เจอ ช. ช้างแล้วต้องทำอย่างไร…..ถึงจะรอด
สำหรับการเดินทางขึ้นไปยังภูเขา ป่าดงพงไพร หรือแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ ก็มักจะเจอทั้งสัตว์เล็กและสัตว์ใหญ่ปนๆ กันไป แต่เผอิญช่วงเวลาการเดินทางเพื่อนๆ ได้จ๊ะเอ๋กับพี่ “ช้างป่า” เข้าอย่างจัง พร้อมยืนรอต้อนรับเพื่อนๆ อยู่ข้างหน้า ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเพื่อนๆ จะทำอย่างไร??? เชื่อว่า ในเวลานั้นคนส่วนใหญ่อาจจะไม่มีสติ เพราะกำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นต่อหน้า ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปวีดีโอ รถทุกคันต้องจอดหยุด ไม่ขยับไปไหน ไม่ออกจากรถ และไม่ส่งเสียงดัง ไม่ว่าจะเป็นการใช้แตรก็ตาม เพราะจะทำให้ช้างตื่นตระหนกตกใจและเดินมาสำรวจตัวรถของเรา วันนี้แอดมินมีวิธีการรับมือกับช้างป่าเมื่อต้องเจอกันแบบเผชิญหน้ากัน สิ่งแรกที่ต้องมีคือ “สติ” และปฎิบัติตามขั้นตอน ดังนี้
- หยุดรถให้ห่างจากช้างป่าอย่างน้อย 30 เมตร แล้วรอจนกว่าช้างป่าจะเดินออกจากถนนไป แล้วจึง
ค่อยๆ เคลื่อนรถผ่านไป แต่หากช้างป่าเดินเข้ามา ให้ค่อยๆ เคลื่อนรถถอยหลังอย่างช้าๆ
- ห้ามส่งเสียงดังหรือใช้แตรเด็ดขาด เพราะช้างมีประสาทรับเสียงที่ดีมาก โดยเฉพาะเสียงแหลมๆ
ที่มาจากแตรรถยนต์นั่นเอง จะทำให้ช้างตกใจและทำให้อยากรู้อยากเห็นพร้อมที่จะสำรวจรถของเราได้
- อย่าใช้แฟลชถ่ายรูป ถ้าจะถ่ายรูปหรืออัดวีดีโอสามารถทำได้แค่ในรถเท่านั้น
- อย่าตกใจ แล้วดับเครื่องยนต์…..ควรสตาร์ทรถเอาไว้ จะได้เคลื่อนรถหนีออกได้ทัน ในกรณีที่
เครื่องยนต์ที่ดังเป็นเสียงทุ้ม ไม่ใช่เสียงแหลม จะไม่ทำให้ช้างป่าตกใจและไม่เครียด เพราะช้างป่าเดินบนถนนบ่อย ดังนั้นจะคุ้นเคยกับเสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์อยู่แล้ว
- ดึงสติตัวเองกลับมา ซึ่งเราจะรู้สึกว่าเรากำลังโดนคุกคาม เพราะด้วยพละกำลังที่มหาศาล แต่
จริงๆ แล้วช้างแค่เข้ามาสำรวจ มาเล่นๆ กับเราก็เท่านั้นแหละ
- ห้ามลงจากรถเด็ดขาด ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสอย่างใกล้ชิด
- แต่ถ้าบังเอิญจากช้างป่าช่วงตอนกลางคืน ผู้ขับรถต้องเปิดไฟหน้ารถเอาไว้เสมอ แต่ห้ามกระพริบ
ไฟหน้าเด็ดขาด เพราะแสงไฟจะเข้าตาช้างและกลายเป็นดึงดูดความสนใจขึ้นมา แต่สามารถเปิดไฟสูงได้ หากอยู่ห่างจากช้างป่ามากกว่า 50 เมตรขึ้นไป เพราะช้างป่าตัวสูง จะเห็นไฟตั้งแต่ไกลๆ มันจึงไม่ตกใจ
สำหรับ 7 วิธีนี้ เป็นเพียงการรับมือเบื้องต้นเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามควรจะต้องมีสติก่อน ปัญญาถึงจะเกิดตามมานะคะ ขอทิ้งท้ายไว้สักหน่อย วิธีการสังเกตอารมณ์ของช้างแบบปกติ มันจะโบกหูไปมาหางก็จะแหว่ง สะบัดงวงหยิบจับโน้นนี่นั้น โดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างแต่อย่างใด เหมือนกันถ้าขับรถผ่านมันก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่เมื่อไหร่ถ้ามันอารมณ์เสีย หงุดหงิด หูมันจะกาง หางทิ้งแข็งไม่สะบัด งวงจะอยู่นิ่งหรืออาจจะเอางวงตีที่พื้น จะไม่เดินไปไหน จะยืนนิ่งๆ และจ้องมองไปข้างหน้าซึ่งพร้อมจู่โจมได้ตลอดเวลา
แต่ถ้าเจอช้างตกมัน สังเกตง่ายเลยคือ ที่ขมับของช้างทั้ง 2 ข้างจะบวมขึ้น (อยู่ระหว่างตากับหู) ซึ่งจะเห็นเป็นของเหลวสีขาวข้นไหลอออกมา และจะมีกลิ่นเหม็นสาบอย่างรุนแรงและฉุนมาก ซึ่งหากเป็นช้างตัวผู้จะเห็นอวัยวะสืบพันธุ์ที่แข็งและยื่นยาวออกมา และมีปัสสาวะไหลแบบกะปริบกะปรอย และอาจจะมีน้ำอสุจิไหลออกมาด้วย ดังนั้นเมื่อไหร่ที่เห็นช้างตกมัน เพื่อนๆ ก็ควรจะต้องระวังเป็นพิเศษแล้วอยู่ห่างจากมันให้มากที่สุดเท่าที่จะห่างได้นะคะ
เรื่อง : วีรณัฐ ภิรมย์ลาภา
ขอบคุณรูปภาพ : Thairath.com, MThai News
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th