สีรถยนต์มีกี่แบบ
หนึ่งในสิ่งที่ผู้ซื้อรถให้ความสำคัญเมื่อจะซื้อรถใหม่สักคันก็คือ สีรถ เพราะนอกจากจะเลือกสีที่ชอบแล้วผู้ซื้อรถบางคนยังคิดไปถึงเรื่องสีถูกโฉลกหรือเรื่องโชคดวงที่เกี่ยวกับสีด้วย ซึ่งเมื่อมองดูที่ทางเลือกต่างๆ ของสีรถยนต์ที่ถูกผู้ผลิตตั้งชื่อให้ดูมีความพิเศษแตกต่างกันแล้ว จะสามารถแบ่งลักษระของสีที่ปรากฏหรือแสดงออกมาบนพื้นผิวของตัวถังรถยนต์ได้ 4 แบบ ซึ่งสีแต่ละแบบจะมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันไป
ลักษณะตัวทำละลายของสี
ก่อนที่จะไปรู้จักกับสีรถยนต์ประเภทต่างๆ ตามลักษณะของสีที่ปรากฏ ลองมาทำความรู้จักกับ 2 ลักษณะที่สำคัญของสีซึ่งเกี่ยวข้องกับสารหรือวัสดุที่ใช้ในกับสีรถยนต์กันก่อน
-Solvent-borne เป็นสีที่ใช้โซลเวนต์หรือสารอินทรีย์ที่ระเหยได้เป็นเป็นพื้นฐานในตัวทำละลายอย่างแลคเกอร์ ยูรีเธน หรืออีนาเมล โดยสีที่ใช้สารลักษณะนี้เป็นตัวทำละลายมีการใช้กันมายาวนานกับรถยนต์ อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีการระเหยของสารอินทรีย์จำนวนมากจากการทำสี จึงทำให้ส่งผลต่อทั้งสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
-Waterborne เป็นสีที่ใช้น้ำเป็นองค์ประกอบหลักแทนตัวทำละลายประเภทสารอินทรีย์ระเหยได้ โดยที่มีโซลเวนต์รวมอยู่ด้วยประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นสีที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อลดผลกระทบทั้งด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากสีที่มีโซลเวนต์เป็นตัวทำละลาย
ประเภทของสีรถตามลักษณะที่ปรากฏ
1 Solid Paint
เป็นสีที่มีลักษณะของเนื้อสีเดียวปกติซึ่งมักมีให้เลือกเป็นหลักจากผู้ผลิตรถยนต์โดยไม่มีการคิดเงินเพิ่ม โดยลักษณะของสีจะแสดงเนื้อสีนั้นเพียงสีเดียวออกมาบนตัวถังรถอย่างสีขาว สีแดง สีดำ สีเทา โดยทั่วไปสี Solid Paint มักจะผ่านการทำสีเพียงครั้งแล้ว จากนั้นก็มีการเคลือบสีเพื่อป้องกันรอยขูดขีดหรือความเสียหายจากสภาพอากาศ ข้อดีของสีลักษณะนี้คือหากต้องทำสีรถใหม่มักจะมีราคาไม่แพง สามารถดูแลหรือซ่อมแซมได้ง่ายเมื่อมีรอยขูดขีดเล็กๆ ด้วยการใช้สีเดียวกันแต้ม แต่หากมีความเสียหายมากก็มักมีค่าใช้จ่ายไม่มากและใช้เวลาทำสีไม่นาน อย่างไรก็ตามปัญหาที่สี Solid Paint นักมีคืออาการผิวส้ม (Orange Peel) บนพื้นผิวหรือสีรถไม่เรียบเนียนเมื่อดูใกล้ๆ นอกจากนี้ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์ไม่ไม่ค่อยมีสี Solid Paint ให้เลือกมากเหมือนในอดีต
2 Metallic
สีเมทัลลิกเป็นสีที่มีลักษณะเพิ่มเติมจากสีธรรมดาปกติโดยการเพิ่มผงโลหะเข้าไปในเนื้อสี แต่จะมีขนาดและชนิดของผงโลหะที่แตกต่างกันไปในผู้ผลิตแต่ละราย ซึ่งผงโลหะจะรวมอยู่ในเนื้อสีแล้วทำให้เกิดการสะท้อนแสงหรือมีความแวววาวมากกว่าสี Solid Paint ปกติ โดยนอกจากการสร้างความแวววาวให้กับรถแล้ว ข้อดีของสีเมทัลลิกยังอยู่ที่สามารถช่วยซ่อนร่องรอยความเสียหายเล็กๆ ที่เกิดขึ้นกับเนื้อสีได้เมื่อมองจากระยะไกล รวมไปถึงยังช่วยให้รถดูสะอาดกว่าสีปกติ โดยปัจจุบันสีเมทัลลิกมักจะเป็นสีมาตรฐานที่ผู้ผลิตรยนต์มีให้เลือกมากกว่าสี Solid Paint ส่วนข้อเสียของสีเมทัลลิกคือ เมื่อต้องซ่อมแซมสีในบางส่วนของรถบางครั้งอาจหาสีที่เข้ากับสีเดิมได้ยาก
3 Pearlescent
ลักษณะที่สำคัญของสีที่ถูกเรียกว่าสีมุกคือแทนการใช้ผงโลหะขนาดเล็กในสี จะเปลี่ยนมาใช้ผงเซรามิกคริสตัลแทน จึงทำให้สีที่ออกมาไม่เพียงแค่สะท้อนแสงเท่านั้น แต่ยังมีการหักเหแสงด้วย ซึ่งจะทำให้การปรากฏของสีเปลี่ยนไปในบางลักษณะแสง และความแวววาวของสีเปลี่ยนไปตามมุมที่มองดูรถ ซึ่งจากลักษณะของสีนอกจากจะทำให้รถดูโดดเด่นแล้วยังช่วยปกปิดร่องรอยความเสียหายที่เกิดกัตัวรถได้ด้วย ส่วนข้อเสียหลักๆ ของสีมุกคือมีราคาแพง ดังนั้นเมื่อผู้ผลิตรถมีสีนี้ให้เลือกก็มักจะมีการคิดค่าสีเพิ่มด้วย นอกจากนี้ยังอาจหาสีได้ยากเมื่อต้องมีการทำสีเฉพาะบางส่วนของรถ
4 Matte Finishes
ลักษณะเด่นของสีนี้คือมีผิวสีที่ด้านซึ่งมักจะสร้างความโดดเด่นหรือพรีเมียมให้กับรถที่ใช้สีนี้ โดยทั่วไปสีที่มีลักษณะผิวด้านมักเป็นสีดำหรือสีเทา สำหรับข้อเสียของสีนี้นอกจากราคาที่แพงแล้วยังอยู่ที่มักแสดงร่องรอยความสีหายบนสีได้ชัดเจน รวมไปถึงยังดูแลรักษายากว่าสีที่มีลักษณะผิวมันทั่วไปด้วย
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th