ลองขับ Toyota Fortuner GR Sport 2024 224แรงม้า ซัดตึง ขับสนุกแค่ไหน
ลองขับ Toyota Fortuner GR Sport 2024 พลัง 224 แรงม้า ซัดยาวกว่า 700 กิโลเมตร ขับสนุก ขับมันส์ กินน้ำมันขนาดไหน มาดูกันครับ Toyota Fortuner GR Sport คันนี้ทางโตโยต้ามีการปรับอัพเกรดใหม่ และบวกเงินค่าตัวเพิ่มอีก 30,000 บาทซึ่งครั้งนี้เราจะนำเจ้า Fortuner GR Sport 2024 คันนี้มีทดสอบกันแบบขับระยะทางยาวๆดูซิว่าขับสนุกขับดีแค่ไหน ได้อะไรเพิ่มมาบ้าง กับราคาเริ่มต้นที่ 1,969,000 – 1,989,000 บาท มาดูกันครับ
เรามาเริ่มได้อะไรมาเพิ่มเติมบ้างกับค่าตัวที่แพงขึ้น
1.อัพเกรด เครื่องยนต์รองรับมาตรฐาน EURO4 เป็น EURO5 และมีพละกำลัง 224 แรงม้า
2.เพิ่ม ระบบ DPF : Diesel Particulate Filter Regeneration ทำความสะอาดคราบเขม่า
3.เพิ่ม ระบบ Idling Stop ตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ
นอกจากนี้แน่นอนที่มีเสริมเข้ามาเฉพาะรุ่น GR Sport นี้เท่านั้นก็คือ มันจะถูกติดตั้งช็อค-อัพซอร์เบอร์แบบ Monotube ทั้งหน้าและหลัง พร้อมอุปกรณ์ตกแต่ง GR Sport เช่น กุญแจ Smart Key และปุ่ม Push Start ประดับด้วยสัญลักษณ์ GR, คันเร่งและเบรกอะลูมิเนียมสปอร์ต และคาลิเปอร์เบรกสีแดง
ภายในห้องโดยสาร
เน้นโทนสีดำ ตัดกับวัสดุตกแต่งสี Smoke Silver พร้อมบุหนังสีดำ เดินตะเข็บด้ายสีแดง เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ตปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับอิสระ 60 : 40 ปรับเอนได้เลื่อนหน้า-ถอยหลังได้ และพับแบบจังหวะเดียว One Touch เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับอิสระ 50 : 50 ปรับเอนได้ แต่ยังคงพับยกขึ้นด้านข้างเหมือนเดิม วัสดุเบาะนั่งเป็น Suede แบบเจาะรู หุ้มหนัง สลับ หนังกลับ เดินตะเข็บด้ายสีแดง หน้าจอแสดงข้อมูล MID แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone พร้อมแผ่นกรองอากาศ PM 2.5 พวงมาลัยตกแต่ง Center Mark สีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR มี Paddle Shift มาให้ มีโหมดการขับขี่ ECO / Normal / Sport สวิตซ์ควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง แบบแยกส่วน ช่องเก็บของด้านบน แบบรักษาความเย็น Cool Box ช่องชาร์จไฟ 12V 2 ตำแหน่ง ช่องชาร์จไฟ AC 220V 1 ตำแหน่ง ช่องชาร์จไฟ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง 2 ตำแหน่ง ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger และพรมพื้นห้องโดยสาร ดีไซน์เฉพาะรุ่น GR Sport
ส่วนระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์
ก็จัดเต็มเช่นกัน มาพร้อมหน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 9 นิ้วรองรับระบบ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless ระบบเสียง JBL Premium Audio พร้อมพาวเวอร์แอมป์ ลำโพง 9 ตำแหน่ง 11 ลำโพง พร้อม Sub Woofer และยังมีระบบ T-Connect Telematics ซึ่งประกอบด้วย Find My Car เช็คตำแหน่งตัวรถผ่าน Application Find My Car หรือ Apple Watch ,Service Reminder ระบบแจ้งเตือนการบำรุงรักษารถยนต์ เมื่อถึงรอบตามระยะ ,Service Appointment บริการนัดหมายเข้าศูนย์บริการผ่านระบบออนไลน์ ,My Message แจ้งข่าวสาร ข้อมูลส่วนลด พร้อมสิทธิพิเศษจากโครงการ Toyota Privilege ,Parking Alert ระบบแจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อรถถูกสตาร์ท หรือ เคลื่อนที่ ,Stolen Vehicle Tracking ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์ เมื่อถูกโจรกรรม ,My Toyota Wi-Fi กระจายสัญญาณ เชื่อมต่อความบันเทิงได้พร้อมกันสูงสุด 9 อุปกรณ์ ,OPS (Operation Service) ผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจองร้านอาหาร ,SOS ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ,Roadside Service บริการประสานงานไปยังผู้แทนจำหน่ายใกล้เคียง เพื่อขอรับความช่วยเหลือบนท้องถนน และ Health บริการประสานงานแจ้งเหตุฉุกเฉินด้านการแพทย์ โดยการส่งตำแหน่งที่คุณอยู่ไปยังสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) มันเพิ่มความสะดวกสบาย มั่นใจ ปลอดภัย ในการเดินทางระยะไกลแบบนี้ได้ดีเลยครับ
TEST DRIVE ลองขับ
