ลากรถอย่างไร?ถึงจะไม่พัง
บ่อยครั้งที่รถเสียกลางทาง แล้วไม่สามารถซ่อม ณ จุดเกิดเหตุได้ การลากจูงเพื่อพาไปยังอู่ซ่อมจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามมา สำหรับคนที่มีนิยมความสบายด้วยการโทรเรียกผู้ให้บริการรถลากจูง ก็หมดปัญหาไป เพราะทางผู้ให้บริการจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่สำหรับคนที่ไม่มีเบอร์ หรืออาจจะไม่มีโทรศัพท์ งานนี้ก็คงต้องพึ่งความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทาง หรือแท็กซี่
อุปกรณ์ที่ควรมีติดรถเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นรถเก่าหรือรถใหม่ป้ายแดงคือ สายลากจูง เพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องเป็นฝ่ายลากหรือถูกลากเมื่อไร ดังนั้นควรมีเอาไว้ก่อนย่อมดีกว่า ส่วนการลากควรใช้ความเร็วไม่สูงมาก ประมาณ 40-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากรถยนต์สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ แต่ไม่สามารถขับเคลื่อน ก็ควรสตาร์ทเอาไว้ เพื่อที่จะได้ใช้ระบบเบรกได้ตามปกติ แต่ในกรณีที่เครื่องยนต์ไม่ติด ก็ควรใช้เบรกมือเข้าช่วยในการลดความเร็ว
สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การทำป้ายบอกเพื่อนร่วมทาง โดยแปะเอาไว้ที่ท้ายรถของคันที่ถูกลาก รวมถึงการนำผ้าหรือเชือกที่มีสีสันสะดุดตานำมาผูกเอาไว้ที่สายลากจูงเพื่อป้องกันไม่ให้มอเตอร์ไซค์มุดเข้ามา หรือเตือนให้คนเดินถนนทราบ เป็นการลดการเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากการสะดุดสายลาก
หากต้องลากเป็นระยะทางไกลๆ เกิน 50 กิโลเมตร ควรหยุดพักเป็นระยะๆ เพื่อให้น้ำมันเกียร์และเฟืองท้ายได้ระบายความร้อน และเป็นการลดความเสียหายให้กับชิ้นส่วนเหล่านี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th