วิธีขับรถ ลุยน้ำรอการระบาย !!
ฝนตกกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์มากครับช่วงนี้ แถมถนนหลักหลายสายของเมืองไทย เวลาฝนตกลงมาหนักๆอย่างต่อเนื่องชอบมีน้ำท่วม เฮ้ย !! ไม่ใช่ซิน้ำรอการระบาย ฮาฮา รู้สึกมันจะรอระบายตลอดเลยเนอะ แถมถนนบางเส้นน้ำรอระบายสูงเลยด้วยมิดฟุตบาทเชียว ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องหาวิธีขับรถลุยยังไงไม่ให้พัง!! วันนี้เรามาดูวิธีขับรถลุยน้ำยังไงให้รอดและไม่พัง
1 . เมื่อขับผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง รอระบาย ต้องประเมินความลึกของน้ำก่อนเลยอันดับแรก อย่าลุยเข้าไปโดยไม่ดูนะครับรถจะพังเอาง่ายๆ การประเมินระดับความลึกของน้ำก็ไม่ยากครับดูระดับฟุตบาทเอาไว้ เพราะโดยทั่วไปฟุตบาทจะมีความสูงตั้งแต่ 10-30 เซนติเมตร เพราะฉะนั้นถ้าน้ำท่วมมิดฟุตบาท นั้นแสดงว่าน้ำค่อนข้างสูงทีเดียวครับ อันตรายสำหรับรถเก๋งครับ ส่วนมากจะเลี่ยงโดยขับเกาะฝั่งขวาไว้ครับเพราะฝั่งขาวน้ำจะระดับต่ำกว่าฝั่งซ้ายติดฟุตบาทเสมอ (ถนนมีระดับต่างกันเพราะจะได้ให้น้ำระบายลงท่อตรงฝั่งซ้ายได้สะดวกครับ)ดูช่องทางที่มีน้ำท่วมขังน้อยที่สุด แต่ถ้าดูแล้วลึกสุดใจทุกช่องทาง แนะนำให้หาที่จอดครับอย่าเสี่ยงลุยไปครับ เสียเวลาดีกว่าเสียเงินเพราะรถพังนะครับ
2. เมื่อคำนวนดูดีแล้วว่าระดับน้ำอยู่ในปริมาณที่ขับลุยผ่านได้ ดูแล้วรถเราไหว (ส่วนมากรถเก๋งจะสามารถลุยได้ไม่เกิน 30 เซนติเมตรเท่านั้น) ขณะที่ขับลุยน้ำเข้าไปอย่างแรก ปิดแอร์นะจ๊ะ อย่าเปิดแอร์ละเพราะเมื่อเปิดแอร์พัดลมระบายอากาศตรงคอยล์ร้อนหน้าเครื่องยนต์จะทำงานมันจะตีน้ำแตกกระจายขึ้นมาเต็มน้ำก็จะกระเด็นเข้าไปที่ระบบไฟฟ้า หรือระบบอากาศทำให้เครื่องยนต์ดับได้ อีกอย่างถ้าใบพัดของพัดลมไฟฟ้าที่ยังคงหมุนทำงานด้วยรอบความเร็วอาจฟันเข้าไปกับเศษขยะ กิ่งไม้ เศษแผ่นไม้ ถุงพลาสติก ฯลฯ ที่ลอยตามน้ำมา วัตถุเหล่านี้มีโอกาสที่จะเข้ามาในห้องเครื่องแล้วโดนใบพัดตัดฟันจนใบพัดแตกหักได้ หากใบพัดในระบบระบายความร้อนแตกหักเสียหาย สิ่งที่ตามมาคือปัญหาในเรื่องความร้อนของเของเครื่องยนต์ที่จะพุ่งสูงขึ้นทันที จนไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้
3. ควรใช้ความเร็วต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลายคนเข้าใจผิดว่าการขับรถลุยน้ำต้องเร่งรอบเครื่องให้สูงไว้เพื่อไม่ให้รถดับและลผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว แต่จริงๆแล้วผิดครับ เพราะถ้าคุณขับเร็วใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงน้ำที่ท่วมขังอยู่จะกระฉอกแรง และเมื่อคุณเร่งเครื่องเครื่องยนต์จะดูดอากาศเข้าไปเผาไหม้แรงเช่นกัน ซึ่งคุณลองคิดดูถ้าเครื่องยนต์กำลังดูดอากาศเข้าเครื่องจังหวะที่น้ำกระฉอกเข้ามาเยอะพอดี ดูดน้ำเข้าเครื่องจบครับงานนี้ก้านสูบบิดเป็นโปรเต้ หรือหักแน่นอน เครื่องดับน็อคจอดนิ่งสนิท ลากเข้าอู่เสียเงินเยอะอย่างแน่นอน ดังนั้นเดินคันเร่งเนียนๆ ใช้รอบต่ำๆค่อยๆไป รับรองน้ำไม่ดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ รถไม่มีดับแน่นอน
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th