เจาะสเปค AUDI RS Q3 Sportback 400 แรงม้า ก่อนเปิดตัว 19 ก.พ. นี้

อาวดี้ ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว RS เพิ่มอีก 1 รุ่น เป็น Compact SUV ตัวแรง นั่นก็คือ RS Q3 Sportback ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 เทอร์โบ 400 แรงม้า เครื่องยนต์ตัวเดียวกับ TT RS เบนซิน 2.5 เทอร์โบ 400 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro สำหรับผู้ที่รักทั้งความอเนกประสงค์ของรถเอสยูวีและความแรง

รูปลักษณ์ภายนอกของ AUDI RS Q3 Sportback มาพร้อมกับกรอบกระจังหน้าซิงเกิลเฟรมซึ่งมีลายรังผึ้งสีดำมันอยู่ภายใน รวมไปถึงเปลี่ยนกันชนหน้าให้ดูสปอร์ตและดุดันขึ้นด้วยช่องดักอากาศขนาดใหญ่ซึ่งมีครีบ Boomerang-shape Blade ข้างช่องดักอากาศ ส่วนด้านข้างรถถูกขยายซุ้มล้อให้ใหญ่ขึ้นกว่าปกติสำหรับล้ออัลลอยขนาด 20 หรือ 21 นิ้ว ขณะที่ด้านหลังมาพร้อมกับสปอยเลอร์รูปทรงเฉพาะสำหรับรุ่น และปลายท่อไอเสียคู่ทรงรีขนาดใหญ่ โดยกันชน RS-Specific ของรถมาพร้อมกับ Diffuser สีดำมันแต่งด้วยแถบอลูมิเนียมแนวนอน มิติตัวถัง ยาว 4,507 มิลลิเมตร กว้าง 1,851 มิลลิเมตร สูง 1,557 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร

ภายในห้องโดยสารก็ถูกเพิ่มความสปอร์ตมากกว่าปกติ โดยใช้พวงมาลัยท้ายแบนซึ่งมาพร้อมกับแป้นเปลี่ยนเกียร์ใหม่ พร้อมกับเน้นการใช้วัสดุสีดำมันแต่งภายในห้องโดยสาร ในขณะที่เบาะซึ่งปักตัวอักษร RS ที่พนักพิงเป็นหนังแท้ผสม Alcantara และต้อนรับการเข้าสู่ห้องโดยสารด้วยไฟส่องสว่างที่ฐานประตู แต่ก็มีเบาะหนัง Nappa เดินด้ายเป็นลายรังผึ้ง และวัสดุแต่งภายในห้องโดยสารรูปแบบอื่นอย่างอลูมิเนียมหรือคาร์บอนเป็นทางเลือก

เครื่องยนต์ของ AUDI RS Q3 Sportback (เครื่องยนต์ตัวเดียวกับ TT RS) เป็นเครื่องยนต์ 5 สูบ 2,500 ซีซี เทอร์โบชาร์จ 400 แรงม้า และแรงบิด 480 นิวตัน-เมตร โดยที่มีเกียร์ S Tronic 7 สปีดส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro วิ่ง 0-100 ใช้เวลา 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. อย่างไรก็ตามหากอยากใช้ความเร็วมากกว่า 250 กม./ชม. ทางผู้ผลิตก็มีออฟชั่นเพื่อช่วยให้ความเร็วสูงสุดของรถถูกจำกัดที่ 280 กม./ชม.ได้

AUDI RS Q3 Sportback ไม่ได้มาแต่เครื่องยนต์กำลังสูงเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับระบบช่วงล่าง Sport-tuned พร้อมมีการลดความสูงของรถลง 10 มม. นอกจากนี้ทางวิศวกรยังมีการติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวใหม่และระบบเบรกประสิทธิภาพสูงให้กับเอสยูวีทั้ง 2 รุ่นด้วย โดยใช้คาลิเปอร์ 6 ลูกสูบร่วมกับจานเบรกเซาะร่องและเจาะรูขนาด 375 มม. ที่ล้อหน้าและขนาด 310 มม. ที่ล้อหลัง