วิธีดูรถยนต์มือ 2 เช็คก่อนซื้อจะได้ไม่ปวดหัว!!
มีหลายคนกล่าวไว้ว่าการซื้อรถยนต์มือ2 ตาดีได้ตาร้ายเสีย อยู่ที่ดวง ฟังดูแล้วมันอยากซะเหลือเกินกับการเลือกซื้อรถยนต์มือ2 ซักคันใช่หรือไม่ครับ แต่ถ้าเราพอรู้การเช็คแบบเบื้องต้นของเจ้ารถยนต์มือ2เหล่านี้ก็จะสามารถคัดกรองว่าคันไหนที่ซื้อไปแล้วจะไม่มีปัญหาปวดหัวตามมา วันนี้เรามาลองดูกันว่าจะซื้อรถยนต์มือ2 ซักคันจะต้องดูจุดไหนบ้าง เพราะซื้อรถยนต์หนึ่งคันไม่ใช่เรื่องเล่นนะครับ
สภาพตัวถังโดยรวม ใจเย็นๆค่อยๆดู กฎเหล็กของการซื้อรถยนต์มือ 2 คือห้ามรีบเด็ดขาด ต้องดูให้ดีๆว่าตัวถังของรถคันที่คุณสนใจอยู่นั้นสภาพเป็นอย่างไร ไม่ได้บอกว่าแค่สีสวยเงาวับนะเพราะอันนั้นมันทำกันได้ แต่หมายถึง ทรงของรถต้องยังดีอยู่ไม่ผิดรูปอาจจะต้องช่างสังเกตุนิดนึงนะครับ ดูว่ามีรูปทรงสมส่วนหรือไม่ รถเอียงซ้ายหรือเอียงขวามั้ย หรือช่องไฟระหว่างประตูเท่ากันหรือไม่ โดยสังเกตุจากสายตาเรานี่แหละ หากช่องไฟระยะห่างระหว่างประตูไม่เท่ากัน สันนิษฐานเอาไว้ก่อนเลยว่า อาจจะถอดออกมาเพื่อซ่อม (ถ้าไม่มีคนถอดประตูเล่นนะ ซึ่งมันคงไม่มีใครบ้าถอดประตูเล่นมั้ง) ต่อมาดูที่สีรถ ผมเชื่อว่าหลายคนเคยเห็นเวลาที่มีคนจะซื้อรถยนต์มือ2 เค้าจะเดินเคาะรถไปรอบๆและสงสัยเหมือนผมว่าเคาะแล้วได้อะไรเคาะทำไม เมื่อก่อนก็เคาะไปตามเค้ามันดูเหมือนเซียนดี วันนี้ได้รู้ความจริงแล้วว่าเคาะทำไม เคาะเบาๆ เพื่อฟังเสียง หากรถที่ยังไม่ได้ทำสีเสียงมันจะโปร่งๆ แต่ถ้ารถที่ผ่านการโป๊วทำสีมาใหม่ เสียงมันจะทึบๆหน่อย และให้เราสังเกตุความสม่ำเสมอของเนื้อสี โดยตรวจสอบสีทุกชิ้น ว่ามีสีส่วนไหนใหม่เกินจริง เป็นคลื่น หรือสีส่วนไหนผิดเพี้ยนต่างจากจุดอื่นหรือไม่ หากตวรจพบว่าชิ้นไหนผิดเพี้ยน หรือใหม่เกินความเป็นจริง สันนิษฐานได้เลยว่า อาจมีการทำสีชิ้นนั้นๆมา
ดูตามซอกหรือตะเข็บ อันนี้แอ๊ดวานซ์ขึ้นมาหน่อย ต้องสังเกตุตะเข็บของตัวถังและรอยอาร์คหรือจุดที่มีการเชื่อมตัวถังว่าเป็นรอยเดิมที่มาจากโรงงานหรือไม่ แต่ถ้าไม่มีความรู้เรื่องรถอาจจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจเพิ่มเติมสักหน่อย ดูหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต หรือไม่ก็ไปดูรถยนต์รุ่นนั้นที่โชว์รูมว่ารถใหม่ตะเข็บต่างๆมันเป็นอย่างไร
วิธีดูตะเข็บ
1.คาน ให้เราสังเกตุร่องรอยจากคาน ว่ามีจุดไหนเคาะหรือซ่อมมาหรือเปล่า โดยดูรอยที่หัวน๊อตว่ามีร่องรอยของการถอดมั้ย สังเกตุสีที่คานว่าสีใหม่ผิดปกติหรือเปล่า ดูสติ๊กเกอร์ที่ติดมาจากศูนย์ยังอยู่หรือไม่(ในรถบางรุ่นอาจไม่มีสติ๊กเกอร์) หากพบว่ามีรอยซ่อม รอยเคาะ หรือสติ๊กเกอร์หลุดลอกหายไป ให้สันนิษฐานว่า รถชนด้านหน้ามา (บางอู่ใช้วิธีเปลี่ยนคาน ให้สังเกตุที่สติ๊กเกอร์ ให้ดูความคล้ำของสติ๊กเกอร์ไม่ควรใหม่เกินความเป็นจริง และให้ดูที่รอยหัวน๊อต)
2.แก้มข้าง ให้เราสังเกตุรอยนูนทั้ง2ฝั่ง ซึ่งทั้ง2ฝั่งจะต้องมีเท่ากันและเหมือนกัน หากพบว่ารอยนูนของด้านไหนหายไป หรือมีร่องรอยการซ่อม ให้สันนิษฐานว่า ฝั่งที่รอยนูนหายไปอาจจะถูกชน
