วอลโว่ V60 รถเอสเตท 5 ประตู ที่ตอบโจทย์ความสมบูรณ์แบบในชีวิต
เมื่อก่อนตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นสิงห์คะนองนา! ผู้เขียนเองมีมุมมองการเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์สักคันหนึ่ง มันต้องดูสปอร์ต เครื่องแรง ดีไซน์ต้องสะดุดตา ที่สำคัญขอแรงเอาไว้ก่อน ซึ่งมุมมองแบบนี้เชื่อว่าหลายคนคงคิดแบบนั้นเช่นกัน แต่เมื่อคนเราเติบโตขึ้น มุมมองในชีวิตเปลี่ยนไป สไตล์การเลือกใช้รถยนต์สักคันหนึ่งก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน นี่เป็นเรื่องจริงที่พอมานั่งย้อนนึกดูแล้วก็แปลกดีนะ
วอลโว่ในวันนี้เปลี่ยนแปลงไปมากมาย ดีไซน์เฉียบคมและเสริมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ลดอุบัติเหตุได้มากขึ้น
ตัวถังที่ดูเตี้ยและยาวที่ให้อารมณ์วอลโว่แบบเอสเตทรุ่นเก่า แต่ทันสมัยและมีความอเนกประสงค์ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัว
เมื่อก่อนเคยมองว่ารถที่เป็นสไตล์สเตชั่นวากอนหรือเอสเตท ที่เป็นรถเก๋งท้ายยาวมีประตูบานท้าย ดูเป็นรถของคนมีอายุ มันไม่เท่ แถมยังดูเกะกะ แล้วจะคุ้นเคยกับรถแบบนี้ในภาพยนตร์ต่างประเทศ เมื่อเวลาต้องเดินทางไกลข้ามรัฐข้ามประเทศจะต้องเห็นรถเอสเตทแบบนี้เข้าฉากอยู่เรื่อยไป ในตอนนั้นยังสงสัยว่าเพราะอะไร แต่พอมาถึงวันนี้ วันที่วัยเดินข้ามหลักสี่ มุ่งหน้าสู่คลองห้า กลับมีความรู้สึกว่ารถแบบนี้แหละที่หัวใจใฝ่หามาตลอด มันคือรถที่ใช่สำหรับความต้องการในวันนี้จริงๆ เรื่องแบบนี้วัยรุ่นคงไม่เข้าใจแน่นอน ฮ่าๆๆ
Volvo 850 Estate (1993-1996)
โดยหากมองย้อนกลับไปว่าเมืองไทยมีรถเอสเตทหรือพวกสเตชั่นวากอนกี่รุ่นกี่แบบ พอจะนึกออกได้ยากหน่อย แต่ที่คุ้นตามาเสมอนั่นคือ วอลโว่ 850 และ 940 Estate รถทรงเหลี่ยมๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงของตัวถังและความปลอดภัยที่เหนือกว่าใคร รถที่ในวันนี้มือสองสภาพสวยๆ พร้อมใช้ ไม่ต้องซ่อม ราคาไม่ถึงสองแสน ส่วนรุ่นที่เป็นทรงซีดานบางคันราคาไม่ถึงแสนก็มี! นั่นทำให้หลายคนมองหาวอลโว่รุ่นเก่ามาซ่อมแซม ลงเครื่องใหม่ เอามาใช้งานได้อีกยาว…ที่โยงเข้ามาแบบนี้จะบอกว่า รถที่เป็นทรงเอสเตทในบ้านเราถือว่าหายากอยู่เหมือนกัน ทั้งที่เป็นรถที่ให้ความอเนกประสงค์ แต่คงเป็นเพราะสไตล์การเลือกใช้รถและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่ไม่ตอบโจทย์กับรถทรงเอสเตทก็อาจเป็นได้
เสน่ห์ของรถทรงเอสเตทก็คือการเปิดประตูท้ายนี่แหละ
พื้นที่เก็บของมหาศาล และถ้าพับเบาะลงไปสามารถปรับเป็น Home Car ได้เลย
ลายไม้สวย ดูมีคาแรคเตอร์ และรสนิยมสูง
แม้แต่ช่องแอร์ยังมีดีไซน์ที่น่ามอง ให้อารมณ์ของดีไซน์ดั้งเดิมอยู่ระดับหนึ่ง
แต่พอมาวันนี้ทำไมถึงกลับมาให้ความสนใจกับรถเอสเตทได้…คำตอบคือ “วัย” นั่นเอง ถ้ามองผู้เขียนเป็นตัวอย่าง การใช้ชีวิตที่ผ่านมารถที่ตอบโจทย์คือรถที่ใช้งานเองเพียงคนเดียว ห้องโดยสารไม่ต้องกว้างมาก เน้นคล่องตัวและสะดวกในการใช้งาน แต่พอมาวันนี้กลับมองหารถที่ห้องโดยสารกว้างขวาง รูปแบบของรถสามารถปรับใช้งานได้หลากหลาย เครื่องยนต์ไม่จำเป็นต้องแรง เพราะขับรถเร็วลดลงไปมาก แต่ดีไซน์ยังต้องสวยและโดดเด่น กลายเป็นว่าพอได้ทดลองขับ วอลโว่ V60 Estate คันนี้ ซึ่งเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษ “Inscription” ทุกอย่างมันถูกจริตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของการออกแบบตัวรถที่มีความโดดเด่น เฉียบคม น่ามองตั้งแต่หัวจรดท้าย ภายในห้องโดยสารเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง มีการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ และตอบรับกับสรีระท่านั่งขับได้อย่างลงตัวและปลอดภัย พูดได้ว่าเป็นการทลายกรอบความรู้สึกเดิมๆ ของรถทรงเอสเตทของวอลโว่รุ่นเก่าได้แบบกระเจิดกระเจิง
