สำรวจความเป็นที่สุด ‘Rolls-Royce Cullinan’ เอสยูวีหรูที่สุดของโลก
3 ปีแห่งการรอคอยในที่สุด Rolls-Royce ผู้ผลิตรถยนต์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นที่สุดของความหรูหรา และความประณีตในทุกขั้นตอนการผลิต ก้าวเข้าสู่เซกเม้นต์รถอเนกประสงค์อย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดผ้าคลุม Cullinan เอสยูวีที่ครบถ้วนทั้งความเลิศหรู, เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และการใช้งานที่หลากหลายที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถยนต์สไตล์นี้
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาลองดูกันว่าอะไรคือความเป็นที่สุดของ Rolls-Royce Cullinan… ราชาแห่งเอสยูวีที่พร้อมจะลุยบนทุกเส้นทางตามนิยามที่พวกเขาใช้ว่า “Effortless, Everywhere”
• Cullinan เป็นชื่อเพชรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกมีน้ำหนัก 3,106.75 กะรัต ถูกค้นพบที่เหมืองในประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อปี 1905 ก่อนจะถูกนำมาเจียระไนเพื่อประดับยอดมงกุฎ และเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของกษัตริย์อังกฤษ
• นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ของ Rolls-Royce ต่อจาก New Phantom ที่ใช้โครงสร้างอลูมิเนียมรุ่นใหม่ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น ‘Architecture of Luxury’ รองรับเทคโนโลยีที่ทันสมัย และที่สำคัญ Cullinan ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้จุดประสงค์เดียวคือ “การสร้างรถยนต์เอสยูวีที่หรูหราที่สุดของโลก”
• เป็นรถยนต์คันแรกในบรรดาเอสยูวีทั้งหมดที่ใช้หลักการออกแบบรูปทรง “Three-Box” อย่างแท้จริง ทำให้ห้องโดยสารกับพื้นที่เก็บสัมภาระใน Cullinan จะแยกออกจากกันอย่างชัดเจน
• ภายใต้ฝากระโปรงติดตั้งขุมกำลังเทอร์โบคู่ 6.75 ลิตร V12 ที่มีกำลังมหาศาลถึง 563 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร ในการส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อน All-wheel Drive ใหม่ล่าสุด และระบบควบคุมพวงมาลัย All-wheel Steer System ที่ช่วยให้ข้ามฝ่าทุกอุปสรรค
• ในช่วงที่อยู่ระหว่างการพัฒนา Cullinan ถูกส่งไปทดสอบทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการลุยหิมะในสภาพอากาศหนาวสุดขั้ว, ความร้อนระอุกลางทะเลทราย, เส้นทางที่เต็มไปด้วยเศษหินบนภูเขาสูง และการขับลุยกลางป่าลึก ด้วยความมุ่งมั่นที่จะรักษาเอกลักษณ์ Rolls-Royce ที่เหมือนนั่งบนพรมวิเศษ ‘Magic Carpet Ride’ ถึงจะเป็นการขับบนเส้นทางแบบออฟโรดที่หฤโหดขนาดไหนก็ตาม
• เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ระบบหน้าจอบริเวณคอนโซลกลางควบคุมด้วยการสั่งงานแบบ Touch Sensitive เรียกข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วทั้งการแสดงแผนที่, ระบบนำทาง หรือรูปแบบการขับขี่ รวมทั้งไฮไลต์สำคัญ ‘Off-Road’ ปุ่มเดียวที่จะทำให้ Cullinan พร้อมลุยทุกสภาพถนน โดยจะมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วบนทางลาดชัน Hill Descent Control และการตั้งค่าระบบช่วงล่าง
