเร่งดี ไม่อืด ความเร็วเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่อง และลื่นไหล วิ่งทางตรงด้วยความเร็วพวงมาลัยที่ปรับจูนมาใหม่ให้น้ำหนักที่ดีมั่นใจ ผสานกับระบบช่วงล่างที่ปรับจูนใหม่ ทำให้รถนิ่งขึ้น การเข้าโค้งด้วยความเร็วก็ทำได้อย่างมั่นใจไม่มีโคลง แต่ก็แลกมาด้วยความกระด้างเล็กๆ
เอาละกลับมาที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กันรถ Toyota C-HR GR SPORT จอดรอพร้อมอยู่ที่ PIT ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น และฝนที่ตกกระหน่ำลงมา นั้นทำให้แทรคของ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต วันนี้จะกลายเป็น WET TRACK ที่เพิ่มความยากในการทรงตัวของรถเข้าไปอีกขั้น เมื่อรถพร้อมคนพร้อมก็ออกไปซิ่งกับ Toyota C-HR GR SPORT กันเลย สถานีต่างๆ ถูกเซ็ตขึ้นมาในสนามเพื่อที่จะให้ลองสมรรถนะของระบบช่วงล่าง และเครื่องยนต์ของ Toyota C-HR GR SPORT สถานีสลาลม, สถานีการเปลี่ยนช่องทางฉุกเฉิน รวมไปถึงการเข้าโค้งหนักๆ โค้งลึก โค้งไฮสปีด ต้องบอกเลยว่าทำได้ดี และโดดเด่นมาก ขนาดผมเข้าโค้งลึกๆด้วยความเร็วสูงที่ดูเหมือนถ้าไม่ลดความเร็วมันต้องแหกโค้งแน่นอน แต่ก็สูดหายใจลึกๆแล้วกดคันเร่งต่อไม่ยกก่อนเข้าโค้ง
เฮ้ยๆผ่านไปได้แบบเนียนๆเลยครับ ผ่านโค้งนี้ไปโค้งที่เหลือสบายเลยครับ ต้องบอกว่าระบบช่วงล่างปรับเซ็ทได้ดีลงตัวมาก แน่น หนึบ ให้ความมั่นใจในการขับได้ดี ผมขับรุ่นปกติว่าแพลตฟอร์ม TNGA ดีแล้วนะ แต่ Toyota C-HR GR SPORT ที่ปรับช่วงล่างใหม่เข้าไปอีก ยิ่งทำให้ขับได้ยอดเยี่ยมกว่ารุ่นปกติแบบสัมผัสได้ อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ขับดีขึ้นนั้นก็คือการปรับพวงมาลัยมาให้สอดรับกับช่วงล่างใหม่ ทำให้พวงมาลัย มีน้ำหนักที่พอเหมาะ และแม่นยำ เวลาหักเลี้ยว หรือการคืนพวกมาลัยตอนออกจากโค้ง รู้สึกได้ถึงความพอดีแม่นยำไปในทิศทางที่เราต้องการ ควบคุมง่ายมากครับ
สรุปคุ้มค่าหรือไม่
Toyota C-HR GR SPORT มาพร้อมราคาจำหน่าย 1,189,000 บาท เพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติ 5 หมื่นบาท ถามว่าคุ้มค่าหรือไม่ ผมมองว่ามันก็คุ้มนะครับ ถึงแม้จะไม่ได้หน้าตาเท่แบบญี่ปุ่นเค้า แต่ชุดแต่งที่ออกมาจากโรงงานก็สวยอยู่นะครับ และที่เด็ดสุดคือการปรับจูนช่วงล่างใหม่ มันทำให้ Toyota C-HR GR SPORT ขับสนุกขึ้นทั้งบนถนน และในสนามแข่ง ต้องลองไปขับด้วยตัวคุณเองแล้วคุณจะรู้
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th