หลังจากที่รู้จักกับ “ล้อเหล็ก” หรือ “ล้อกระทะ” กันไปแล้วใน EP1 ตอนนี้ ก็มาถึงล้อยอดนิยมที่ภาษาเราเรียกกันว่า “ล้อแม็ก” ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในยุคนี้ ถ้าย้อนไปในในอดีต ตอนยุค 70 – 80’s ใครใส่ ล้อแม็ก จะรู้สึกว่า “เท่ ไฮโซ” มากๆ โดยเฉพาะล้อแม็กขอบลึกๆ เงาๆ ยางหน้ากว้าง ซีรีส์เตี้ย นี่ถือว่า “สุดยอด” สายซิ่ง จนเป็นเทรนด์ฮิตมาจนถึงบัดนี้ เรามาพูดคุยกันถึง ล้อแม็ก กันหน่อย ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร แล้วที่ใช้ๆ กันอยู่นั่น “ใช่ล้อแม็กแท้” จริงหรือ ???

คำว่า “ล้อแม็ก” มาจากอะไร

“แม็ก” หรือ “Mag” (ไม่ใช่ Max) มาจากคำว่า “แม็กนีเซียมอัลลอย” (Magnesium Alloy) ซึ่งเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรงในระดับหนึ่ง นำมาผลิตล้อสำหรับ “รถแข่ง” ตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน ล้อแม็กนีเซียม มีราคาแพง แต่เป็น “เสน่ห์” อย่างมาก คนก็เลยนิยมซื้อล้อแม็กนีเซียมรุ่นเก่าๆ มาเก็บสะสม หรือ “ใส่จอดโชว์” โก้ๆ ประดับบารมี ดังนั้น คำว่า “ล้อแม็ก” จึงเป็นการเรียกย่อๆ ตั้งแต่อดีต ส่วนในปัจจุบัน ล้อแม็กนีเซียม ก็ยังมีใช้กันอยู่ในรถแข่ง หรือ รถระดับ Super Car หรือ Hyper Car สมรรถนะแรงหลุดโลกทั้งหลาย ซึ่งก็มีราคาที่แพงมากเช่นกัน…

ล้อแม็กทั่วไป ใช่แม็กแท้หรือเปล่า ???

ด้วยข้อจำกัดของ แม็กนีเซียม ที่มีราคาแพง จึงขายได้เฉพาะกลุ่มที่แต่งรถแบบเงินถึงๆ ก็เลยมีการ “เปลี่ยนวัสดุ” ในการผลิตล้อใหม่ มาเป็น “อลูมินั่มอัลลอย” (Aluminum Alloy) แบบในปัจจุบันทั่วไป ที่มีความแข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบาสู้แม็กนีเซียมไม่ได้แน่ๆ แต่ถ้าเป็นล้อที่ผลิตมาดีๆ พวก “Forged” ก็เบาใช้ได้เหมือนกัน (เดี๋ยวค่อยว่ากันใน EP ถัดๆ ไป) ดังนั้น ล้อแม็กในปัจจุบัน จึงควรจะเรียกว่า “ล้ออัลลอย” เสียมากกว่า เพราะมันไม่ได้ผลิตจากแม็กนีเซียม แต่ด้วยความที่เรียกกันติดปากว่า ล้อแม็ก ก็เรียกกันต่อไป แต่ให้เข้าใจว่า “มันมาจากไหน” และ “ความจริงเป็นอย่างไร” ก็พอ…

มันดีอย่างไร ทำไมมันดีจัง

ตอนนี้ ล้อแม็ก หรือ ล้ออัลลอย จะใช้งานกันทั่วไปแล้ว ไม่ใช่ของหายากเหมือนแต่ก่อน ที่ต้องเป็นของแต่ง อุปกรณ์พิเศษ ตอนนี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดรถไปแล้ว เนื่องจากเทคโนโลยีที่ดี รวมไปถึงขั้นตอนการผลิตที่ทันสมัย เลยทำให้ล้อมีคุณภาพสูงขึ้น ราคาไม่แพง ข้อดีของมันมีดังนี้…

• น้ำหนักเบา : ถ้าเทียบกับล้อเหล็ก ล้อแม็กจะมีน้ำหนักที่เบา ด้วยวัสดุอะลูมินั่มอัลลอย เมื่อล้อมีน้ำหนักเบา ก็จะทำให้ “ภาระที่รถต่ำลง” พูดง่ายๆ “โหลดน้อย” รถก็วิ่งดี ประหยัดน้ำมันขึ้น ช่วงล่างตอบสนองดีขึ้น ความนุ่มนวล การเกาะถนนก็ดีกว่า อันนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น เพราะแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นจากมวลน้ำหนักเบาจะต่ำกว่า ตอนนี้ พวกล้อแม็กแพงๆ จึงต้องทำให้เบาและแข็งแรงมาก ด้วยวัสดุและขั้นตอนการผลิตที่เหนือระดับไปเรื่อยๆ…
• ลวดลายสวยงาม หลากหลาย : ล้อแม็ก ใช้วิธีการ “หล่อขึ้นรูป” จึงสามารถออกแบบลวดลายได้สวยงาม มีโค้ง มีความซับซ้อน ลูกเล่นต่างๆ ได้ตามจินตนาการ ต่างจากล้อเหล็กที่ปั๊มโป้งเดียวจบ จึงไม่สามารถทำลวดลายหลากหลายได้เหมือนล้อแม็ก ทำให้สามารถเลือกลายล้อได้มากมายตามที่เราต้องการ เสริมความหล่อให้กับรถได้มากมาย…

มีดี ก็ มีเสีย

• ความแข็งแรงน้อยกว่าล้อเหล็ก : ก็น่าจะเป็นข้อเสียเดียวที่เล่าลือกันในอดีต ว่าล้อแม็กมันไม่ทน แตกง่าย อันตราย ฯลฯ ซึ่ง “อาจจะจริง” เพราะในสมัยก่อน เทคโนโลยีต่างๆ ทั้งในด้านโลหะ ส่วนผสม การผลิต ในบ้านเรา ก็อาจจะยังไม่พร้อมเหมือนสมัยนี้ ซึ่งล้อแม็กพัฒนาไปมาก น้ำหนักเบาและแข็งแรง (ล้อแท้ หรือ ล้อติดรถจากโรงงานนะ) เรียกว่าถ้าไม่ชนหรือตกหลุมโหดจริงๆ แบบผิดปกติ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ยังไงการรับแรงก็สู้ล้อเหล็กไม่ได้แน่นอน วัตถุประสงค์การผลิตมันต่างกัน…
• ราคาแพงกว่าล้อเหล็ก : สมัยก่อนล่ะใช่ เพราะปริมาณการผลิตน้อย ไม่เหมือนสมัยนี้ที่โรงงานผลิตเยอะแยะมากมาย ยิ่งผลิตเยอะก็ยิ่งถูกลง จนไม่เรียกว่าเป็นข้อเสียที่ยอมรับไม่ได้…

เอาละครับ สำหรับพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับ “ล้อแม็ก” เราได้คำตอบแล้วนะครับ ว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร รวมไปถึง ข้อดี และ ข้อเสีย อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าไอ้ล้อที่เราใส่อยู่นั่น สรุปมันมีดีมีเสียอย่างไร EP ถัดไป ยังอยู่กับเรื่องล้อ ซึ่งจะลึกเข้าไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังอ่านและเข้าใจง่ายเสมอครับ…

เรื่อง: อินทรภูมิ์ แสงดี

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th