ก่อนที่จะขับรถผ่านอุปสรรคอย่างน้ำ จำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมพร้อมกันสักเล็กน้อย และเพื่อให้ชัดเจนสามารถมองการขับผ่านน้ำนี้แบ่งออกเป็น สองลักษณะใหญ่ๆ สักสองรูปแบบ

รูปแบบแรกคือการขับบนเส้นทางทั่วไปอย่างเช่นท้องถนน ซึ่งอาจจะมีปัจจัยทำให้เกิดมีน้ำท่วมขัง หรือมีเหตุน้ำท่วมแต่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางผ่านไปให้ได้ สิ่งที่น่ากังวลคือเรื่องของเส้นทางที่จะขับไป เพราะเมื่อไม่สามารถมองเห็นพื้นทางว่าเป็นแบบไหน การเตรียมพร้อมเรื่องของการใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ จึงมีความจำเป็น

ระดับของน้ำกับสัดส่วนที่ท่วมตัวรถ สังเกตุจากรถคันอื่น หรือเปรียบเทียบกับสิ่งแวดล้อม เช่นความสูงของระดับน้ำที่ท่วมกับต้นไม้ กำแพง เพื่อให้พอรู้ว่าระดับน้ำนั้นไม่สูงมากจนเกินไปที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อเครื่องยนต์ได้ แต่หากรถคันนั้นมีการโมดิฟายมาพร้อมสำหรับกาลุยน้ำได้อย่างเต็มที่ สมบูรณ์แล้วก็หมดกังวลในจุดนี้ลงไป

ที่สำคัญคือต้องรักษาระดับความเร็วในการขับขี่ให้คงที่ ไม่เร็วหรือช้าเกินไป ใช้เกียร์และรอบเครื่องให้เหมาะสม อย่าให้เครื่องยนต์รอบต่ำเกินไปจนอาจจะทำให้เครื่องยนต์ดับได้ แต่ในทางปฏิบัติจริง สำหรับการลุยน้ำบนถนน อย่างน้ำท่วมถือเป็นเรื่องที่ไม่น่ากลัวเท่าไหร่สำหรับ รถที่ตกแต่งเที่ยวป่า หรือแม้กระทั่งออฟโรดโรงงานก็ตาม เพราะมันมีคุณสมบัติที่รองรับได้ระดับหนึ่งอยู่แล้ว

แต่กับรูปแบบของการขับข้ามอุปสรรคน้ำในเส้นทางธรรมชาติ แบบนี้จำเป็นจะต้องพร้อมมากกว่ารูปแบบทั่วไป เพราะมันค่อนข้างจะอันตรายสำหรับรถและคน หากเกิดความผิดพลาดขึ้น ซึ่งตามคำแนะนำกับสิ่งที่ควรทำก่อนการลงลุยน้ำนั้น จำเป็นที่จะต้องมีสิ่งที่ควรทำกับรถและคน รวมถึงการวางแผนสำรวจภูมิประเทศในบริเวณนั้นให้ได้มากที่สุด

เราจำเป็นที่จะต้องสำรวจพื้นผิวทางด้านล่างของน้ำว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร เพื่อใช้ความเร็วได้อย่างเหมาะสม กำหนดจุดที่จะลงและจุดที่จะขึ้น ถ้าหากมีร่องรอยของการเดินทางหรือบริเวณที่ขึ้นได้สะดวกใกล้ที่สุดควรเลือกที่จะเดินทางไปในแนวนั้น ระดับของความลึกของน้ำถ้าหากระดับน้ำในบริเวณไหนอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก ซึ่งไม่ควรเกิน 3 ใน 4 ของความสูงรถ โดยระดับที่เหมาะสมคือประมาณ ไม่เกินกึ่งกลางรถ

ทิศทางของการขับไปยังจุดหมายอีกฝั่ง ควรจะขับไปในทิศทางตามน้ำ หรือไปในแนวการไหลของน้ำ ดังนั้นการกำหนดจุดหมายปลายทางและจุดเริ่มต้น จำเป็นต้องคำนึงถึงมุมของรถที่จะทแยงไป เพื่อไม่ให้เกิดการต้านกระแสน้ำ ที่สำคัญเรื่องของการควบคุมทิศทางและความเร็วจำเป็นต้องสม่ำเสมอ การวางแผนที่ดีคือสิ่งที่จะช่วยให้ปลอดภัย

แน่นอนที่ก่อนจะขับรถลงไปในน้ำต้องทำการปิดระบบปรับอากาศ ใช้โหมดขับเคลื่อนสี่ล้อ หากมีระบบดิฟเฟอเรนเชียล ล็อกหรือระบบล็อกเฟืองท้าย ควรใช้เพื่อลดการปั่นฟรีของล้อ ใช้ความเร็วที่เหมาะสม เลี้ยงรอบเครื่องให้อยู่ในระดับพอสมควร เมื่อผ่านขึ้นฝั่งแล้ว ควรจอดหยุดนิ่งเร่งรอบเครื่องไล่น้ำออกจากท่อไอเสียสักเล็กน้อย ดูการทำงานของเครื่องยนต์มีอาการสั่นผิดปกติหรือไม่ หากไม่มีจึงค่อยเดินทางต่อไป

เรื่อง โดย: ศิปิวรรธ ปานกลาง

เครดิต: ภาพ: OFF ROAD MAGAZINE

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th