เราเริ่มออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่จากย่านลาดปลาเค้า เพราะวันนี้เราต้องเดินทางกันยาวๆมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วงเช้าก่อนท้องฟ้าสว่างเจ้า Fortuner GR Sport คันนี้ให้ทัศนวิสัยที่มีในการขับขี่เพราะด้วยตัวรถที่สูงมองเห็นได้ไกล และไฟหน้าที่เป็น Dual Projector Lens แบบ LED มันให้ความสว่าง และชัดเจนมองเห็นไกล ทำให้การเดินทางง่ายขึ้นเยอะ ช่วงในเมืองผมอยู่ในโหมด ECO ตลอดเวลา อัตราเร่งช่วงออกตัวทำได้ดี มีความคล่องตัว ขับง่ายลัดเลาะสบาย พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบ VFC น้ำหนักกำลังดี ควบคุมง่าย หลุดพระราม 3 ออกมาเป็นทางตรงยาวๆ ลองกดคันเร่งดู
ซะหน่อย อัตราเร่งช่วงกลางดันดีติดเท้ามากครับนี่ขนาดอยู่โหมด ECO นะครับ ช่วงกลางไปปลายลื่นไหลดีกดไปเพลินๆทะลุ 160 แบบสบายๆ เลยลองเปลี่ยนเป็นโหมด Sport ซะหน่อยดูซิว่ามันแต่ต่างขนาดไหน แตะคันเร่งลงไป อืมม ดึงหนักขึ้น อัตราเร่งดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด ขับสนุกมากๆ แต่ต้องห้ามใจไว้เพราะความสนุกมันต้องแลกมากับอัตราสิ้นเปลืองที่เยอะขึ้นนั้นเอง ต้องบอกเลยว่าเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.8 GD Super Power ที่ปรับจูนเพิ่มกำลังสูงสุดเป็น 224 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที (เพิ่มขึ้นจากปกติ 20 แรงม้า / 50 นิวตัน-เมตร) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Sequential Shift ทำหน้าที่ได้ดีขับสนุกขึ้นจริงครับ ความเร็วเดินทางผมขับความเร็วค่อนข้างสูงเนื่องจากจุดหมายไกลไม่อยากไปถึงมืด จึงกดซัดตึงตลอดการเดินทาง อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 9.7 กิโลเมตรต่อลิตร นี่ถ้าขับแบบไม่เร่ง ไปเรื่อยๆ 100 – 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงน่าจะทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีกว่านี้เยอะครับ
นอกจากเครื่องยนต์ที่ขับสนุกแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เจ้า Fortuner GR Sport ขับสนุกมากขึ้นนั้นก็คือระบบช่วงล่าง ด้านหน้าที่เป็นอิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และ เหล็กกันโคลง โช็คอัพแบบ Monotube Shock Absorber ส่วนด้านหลังแบบ 4-Link พร้อมคอยล์สปริง และ เหล็กกันโคลง โช็คอัพแบบ Monotube Shock Absorber ที่ถูกปรับเซ็ทมาได้อย่างลงตัว แน่น หนึบ แต่ยังคงให้ความนุ่มสบายอยู่ การขับความความเร็วสูงตัวรถยังคงนิ่ง และควบคุมง่าย สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนของพื้นผิวถนนได้ดี การเข้าโค้งทำได้นิ่งเนียนกริ๊ป ขับง่าย แถมโดดคอสะพาน หรือรูดเนินลูกระนาด ได้สบายๆเลยครับ
ระบบเบรกมั่นใจได้ ด้านหน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน ด้านหลัง ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน หยุดรถได้อย่างมั่นใจ แน่นอนเจ้าคันนี้มันสามารถพาคุณไปได้ในทุกเส้นทางเพราะมันมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นมาตรฐาน นั้นเอง
ระบบความปลอดภัย
ABS , EBD ,ระบบเสริมแรงเบรก BA ,ควบคุมการทรงตัว VSC ,ป้องกันการลื่นไถล TRC ,ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ,ควบคุมส่วนพ่วงท้าย TSC ,คุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC, Auto Limited Slip Differential ,ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง , Blind Spot Monitor ,Rear Cross Traffic Alert
Toyota Safety SENSE
– Dynamic Radar Cruise Control
– Lane Departure Alert
– ระบบเตือนการชนด้านหน้า Pre-Collision System
– ระบบเตือนแรงดันลมยาง TPMS
– กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
– สัญญาณกะระยะช่วยจอดด้านหลัง 6 ตำแหน่ง
– ระบบกุญแจ Immobilizer
– ระบบสัญญาณกันขโมย
ราคาจำหน่าย
– สีดำ Attitude Black Mica 1,969,000 บาท
– สีแดง Emotional Red | Black Top 1,989,000 บาท
– สีขาวมุก Platinum White Pearl | Black Top 1,989,000 บาท
สรุป ลองขับ Toyota Fortuner GR Sport 2024
ต้องบอกเลยว่าเป็น ฟอร์จูนเนอร์ ที่ขับสนุกขับดีมากที่เดียว จ่ายเงินเพิ่ม 30,000 บาท แต่มันแลกมาด้วยเครื่องยนต์ที่แรงขับสนุก ระบบช่วงล่างปรับเซ็ทมาได้อย่างลงตัว ชุดแต่งGRรอบคัน และระบบช่วยการขับขี่ และระบบความปลอดภัยแบบเต็มๆ
แถมยังมาพร้อมขับเคลื่อน 4 ล้อ แน่นอนมันสามารถพาคุณเดินทางไปในทุกเส้นทางอย่างแน่นอน ถ้าคุณชอบรถอเนกประสงค์ที่ขับสนุก อุปกรณ์ครบครัน ผมว่า Toyota Fortuner GR Sport 2024 คันนี้น่าสนใจทีเดียวครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th