All NEW Mazda 3 พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันที่ 18 กันยายน นี้ โดยจะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อยทั้ง2ตัวถัง คือ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู การออกแบบภายนอก เรียกได้ว่ามาสด้าดึงเอาจุดเด่นของรถต้นแบบ RX-VISION และ VISION COUPE มาใส่ใน All New Mazda 3 ได้อย่างลงตัว โดยการดีไซน์ภายนอกที่มีสองบุคลิกที่แตกต่างกันของรถแฮตซ์แบค และซีดาน โดยแนวคิดการออกแบบของรถแฮตซ์แบคจะออกแนวหนักแน่นและเร้าใจ แสดงออกถึงความมีชีวิตชีวา โดยไม่ต้องใช้แนวเส้นตามลำตัวรถ ด้านหลังที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้มีเสน่ห์ดึงดูดสายตาได้ดี ในขณะที่รถซีดานจะดูโฉบเฉี่ยวและหรูหรา ไหลลื่นจากด้านหน้าไปด้านหลังด้วยการเคลื่อนไหวด้วยเส้นสายเส้นเดียว รูปทรงดูนุ่มนวลและสง่างาม รายละเอียดต่างๆเดียวเรารอเปิดตัวค่อยมาเจาะลึกกันอีกที ผมเชื่อว่าเพื่อนๆคงเห็นภาพในอินเตอร์เน็ตมาเยอะแล้วสำหรับรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน

• Dimension มิติตัวถัง

All New Mazda 3 (Sedan)

ยาว x กว้าง x สูง : 4,662 x 1,797 x 1,445 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,725 มิลลิเมตร

All New Mazda 3 (Hatchback)

ยาว x กว้าง x สูง : 4,459 x 1,797 x 1,440 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,725 มิลลิเมตร

Mazda 3 รุ่นปัจจุบัน (Sedan)

ยาว x กว้าง x สูง : 4,589 x 1,797 x 1,440 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,700 มิลลิเมตร

Mazda 3 รุ่นปัจจุบัน (Hatchback)

ยาว x กว้าง x สูง :  4,470 x 1,797 x 1,440 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,700 มิลลิเมตร

เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม พบว่า รุ่น Hatchback สั้นลง 10 มิลลิเมตร รุ่น Sedan ยาวขึ้น 73 มิลลิเมตร เตี้ยลง 5 มิลลิเมตร ความกว้างเท่าเดิม ส่วนระยะฐานล้อยาวขึ้น 25 มิลลิเมตร

• Engine เครื่องยนต์

เครื่องยนต์เดิม !! ซึ่งมีเครื่องขนาดเดียวเท่านั้นทั้ง 2 ตัวถัง คือ  เครื่องยนต์ เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี. DOHC แบบ 4 สูบ Dual S-VT Electronic Direct Injection กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ SKYACTIV รองรับน้ำมันสูงสุด E85

มาสด้าใช้เครื่องยนต์เดิมจริงครับแต่มีการปรับจูน ปรับขนาดของลูกสูบใหม่ และใช้วาล์วควบคุมน้ำหล่อเย็นทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมาสด้าบอกเหตุผมที่ยังใช้เครื่องยนต์บล็อกเดิมเพราะว่า เครื่องยนต์บล็อกนี้ยังมีประสิทธิภาพและยังสามารถอัพเกรดได้อีกเยอะ เพราะในขณะที่มีการอัพเกรดเครื่องยนต์บล็อกนี้ขึ้นไปแต่เรายังสามารถทำให้ CO2 ลดน้อยลง ได้อัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้น และได้ทอร์คที่เพิ่มขึ้นดังนั้นเราจึงไม่มีเหตุอะไรที่จะเปลี่ยนของที่มันดีอยู่แล้ว ส่วนเครื่องยนต์ SKYACYIV X ยังไม่มีการนำเข้ามาในเร็ววันนี้แน่นอน