มันทำให้อารมณ์การใช้งานของวอลโว่ V60 เกิดเป็นความสุนทรีย์ในการเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เสริมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่จัดให้แบบเต็มที่ ทำให้ทุกครั้งที่ขับวอลโว่คุณจะรู้สึกปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งระบบความปลอดภัยต่างๆ ถ้าจะอธิบายในนี้คงยาวแน่นอน เอาเป็นว่าคลิ๊กไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับระบบความปลอดภัยทั้งหมดที่มีอยู่ในวอลโว่ V60 ได้ ที่นี่ แน่นอนว่าในช่วงแรกๆ อาจจะรู้สึกรำคาญอยู่บ้างกับเสียงเตือนต่างๆ ที่ดังขึ้น แต่นั่นทำให้เห็นว่าระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถที่จะเลือกเปิดปิดการเตือนต่างๆ ได้ที่หน้าจอทัชสกรีนที่คอนโซลได้ รวมทั้งตั้งค่าระบบของรถได้จากหน้าจอทัชสกรีนที่เหมือนกับไอแพดนี้ ซึ่งรวมถึงระบบการสั่งให้รถช่วยถอยจอดและจอดเทียบข้างแบบอัตโนมัติได้อีกด้วยเช่นกัน หลังจากที่ลองใช้สักพักหนึ่งแล้ว ต้องยอมรับว่าสามารถทำความเข้าใจและเลือกปรับฟังก์ชั่นที่มีอยู่หลากหลายได้สบาย ไม่ยุ่งยาก ถ้าคุณใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นประจำ การใช้งานจอทัชสกรีนตัวนี้ก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ
หัวเกียร์คริสตัลหรูหราได้เรื่องเลยทีเดียว
มาตรวัดที่หน้าจอมีความคมชัดสูง แสงไม่แยงตา
โดยในส่วนของห้องโดยสารนี่ล่ะเป็น ประเด็นสำคัญไม่ใช่แค่เบาะนั่งตอนหน้าของผู้ขับที่สามารถปรับตามสรีระได้อย่างสมบูรณ์แบบ เบาะนั่งตอนหลังมีพื้นที่กว้างขวาง ทำให้นั่งสบายไม่อึดอัดแล้ว ในส่วนของพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังนี่ล่ะที่เป็นเรื่องสำคัญและโดดเด่นของ วอลโว่ V60 เป็นการตอบโจทย์การใช้งานของเหล่าพ่อบ้านได้อย่างดี ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระที่ปรับเพิ่มได้ถึง 1,440 ลิตร เบาะหลังสามารถปรับพับได้ เพิ่มพื้นที่เข้าไปอีก ลองนึกดูว่าหากคุณต้องไปอีเกียเพื่อซื้อของมาตกแต่งบ้าง หรือซื้อโต๊ะตู้มาใช้งาน พื้นที่เก็บสัมภาระของรถเก๋งหรือรถเอสยูวีมันยาวไม่พอที่จะใส่แพ็คเกจตู้แบบประกอบเองที่ยาวสองเมตรได้ เกิดปัญหาการขนย้ายล่ะ..แต่สำหรับ วอลโว่ V60 มีพื้นที่เพียงพอ เค้าถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ
เลือกตั้งค่าและการใช้งานฟังก์ชั่นได้ง่ายดายเพียงปลายนิ้ว
การแสดงผลกล้องมองภาพ 360 องศา บนหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ มีความคมชัดสูง
ขุมพลังที่ไม่ธรรมดา เห็นเป็นรถครอบครัวแบบนี้ แต่ระดับความแรงน้องๆ ซูเปอร์คาร์ ถ้าไม่อยากเสียหน้าก็อย่ามาแหยมนะ
