ฮุนได เผยโฉม เอช-วัน รุ่นพิเศษ และ ทูซอน ใหม่
ฮุนได เอช-วัน อีลิทพลัส
ฮุนได เอช-วัน อีลิทพลัส รุ่นพิเศษนี้ ได้รับการพัฒนาและ เพิ่มอุปกรณ์ด้านความบันเทิงและความปลอดภัยให้มากขึ้นนอกเหนือจากการปรับโฉม เมื่อช่วงต้นปีภายใต้ คอนเซ็บป์ Luxury MPV โดยมีการออกแบบกระจังหน้าใหม่ และได้ติดตั้ง LED Daytime Running Light เพื่อความหรูหรา และเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่เวลากลางวัน ภายในได้มีการตกแต่งคอนโซลใหม่ ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เบาะนั่งภายในห้องโดยสารด้านหลัง ได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อความหรูหรา และความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับทุกๆการเดินทาง
นอกจากนี้ ยังได้มีการเพิ่มอุปกรณ์เพื่อความสะดวกสบายในขณะขับขี่และขณะโดยสาร ได้แก่ หน้าปัดเรืองแสงใหม่ พร้อมไฟส่องสว่างสีฟ้า และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่, ระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ, ระบบเครื่องเสียงได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงและความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เน้นถึงความคุ้มค่าไม่ว่าจะเป็น การติดตั้งหน้าจอสัมผัสที่คอนโซลด้านหน้า ที่สามารถใช้งานเพื่อความบันเทิงต่างๆได้เต็มรูปแบบจาก ไพโอเนียร์ กล้องมองหลังเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยขณะถอยจอด จอบนเพดานด้านหลังสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 10.1 นิ้ว เพื่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลังรถ พร้อมโลโก้ Elite+
ฮุนได ทูซอน ใหม่
รถยนต์ฮุนได ทูซอน ใหม่ ได้รับการพัฒนาบนแพลทฟอร์มใหม่ เพิ่มมิติและเนื้อที่ภายในห้องโดยสารให้กว้างมากขึ้นส่วนรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน มีเส้นสายที่ชัดเจน แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา และความทันสมัย มีสัดส่วนและรูปร่างที่ลงตัวเหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบของรถยนต์เอนกประสงค์ ที่มีการใช้งานที่หลากหลาย อีกทั้งยังสามารถขับขี่และโดยสารได้อย่างสบาย สำหรับการออกแบบภายใน รถยนต์ฮุนได ทูซอน ใหม่ ได้รับการออกแบบ และเลือกสรรวัสดุภายใน ที่มีความหรูหราและคุณภาพสูง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพื่อการขับขี่และการใช้งาน ติดตั้งมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายรูปแบบ เช่น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ที่มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบความปลอดภัยต่างๆ ก็ได้รับการติดตั้งมาอย่างครบครันเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
โดยรถที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง พร้อมเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 185 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,750 รอบต่อนาที เชื่อมต่อกับระบบเกียร์แบบอัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift Mode ที่ผู้ขับขี่ สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการ ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ McPherson Strut พร้อมคอยล์สปริง ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ Multilink ที่ยึดเกาะในทุกสภาพถนน มอบความมั่นใจ ความนุ่มนวลในการขับขี่ในทุกรูปแบบ พร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และเทคโนโลยีอื่นๆ
เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ เช่น ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DBC (Downhill Brake Control), ระบบ Auto Hold ที่ช่วยหยุดรถไว้ในขณะที่จอดติดไฟแดง โดยที่ผู้ขับขี่ ไม่จำเป็นต้องเหยียบแป้นเบรกค้าง เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น, เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง ขณะถอยจอด, ระบบ Rear Cross Traffic Alert ที่ช่วยหยุดรถอัตโนมัติมั่นใจยิ่งขึ้น ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-time on demand ที่สามารถควบคุมได้จากปลายนิ้ว เพียงกดปุ่มควบคุมบริเวณแผงควบคุมด้านใต้คันเกียร์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็จะทำงาน เพื่อความมั่นใจในการขับขี่บนถนนที่ต้องการการควบคุมเป็นพิเศษ
เรื่อง: ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th