• Suspension ช่วงล่าง

ช่วงล่างด้านหน้า : McPherson Strut

ช่วงล่างด้านหลัง : เปลี่ยนจากแบบ Multi-link เป็น Torsion Beam

ทำไม All New Mazda 3 จึงเปลี่ยนช่วงล่างแบบมัลติลิงค์ มาเป็น ทอร์ชั่นบีม ซึ่งหลายคนมองว่ามันเป็นการกลับไปใช้เทคโนโลยีโบราณหรือเปล่า มาสด้าตอบเราว่า เป็นเรื่องของการลดน้ำหนักเพราะเมื่อเปลี่ยนมาใช้ช่วงล่างแบบทอร์ชั่นบีมมันสามารถลดน้ำหนักของตัวรถได้มากถึง 10 กิโลกรัม ช่วงล่างแบบทอร์ชั่นบีมให้การตอบสนองในการขับขี่ได้ดีกว่า เรื่องความเสรียรภาพของการทรงตัวที่ทอร์ชั่นบีมเจนเนเรชั่นใหม่ของเราที่ให้ได้โดยเฉพาะในแนวระนาบ และสามารถลดต้นทุนในส่วนนี้เพื่อไปพัฒนาในส่วนอื่นๆในตัวรถด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงทำให้เราเปลี่ยนจากมัลติลิงค์ มาเป็นทอร์ชั่นบีม

• Exterior ภายนอก

ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED มีระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำ แบบอัตโนมัติ และ เปิด-ปิด แบบอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบ LED สปอยเลอร์หลัง ปลายท่อโครเมียมคู่แบบสปอร์ต ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor กระจกมองข้าง ปรับระดับอัตโนมัติ เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง และ ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/45 R18

• Interior ภายในห้องโดยสาร

ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ พวงมาลัยหุ้มด้วยหนังปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก) มี Paddle Shift ให้ด้วย หัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา แถมมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มีระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Brake Hold มาให้ มาตรวัดความเร็ว และ หน้าจอแสดงข้อมูล MID แบบสี TFT รวมในชุดมาตรวัด มีหน้าจอแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า Active Driving Head-up Display กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ขึ้น-ลง แบบอัตโนมัติ One-Touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam ทั้ง 4 บาน เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีทูโทน ดำ – น้ำตาลเข้ม เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง (พร้อมปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support) สามารถบันทึกตำแหน่ง Memory Seat 2 ตำแหน่ง เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40 ระบบความบันเทิงครบครันหน้าจอกลาง Center Display ขนาด 8 นิ้ว Touchscreen ไม่ได้ ปุ่มควบคุมหน้าจอ CENTER COMMANDER สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ AUX USB Bluetooth ช่องชาร์จไฟ 12V รองรับ Apple CarPlay / Android Auto ระบบนำทาง Navigation System ระบบเสียง Premium Sound จาก BOSE ลำโพง 12 ตำแหน่ง พร้อม Sub-Woofer

• Safety ระบบความปลอดภัย

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ลื่นไถล (TCS) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HLA) ระบบไฟหน้าอัจฉริยะ Adaptive LED Headlamps (ALH) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกช่องจราจร (LDWS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร (LAS) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติด้านหน้า (SCBS) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติด้านหลัง (SCBS-R) ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA) ระบบเตือนเมื่อมีรถในมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในมุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบเตือนการชนด้านหน้า และ ช่วยเบรก (SBS) ระบบควบคุมความเร็ว และ พวงมาลัยตามรถคันหน้า (Cruising & Traffic Support : CTS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Mazda Radar Cruise Control : MRCC) ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง G-Vectoring Control แบบ PLUS ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS) ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหลัง 6 ตำแหน่ง ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา กุญแจ Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย Burglar Alarm

ส่วนราคาจำหน่าย และรายละเอียดต่างๆ อย่างเป็นทางการของ All New Mazda 3 ต้องรอลุ้นในวันที่ 18 กันยายน นี้ แต่คาดว่าราคาคงไม่หนีจากรุ่นปัจจุบันเท่าไหร่นัก และคงไม่ได้แพงไปกว่าคู่แข่งอย่าง All New Toyota Altis แน่นอนคาดประมาณ 900,000 – 1,100,000 บาท  

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th