อีซูซุคาราวานสัญจร พะเยา-เชียงราย ปิดทริปความสุขสุดท้ายแห่งปี
อีซูซุคาราวานสัญจร 2018 ปิดทริปความสุข สนุกสุด…ฉุดไม่อยู่ ทริปสุดท้ายแห่งปี พาแอ่วเหนือจากเชียงคำสู่เชียงแสน ด้วยการนำสมาชิกประชาคมอีซูซุ 31 คัน รวมทั้งสิ้นกว่า 130 ท่าน ร่วมกิจกรรมอีซูซุคาราวานสัญจรประจำปี 2018 ความสุข สนุกสุด… ฉุดไม่อยู่ เส้นทางที่ 4 ทริปสุดท้ายของปีนี้ พะเยา – เชียงราย ขึ้นเหนือสุดแดนสยามริมฝั่งโขง สัมผัสวิถีชาวบ้าน ชาวเชียงคำ เชียงของ และเชียงแสนในอดีต โดยได้รับเกียรติจากว่าที่ร้อยตรีสมัย คำชมภู ปลัดจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย มร. ฮิโรกิ คาโต้ ผู้จัดการฝ่ายขายดีลเลอร์–บี บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และคุณพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมตีธงปล่อยขบวนคาราวานออกจากบริษัท อีซูซุลำปาง จำกัด สาขาพะเยา อ.เมือง จ.พะเยา
ขบวนคาราวานออกเดินทางท่ามกลางสายฝนอันชุ่มฉ่ำ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใด ๆ ต่อการขับขี่ รถทุกคันทั้งคนขับและผู้นำทางต่างมั่นใจในสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของรถอีซูซุ พร้อมใจกันออกเดินทางตามกำหนดการ มุ่งหน้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของคาราวาน “วัดนันตาราม” (วัดจองเหนือ) เป็นวัดที่สร้างด้วยศิลปะแบบไทยใหญ่ ตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงคำ จ.พะเยา ตัววัดสร้างจากไม้สักทั้งหลัง โดยมีการตกแต่งลวดลายในส่วนต่าง ๆ อย่างสวยงาม หลังคาของวัดนันตารามถือเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่ง เพราะจะมีลักษณะเป็นหลังคาหลายๆ ชั้น ซ้อนกัน โดยแต่ละชั้น จะลดหลั่นกัน และด้วยสีของกระเบื้องมุงหลังคา และสีของไม้ภายในตัวโบสถ์ ที่เป็นสีเข้ม ทำให้วัดนันตารามดูขลังและศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น
ภายในโบสถ์ องค์พระประธานจะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากไม้สักทองลงรักปิดทอง ทรงเครื่องแบบไทยใหญ่ ประดิษฐานบนฐานไม้ หรือ “ธรรมาสน์” ที่ฉลุลวดลายอย่างอ่อนช้อยสวยงาม จำลองแบบมาจากราชบัลลังก์ของพม่า โดยข้างองค์พระประธาน มีพระพุทธรูปหินขาว และพระพุทธปฏิมาประธานไม้สักทอง ที่ต่างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องแบบไทยใหญ่อย่างสมส่วนสวยงามประดิษฐานอยู่ ภายในวัดนันตารามมีพิพิธภัณฑ์สะสมของเก่าหาชมได้ยากอยู่มากมายอีกด้วย
“วัดนันตาราม” (วัดจองเหนือ)
หลังจากท่องเที่ยวชมจุดต่าง ๆ ในวัดแล้ว คณะคาราวานก็เดินทางต่อเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรมน้ำโขงริเวอร์ไซด์ อ.เชียงของ จ.เชียงราย อิ่มอร่อยกับอาหารท่ามกลางบรรยากาศริมฝั่งโขง แบบชิลล์ๆ พร้อมเดินชมบรรยากาศรอบ ๆ ที่สวยงาม พร้อมทั้งเลือกซื้อผลิตภัณฑ์พื้นบ้านบริเวณร้านค้าใกล้ ๆ อีกด้วย
หลังจากนั้น ขบวนคาราวานตั้งขบวนใหม่เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายถัดไป คือ “วัดพระธาตุผาเงา” ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขงทางด้านทิศตะวันตก ตรงข้ามกับประเทศลาว อยู่ในอำเภอเชียงแสน ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาเล็ก ๆ แต่ก่อนชาวบ้านเรียกดอยลูกนี้ว่า “ดอยคำ” แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น “ดอยจัน” ในอดีตช่วงสมัยของอาณาจักรโยนก วัดแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองมาก สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นวัดที่สำคัญและถือเป็นวัดประจำกรุงเก่าก็เป็นได้ จะเห็นได้ว่าพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงาที่ขุดค้นพบแห่งนี้ถูกสร้างและฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์ใหญ่ (พระประธาน) ถูกปิดบังซ่อนเร้นเพราะเกรงว่าจะถูกโจรกรรมจากพวกนิยมสะสมของเก่า แต่เดิมที่แห่งนี้เคยเป็นถ้ำ เรียกว่า “ถ้ำผาเงา” ปากถ้ำถูกปิดไว้นาน ทำให้บริเวณแห่งนี้เป็นป่ารก เต็มไปด้วยซากโบราณวัตถุกระจัดกระจาย พระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงาองค์นี้มีอายุระหว่าง 700-1,300 ปี
