อยากเคลือบกระจก ต้องทำอย่างไรบ้าง
ช่วงนี้ฝนเริ่มกระหน่ำเมืองไทยอีกครั้งเพราะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนกันแล้ว และเชื่อว่าหลายๆ คนคงเบื่อกับการที่ขับรถตอนฝนตกแล้วมีเม็ดน้ำเกาะที่กระจกจนทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลงทั้งที่เปิดใบปัดแล้ว
ดังนั้นการเคลือบกระจกนับว่าเป็นทางออกที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากการเคลือบกระจกจะทำให้หยดน้ำที่เกาะเป็นเม็ดลื่นไหลไม่เกาะกระจกนั่นเอง เรามาดูกันว่าถ้าเราอยากอยากเคลือบกระจก ต้องทำอย่างไรกันบ้าง
1.ยกที่ปัดน้ำฝนขึ้น
2.ล้างกระจกให้สะอาด
3.สำรวจกระจกให้ทั่วบานกระจกเพื่อดูว่ามีตรงไหนที่ยังมีคราบติดอยู่อีกบ้าง หากกระจกยังไม่เรียบเสมอกัน ควรล้างคราบต่างๆ ออกให้หมดเพื่อไม่ให้เกิดอาการที่ปัดน้ำฝนกระโดด
4.เช็ดกระจกให้แห้งด้วยผ้า
5.ป้องกันขอบยางด้วยการให้เทปกาวมาติดป้องกันไว้
6.เทน้ำยาเคลือบลงบนผ้า หรือฟองน้ำ แล้วถูเป็นวงเล็กๆ ไล่ไปเรื่อยๆ จากบนลงล่าง สามารถทำ 2 รอบก็ได้เพื่อให้เคลือบได้ดีขึ้น
7.รอให้น้ำยาเคลือบขึ้นฝ้า หรือทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
8.ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้ง หรือผ้าขนนุ่มแห้งมาเช็ดคราบน้ำยาออกจนกระจกใส
ข้อดีของการเคลือบกระจกรถ คือ เพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นที่ดีขึ้นเมื่อขับรถในช่วงฝนตก ช่วยป้องกันฝนกรด หรือคราบหินปูนที่อาจจะกัดกร่อนเข้าเนื้อกระจกได้ และป้องกันการเกิดคราบฝังลึกจากมูลสัตว์ ที่สำคัญเวลาที่เจอฝนตกหนักๆ จะช่วยลดความเครียดตอนขับลงได้ ไม่ต้องเพ่งมองทางมากสำหรับอายุการเคลือบกระจกแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นตัวน้ำยาเอง เจอฝนบ่อยแต่ไหน เจอฝนแรงหรือไม่
ดังนั้นเจ้าของรถจะต้องลองสังเกตเอาว่ายี่ห้อที่ใช้สามารถอยู่ได้นานสุดกี่วันโดยดูว่าน้ำเริ่มเกาะกระจกแล้วหรือยัง
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th