• Cullinan จะมาพร้อมเทคโนโลยีสนับสนุนการขับที่ล้ำสมัย ทั้งระบบเพิ่มวิสัยทัศน์การขับขี่ในเวลากลางคืน Night Vision พร้อม Vision Assist แจ้งเตือนคนเดินถนนหรือสัตว์ป่าทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน, ระบบผู้ช่วยแจ้งเตือน (Alertness Assistant), ระบบกล้อง 4-Camera พร้อมมุมมองแบบพาโนราม่าแสดงภาพรอบคัน และจำลองมุมภาพจากด้านบน, จอดแสดงผล Head-Up Display ที่มีความคมชัดสูงระดับ 7×3, อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ WiFi และระบบเนวิเกเตอร์รุ่นล่าสุด
FACT: การตัดสินใจสร้างรถยนต์อเนกประสงค์ขึ้นเป็นครั้งแรกของ Rolls-Royceเกิดจากกระแสเรียกร้องของลูกค้าระดับมิลเลียนแนร์ทั่วโลกที่ต้องการ “The Rolls-Royce of SUVs” หรือรถยนต์ที่รองรับการใช้งานที่หลากหลายจากไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ต้องมีความลักชัวรี่ และสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยมดั่งเดิม โดยลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นคนหนุ่มสาว, กลุ่มเศรษฐี High-net-worth Individual ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนด้านการเงิน และต้องการให้ Rolls-Royce เป็นพาหนะในการพาพวกเขาเดินทางสู่สุดขอบโลกท่ามกลางอารมณ์แห่งความหรูหราอันเป็นที่สุด
• สะดวกสบายในการขึ้น-ลงจากการที่ในเวลาที่จอด Cullinan จะปรับความสูงของตัวรถลงมา 40 มม. และจะกลับมาสู่ความสูงระดับปกติหลังจากกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ รวมทั้งระบบเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติจากการสัมผัสเพียงครั้งเดียว
• การเพิ่มอุปกรณ์หรือการตบแต่งพิเศษภายใต้โปรแกรม Bespoke ในรถยนต์รุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง รวมถึงห้องโดยสารในรูปแบบ Viewing Suite และ Recreation Module
• เบาะนั่งด้านหลังของ Cullinan ดีไซน์เพื่อสร้างมุมมองที่ดีที่สุดของผู้ครอบครอง สามารถเลือกรูปแบบที่นั่งได้เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ของ Rolls-Royce ทั้งสไตล์ Lounge Seat ที่สามารถนั่งได้ 3 คนสำหรับการใช้งานแบบครอบครัว หรือในรูปแบบ Individual Seat ที่จะมีคอนโซลกั้นกลางให้ความรู้สึกแบบที่นั่งชั้นเฟิร์สต์คลาสส์บนเครื่องบิน พร้อมติดตั้งชั้นเก็บแก้วแชมเปญ, ตู้เย็น หรืออะไรก็ตามที่ลูกค้าต้องการ
• เป็นครั้งแรกที่ Rolls-Royce ติดตั้งประตูท้ายแบบ 2 ส่วนบน-ล่าง โดยถูกเรียกว่า ‘The Clasp’ ควบคุมการเปิด-ปิดจากกุญแจรีโมต รองรับชีวิตของผู้คนยุคใหม่ที่ต้องมีอุปกรณ์กีฬาหรือขนสัมภาระขนาดใหญ่ระหว่างการเดินทาง รวมทั้งแอบซ่อนชุดเก้าอี้ และโต๊ะขนาดเล็กใต้พื้นที่เก็บสัมภาระเพื่อใช้เวลาจอดรถดื่มด่ำความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว
• หากติดตั้งเบาะนั่งในรูปแบบ Lounge Seat สามารถพับเบาะด้วยระบบไฟฟ้าเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่จากความจุ 560 ลิตร เพิ่มขึ้นเป็นสูงสุด 600 ลิตร รองรับของที่มีขนาดยาวมากที่สุด 2245 มม. รวมทั้งออกแบบให้เบาะนั่งหลังมีความสูงกว่าพื้นที่เก็บสัมภาระเพื่อความปลอดภัยไม่ให้เลื่อนมากระแทกคนนั่งอีกด้วย
• ราคาจำหน่ายของ Rolls-Royce Cullinan ยังไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่สื่อรถยนต์ต่างประเทศคาดการณ์ว่าจะเริ่มต้นที่ราว 250,000 ปอนด์ หรือราว 11 ล้านบาท (แต่ในประเทศไทยต้องมีการเสียภาษีอีกราว 300 เปอร์เซ็นต์)
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: press.rolls-roycemotorcars.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th