3.ประตูและขอบประตู ให้เราดูรอยพับการเก็บเข้ามุมของบานประตู และ ให้เราดึงยางขอบประตูออกมาดูทั้ง4บาน โดยให้เราสังเกตุที่รอยอ๊าคอาร์ค(รอยกลมๆ) ซึ่งรถทึ่ยังไม่ผ่านการซ่อมจะต้องมีรอยอ๊าคตลอดทั้งขอบประตู
4.ตะเข็บหลัง ให้เราสังเกตุรอยอาร์ค รอยนูนทั้ง2ฝั่ง ซึ่งทั้ง2ฝั่งจะต้องมีเท่ากัน หากพบว่ารอยอาร์ค รอยนูน ของด้านไหนหายไป ให้สันนิษฐานว่า ฝั่งที่รอยอาร์ค รอยนูน หายไปอาจจะถูกชน และสังเกตุที่กลอนประตู มีบิดเบี้ยวหรือไม่ และในส่วนของพื้นท้ายรถช่องใส่ยางอะไหล่ก็เช่นกัน ของเดิมจะเป็นลอนๆ ให้เราสังเกตุว่ามีรอยเคาะรอยซ่อมมาหรือไม่ เพราะบางคันช่างซ่อมมาเนียนมากแทบดูไม่ออก
ตรวจสอบเครื่อง เกียร์ ช่วงล่าง
การดูเครื่องยนต์เบื้องต้น สตาร์ทรถร้อนซักพักให้เครื่องยนต์เริ่มร้อน แล้วดูว่ารอบเครื่องเดินนิ่งหรือไม่ ดูที่หน้าปัดวัดรอบก็ได้ว่าเข็มเดินนิ่งหรือเปล่าสวิงไปมาหรือไม่ หรือเสียงผิดปกติดังออกมามั้ย เปิดฝากระโปรงรถดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องออกมาแล้วดูว่ามีไอหรือควันพุ่งออกมาหรือเปล่า ท่อไอเสียมีควันไหลหรือไม่ มีคราบน้ำมันหรือคราบน้ำหรือไม่
เกียร์ หากเป็นเกียร์ออโต้ ให้ทดลองขณะเครื่องเย็น สตาร์ทเครื่อง แล้วใส่เกียร์D หรือเกียร์ถอย ถ้ารถไม่ยอมเดินหน้า หรือถอยหลัง หรือมีอาการหน่วงๆ แสดงว่าเกียร์ใกล้จะกลับบ้านเก่าแล้วจร้า ลองขับดูว่าเกียร์เปลี่ยนปกติหรือไม่ หากเกียร์ไม่ยอมเปลี่ยนตามปกติ หรือขับแล้วตระตุก หรือมีเสียงหอนจากเกียร์ แสดงว่าเกียร์ใกล้จะพังแล้วเชื่อผม ส่วนเกียร์ธรรมดา ก็ให้สังเกตุว่า เกียร์เข้าง่ายปกติมั้ย ขับแล้วมีเสียงหอนหรือเปล่า ลองขับให้ครบทุกเกียร์นะจ๊ะ
ช่วงล่าง ลองขับดูว่ารถยนต์มีอาการย้วย โคลง ส่าย หรือไม่ ลองเลี้ยวกลับรถ ฟังเสียงจากช่วงล่างบริเวณล้อหน้า หากมีเสียง แกร๊กๆๆๆ ตอนเลี้ยวกลับรถแสดงว่าเพลาเจ๋งจร้า ไปลองขับไปในทางขรุขระ หากมีเสียงดังกุกกักๆ ยกรถดูก่อนเลยเพราะเสียงอาจจะดังจากลูกหมาก หรือไม่ก็โช้คเลยจ๊ะ
ดูเอกสารของรถ
เช็คเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์ ว่าตรงกับในเล่มหรือไม่ โดยรถแต่ละรุ่นตำแหน่งเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์ จะอยู่ต่างกัน หากเราหาตำแหน่งไม่เจอก็ให้เราเปิดเล่มรถ ซึ่งในเล่มจะระบุตำแหน่งของเลขเอาไว้ชัดเจน
ตรวจสอบรายละเอียดของรุ่นและปีของรถ
รถหลายๆ รุ่นมีรุ่นย่อยหลายรุ่นและยังมีการเปลี่ยนโฉมหรือไมเนอร์เชนจ์อีก แต่ละรุ่นก็มีจุดสังเกตุไม่เหมือนกัน เราควรศึกษารถยนต์ที่จะซื้อมาก่อนว่ามีจุดสังเกตุตรงไหนบ้าง รถยนต์คันที่จะซื้อได้มีการตกแต่งอะไรเพิ่มเติมมามาน้อยขนาดไหน พูดเลยพยายามอยากเลือกรถที่แต่งมาเยอะๆเพราะรถจะช้ำมาก เลือกซื้อรถยนต์เดิมๆดีที่สุดนะจ๊ะ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
ขอบคุณภาพ และข้อมูลบางส่วน google และ one2car