วิธีดูแลใบปัดน้ำฝนให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
การดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และความปลอดภัยที่มีมากยิ่งขึ้น ใบปัดน้ำฝนช่วยให้การมองเห็นในขณะขับขี่ดีขึ้นและเป็นสิ่งสำคัญต่อความปลอดภัยบนท้องถนน อากาศที่ร้อนชื้นและสภาวะต่างๆ บนท้องถนนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ การดูแลรักษาเป็นประจำจะช่วยยืดอายุการใช้งานของใบปัดน้ำฝน
ใบปัดน้ำฝนถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำหรับรถยนต์และมีความสำคัญต่อความปลอดภัยบนท้องถนนซึ่งมักจะถูกมองข้ามอยู่บ่อยครั้ง ผู้ขับขี่มักจะตระหนักถึงความผิดปกติของใบปัดน้ำฝนก็ต่อเมื่อใบปัดน้ำฝนไม่อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมกับการใช้งาน เมื่อเกิดอุปสรรคต่างๆ ในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นฝน หรือสิ่งสกปรก จึงส่งผลให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลง ส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนน และผู้สัญจรอื่นๆ บนท้องถนน
ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมักเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีฝนตกหนัก และสาเหตุหลักประการหนึ่งคือทัศนวิสัยในการมองเห็นระหว่างการขับขี่ที่ลดลง บ๊อช ขอแนะให้ผู้ขับขี่ควรทำการดูแลรักษาใบปัดน้ำฝนเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนตามระยะเวลาที่กำหนด และเลือกใช้ใบปัดน้ำฝนที่มีคุณภาพจากผู้ขายที่เชื่อถือได้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นในขณะขับขี่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตกหนักอย่างเช่นช่วงฤดูมรสุมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย
- ซื้อใบปัดน้ำฝนที่มีคุณภาพ จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานยาวนานขึ้น
- ดูแลบำรุงรักษาใบปัดน้ำฝนเป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น
- ใช้น้ำสะอาดและผ้าทำความสะอาดใบปัดน้ำฝน ไม่ควรใช้น้ำยาล้างรถยนต์ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่นๆ เพราะจะลดประสิทธิภาพสารเคลือบยางของใบปัดน้ำฝน
- เปิดใช้งานใบปัดน้ำฝนและน้ำยาฉีดกระจกอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะก่อนออกเดินทาง หรือทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพื่อช่วยให้ยางใบปัดน้ำฝนคงสภาพการใช้งาน ไม่แห้งแตก เสมือนได้รับการใช้งานอยู่เป็นประจำแม้ว่ารถจะไม่ใช้งานเป็นประจำก็ตาม
- เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนเป็นประจำทุกปี รวมถึงคอยตรวจเช็คหลังจากการใช้งานโดยทั่วไปแล้ว 6 เดือน
- คอยตรวจเช็คกระจกหน้ารถสม่ำเสมอ เพื่อดูว่ามีรอยแตกหรือบิ่นที่เกิดจากเศษหินหรือไม่ และทำความสะอาดด้วยผ้า จากนั้นจึงใช้น้ำยาเช็ดกระจกเพื่อขจัดฝุ่นละอองและคราบน้ำมัน
- หลีกเลี่ยงการยกใบปัดน้ำฝนออกจากกระจกหน้ารถในขณะที่รถยนต์จอดอยู่กลางแจ้งในสภาพอากาศที่ร้อน เพราะอาจทำเกิดความเสียหายต่อสปริงและก้านปัดน้ำฝนในระยะยาวได้
ใบปัดน้ำฝนบางชนิดถูกผลิตจากเนื้อยางสูตรพิเศษเพื่อให้ทนต่อสภาพสภาพอากาศร้อนเช่นประเทศไทย ใบปัดน้ำฝนทุกชนิดมีอายุการใช้งานที่จำกัด และมีหลายปัจจัยที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของใบปัดน้ำฝน ยางของใบปัดน้ำฝนควรจะคงความยืดหยุ่นและอ่อนนุ่มเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี แต่การที่ต้องเผชิญสภาพอากาศที่ร้อน และแสงแดดหรือรังสีอัลตราไวโอเลตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เนื้อยางเกิดการแข็งตัว และเสื่อมคุณภาพตามกาลเวลา ดังนั้น ควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนก่อนที่คุณภาพจะเสื่อมลงจนส่งผลต่อประสิทธิภาพในการมองเห็นในขณะขับขี่ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิด อุบัติเหตุทางท้องถนน และโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ผู้ขับขี่มักจะทำการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนเพิ่มมากขึ้น
ประสิทธิภาพ และความคงทนของใบปัดน้ำฝนส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการออกแบบและสูตรผสมของเนื้อยาง โดยปกติแล้วรูปแบบของใบปัดน้ำฝนจะมีอยู่ 3 ประเภท คือ ใบปัดน้ำฝนแบบใบปัดแบบไร้โครง แบบธรรมดา และแบบผสม ซึ่งสองประเภทหลังจะมีที่หนีบหรือข้อต่อ โดยจะมีแรงกดทับบนบานกระจกระหว่างการใช้งานสูง ซึ่งส่งผลให้ใบปัดน้ำฝนประเภทนี้เสื่อมสภาพเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับแบบอื่นๆ ใบปัดน้ำฝนโดยทั่วไปจะผลิตมาจากยางซิลิโคน ยางธรรมชาติ หรือยางสังเคราะห์จากสูตรที่แตกต่างกัน ซึ่งประสิทธิภาพการทำงานและความทนทานจะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าใบปัดน้ำฝนมีความโค้งพอดีรับกับความนูนของกระจกหน้ารถยนต์ที่ใช้งานอยู่หรือไม่
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
ข้อมูล : บ๊อช ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th