ภายในบริเวณวัดพระธาตุผาเงา มี “หอพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา” สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมพระไตรปิฎกนานาชาติ 9 ประเทศ 9 ภาษา ได้แก่ อินเดีย ศรีลังกา พม่า จีน ญี่ปุ่น ลาว อังกฤษ กัมพูชา และไทย ได้รับพระราชทานชื่อเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา สร้างลักษณะศิลปะล้านนา กลางสระน้ำ ฐานรองรับสร้างด้วยคอนกรีต มีเสา 80 ต้น อาคารหอพระไตรปิฏกฯ สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง พื้นและราวระเบียงตกแต่งด้วยหินทราย
ปิดทริปเที่ยวจุดสุดท้ายของครั้งนี้ คือการเข้าเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์หอฝิ่น ณ อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ” เป็นเสมือนประตูเปิดสู่โลกอันลึกลับของฝิ่น ผ่านเรื่องราวและมุมต่าง ๆ ภายในพิพิธภัณฑ์จากความมืดมนน่าหวาดกลัว สู่ความแจ่มจรัสและรู้แจ้ง บอกเล่าเรื่องราวของฝิ่น โดยเริ่มจากธรรมชาติวิทยาของฝิ่น การสืบประวัติการใช้ฝิ่นในยุคโบราณ กลับไป 5,000 ปี ประวัติการแพร่กระจายของฝิ่นจากการค้าในสมัยจักรวรรดินิยม เหตุการณ์พลิกประวัติศาสตร์ที่สร้างความอดสูแก่ผู้ชนะและผู้แพ้ในสงครามฝิ่นอันนำไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์แมนจู ความชาญฉลาดของประเทศสยามในการเผชิญกับมหาอำนาจตะวันตกและการควบคุมปัญหาฝิ่น หอฝิ่นได้จัดแสดงอุปกรณ์การสูบฝิ่น การขายฝิ่น ชมภาพถ่าย ภาพยนตร์ และวิดีทัศน์เรื่องราวเกี่ยวกับฝิ่นและยาเสพติดจากหลากหลายประเทศทั่วโลก
จากนั้นคาราวานสัญจรของครอบครัวอีซูซุ เข้าพัก ณ อิมพีเรียล โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล รีสอร์ท บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย พร้อมงานเลี้ยงรับรองภาคค่ำอย่างอบอุ่นตามแบบฉบับของอีซูซุ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ พร้อมกิจกรรมก่อนเริ่มงานเลี้ยงด้วยการประดิษฐ์จานรองแก้วสีสันสวยงาม สนุกสนานกับเกมหลากหลายรับของรางวัลมากมาย
ปิดท้ายความบันเทิงจากนักแสดงหนุ่ม ปั้นจั่น – ปรมะ อิ่มอโนทัย หรือท่านหมื่นเรืองจากละครบุพเพสันนิวาส ที่มาร้องเพลง พร้อมร่วมสนุกบนเวที และถ่ายภาพคู่กับสมาชิกคาราวานอย่างเป็นกันเอง ปิดทริปอีซูซุคาราวานสัญจร 2018 ดั่งสโลแกน ความสุข สนุกสุด… ฉุดไม่อยู่ จริงๆ
ว่าที่ร้อยตรี ชัยยุทธ บัวมั่น รถหมายเลข 22 มาพร้อมภรรยาและเพื่อน ๆ รวม 5 ท่าน เล่าว่า “ผมเป็นลูกค้าอีซูซุมาโดยตลอด ใช้รถอีซูซุมาแล้ว 5 คัน การมาร่วมกิจกรรมคาราวานครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ได้มาเที่ยวกับทางอีซูซุ เคยได้ยินจากเพื่อน ๆ เสมอว่ามากับอีซูซุสนุกมาก เลยอยากมาร่วมกิจกรรมบ้าง สมัครมาร่วมทริปทั้งหมด 3 คัน แต่ได้เข้าร่วมเพียง 1 คัน เพราะสมาชิกครอบครัวอีซูซุสนใจสมัครเป็นจำนวนมาก ทำให้เต็มอย่างรวดเร็ว สำหรับการมาร่วมกิจกรรมครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจมาก ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และการต้อนรับอย่างดียิ่งจากทีมงาน พร้อมทั้งความสนุกสนานเป็นกันเอง รวมถึงมิตรภาพดี ๆ ของเพื่อน ๆ ผู้ร่วมทริปทุกคันด้วยครับ”
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th