หลายคนอาจจำกันได้ถึงการที่เคยมีการแชร์ข้อความจำนวนมาก เกี่ยวกับการแจ้งเบาะแสผู้ทำสิ่งผิดกฏหมาย 8 ข้อตามพระราชบัญญัติความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 แล้วจะได้ส่วนแบ่ง 50 เปอร์เซ็นต์จากค่าปรับซึ่งมีตั้งแต่หลัก 500 บาทถึง 10,000 บาท โดยที่มีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถใช้ถนน ซึ่งในยุคปัจจุบันที่แต่คนล้วนมีสมาร์ทโฟนถ่ายภาพได้ และกล้องหน้ารถ อาจคิดว่าการแจ้งเบาะแสนอกจากจะเป็นพลเมืองดีแล้วยังได้เงินใช้อีกด้วย อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้วการเป็นพลเมืองดีเมื่อแจ้งเบาะแสอาจเป็นรางวัลที่ได้ง่ายที่สุด ขณะที่ส่วนแบ่งจากการแจ้งเบาะแสอาจได้ไม่ง่ายและไม่มากอย่างที่คิด

ความผิดใดบ้างที่แจ้งเบาะแสแล้วได้ส่วนแบ่ง 50 เปอร์เปอร์เซ็นต์

1 ปล่อยสัตว์อุจจาระในที่สาธารณะแล้วไม่เก็บ ปรับไม่เกิน 500 บาท

2 พ่นสี หรือ ขีดเขียนกำแพงในที่สาธารณะ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

3 รถบรรทุกทไหิน ทราย หรือดิน ร่วงหล่นบนถนน ปรับไม่เกิน 3,000 บาท

4 แต่งรถหรือเปลี่ยนแบตเตอรีบนถนน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

5 จอดรถบนทางเท้า ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

6 ขับขี่รถทุกประเภทที่มีเครื่องยนต์บนทางเท้า ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

7 ทิ้งซากรถบนถนน หรือที่สาธารณะ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

8 วางสิ่งกีดขวางบนถนน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท

จำนวนค่าปรับอาจไม่มากอย่างที่คิด

ผู้ที่แจ้งเบาะแสผู้ทำความผิด 8 ข้อข้างต้นมักมองไปที่ตัวเลขค่าปรับสูงสุด รวมทั้งการแชร์ข้อมูลเรื่องส่วนแบ่ง 50 เปอร์เซ็นต์มักแสดงตัวเลขค่าปรับสูงสุด ทั้งที่ความจริงแล้วกฏหมายได้ระบุไว่ว่าปรับไม่เกิน เช่นการจอดรถบนทางเท้าปรับไม่เกิน 5,000 บาท จึงหมายความว่าส่วนแบ่งที่ได้อาจไม่ใช่ 2,500 บาท เพราะในการปรับจริงอาจไม่ใช่จำนวน 5,000 บาทซึ่งเป็นค่าปรับสูงสุด แต่โทษปรับจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ องค์ประกอบของพฤติกรรม และความรุนแรงด้วย

ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ดูแลด้านงานจราจรได้เคยให้ข้อมูลในส่วนนี้ไว้ว่า กฏหมายระบุโทษชัดปรับไม่เกิน 5,000 บาท ไม่ได้เขียนว่าปรับ 5,000 บาท ฉะนั้นครึ่งหนึ่งของค่าปรับใช่ว่าจะเท่ากับ 2,500 บาทเสมอไป เนื่องจากต้องคำนึงถึงเหตุผลและปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย โดยการปรับเต็มอัตราต้องมีเหตุผล ดูปัจจัยความเสียหายประกอบด้วย พฤติกรรมต้องเหมาะสมกับค่าปรับ เช่น ผู้ขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นไปจอดรถบนทางเท้าเพราะมีธุระเร่งด่วน กับผู้ที่ใช้ทางเท้าทำมาหากิน โดยเจ้าหน้าที่ได้จับหลายครั้งแล้วยังทำอีก และรบกวนชาวบ้าน ค่าปรับจะแตกต่างกัน

การได้ส่วนแบ่งไม่เร็ว

ในเรื่องของส่วนแบ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าปรับ ผู้แจ้งเบาะแสจะไม่ได้รับเงินส่วนแบ่งทันทีที่ผู้ทำความผิดจ่ายค่าปรับ เพราะต้องผ่านกระบวนการเบิก-จ่ายตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยเมื่อผู้ต้องหาจ่ายค่าปรับแล้ว ไม่ได้หมายความว่าผู้แจ้งจะได้รับส่วนแบ่งทันที แต่ตำรวจต้องนำเงินเข้าหน่วยงานท้องถิ่นก่อน จากนั้นจึงทำเรื่องเบิกมาให้

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th