แต่สิ่งที่ได้มาเพิ่มเติมและทำให้หัวใจของเหล่าพ่อบ้านคึกคักนั่นคือขุมพลังที่จัดจ้าน แม้ว่าในวันนี้จะไม่ได้เน้นรถที่มีพละกำลังแรงสูง อยากได้รถที่ขับสบายๆ วอลโว่ V60 ตอบโจทย์เรื่องของการขับสบาย แถมด้วยความแรงของขุมพลังอีกต่างหาก ซึ่งขุมพลังเป็นแบบลูกผสม T8 Twin Engine AWD Plug-In Hybrid เครื่องยนต์ Drive-E เบนซิน ขนาด 2 ลิตร 4 สูบ พร้อมซุปเปอร์ชาร์จ เทอร์โบชาร์จ และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำงานร่วมกันผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมเกียร์ทรอนิก (Geartronic) ที่ให้พละกำลังจากเครื่องยนต์ 320 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที รวมกับแรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 87 แรงม้า ทำให้มีแรงม้ารวมถึง 407 แรงม้า และพุ่งทะยานแทบใจหายด้วยแรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร นั่นทำให้ วอลโว่ V60 สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียงแค่ 4.6 วินาที เท่านั้น!! สเปคแบบนี้ไม่ใช่รถพ่อบ้านธรรมดาอีกต่อไปแล้ว เรียกได้ว่าเป็นเสือซ่อนเล็บชัดๆ ด้วยแรงม้าและแรงบิดระดับนี้มันเทียบเท่ากับรถสปอร์ตแรงๆ แถมยังแรงระดับที่รถซูเปอร์คาร์ฉีกหนีแทบไม่ออก ใครเห็น วอลโว่ V60 ทรงเอสเตท คันยาวๆ แบบนี้อย่าหวังจะคิดลองดี เพราะสุดท้ายจะโดนทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว
เครื่องเสียง Harman/Kardon ความละเอียดของเสียงระดับพระกาฬ
เพิ่มความสะดวกในการเปิดประตูท้ายด้วยการใช้เท้ายื่นเข้าไปใต้กันชน เพื่อเปิดแบบอัตโนมัติ
แต่ด้วยความเร็วระดับนี้ต้องระวังเอาไว้ด้วย เพราะหากใช้งานเพียงคนเดียว ขับทำความเร็วในช่วงเร่งแซง ความเร็วจะพุ่งเร็วมาก จาก 80 กม./ชม. ทะลุ 160 กม./ชม. ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น แม้ว่าในการทำความเร็วระดับปกติ ช่วงล่างของรถจะมีความนุ่มนวล แฝงความแข็งกระด้างเล็กๆ แต่เมื่อทำความเร็วสูงเกิน 140 กม./ชม. จะรู้สึกได้ว่าตัวรถมีความเบา ท้ายจะแกว่งนิดหน่อย นั่นเป็นเพราะลมที่ย้อนปะทะจากท้ายรถ รวมกับไม่มีน้ำหนักบรรทุกด้านท้าย จึงทำให้มีอาการแบบนั้นขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นยังสามารถควบคุมรถให้นิ่งได้สบาย ด้วยพวงมาลัยที่ปรับน้ำหนักมาได้อย่างดี ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ไม่ได้ใช้ความเร็วระดับนั้นบ่อยนัก หากใช้ความเร็วในช่วงปกติตามที่กฎหมายกำหนดถือว่ายังคงขึ้นชื่อเรื่องของระบบช่วงล่างที่นิ่ง แน่น และหนึบ สไตล์วอลโว่ได้อย่างเต็มที่
โดยรวมแล้วหากคุณยังเป็นวัยเริ่มต้นทำงานน่าจะยังไม่ถูกใจ วอลโว่ V60 อย่างแน่นอน แต่หากคุณใช้ชีวิตด้วยการโฟกัสไปที่ชีวิตครอบครัว ไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่เน้นการเดินทางไปกับคนรักและครอบครัว มีหน้าที่การงานที่มั่นคง ก้าวสู่การใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความมั่นคงและปลอดภัย เชื่อว่า วอลโว่ V60 จะเป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัวอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่ผู้เขียนได้สัมผัสมานี่ล่ะ รวมทั้งราคาค่าตัว 2.29 ล้านบาท ในรุ่น Momentum และ 2.69 ล้านบาท ในรุ่น Inscription เหมือนคันที่ได้นำมาทดลองขับนี้ มองดูคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันนี้มีอยู่น้อยมาก ยิ่งทำให้วอลโว่ V60 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด แบบที่กล้าพูดเลยว่ามันคือความสมบูรณ์แบบในการใช้ชีวิตของครอบครัวจริงๆ.
ไฟหน้าค้อนธอร์และไฟท้ายที่เป็นเอกลักษณ์ของวอลโว่ยุคใหม่
Volvo V60 รถที่ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวได้อย่างลงตัวที่สุด
เรื่อง/ภาพ : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th