เชฟโรเลต นับถอยหลังปฏิวัติดีลเลอร์!!!-เผยโฉมโชว์รูมแบบใหม่ 1 พ.ค.นี้
เชฟโรเลต แบรนด์รถสัญชาติอเมริกัน เตรียมนับถอยหลังปฏิวัติรูปแบบตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย โดยจะเริ่ม 16 แห่งในต่างจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เพื่อยกระดับพัฒนาบริการเพื่อสร้างความพอใจของลูกค้าให้มากที่สุด มั่นใจช่วยดีลเลอร์ผ่านจุดคุ้มทุนเร็วขึ้น พร้อมย้ำใช้รถกระบะ และเอสยูวีเป็นหัวหอกลุยทำตลาดเมืองไทยต่อไป หลังจากยอดขาย 2 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์
คุณปิยะนุช จตุรภัทร์ ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายขาย และการตลาดเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่าในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ บริษัทเตรียมประกาศข่าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบเน็ตเวิร์คตัวแทนจำหน่ายของรถยนต์เชฟโรเลต ในประเทศไทย
“ในปัจจุบันเชฟโรเลต มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย 87 แห่ง และอีกไม่นานนี้ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้บริษัทจะมีการประกาศข่าวสำคัญเกี่ยวกับโมเดลการลงทุนใหม่ของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลต ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมองเห็นจุดคุ้มทุนได้เร็วมากขึ้น และช่วยทำให้ลูกค้าเข้ามารับบริการได้ครอบคลุมมากกว่าเดิม” คุณปิยะนุช ให้สัมภาษณ์ระหว่างงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 โดยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “โมเดลเน็ตเวิร์คใหม่เบื้องต้นจะมีทั้งหมด 16 แห่งในต่างจังหวัด หลังจากในกรุงเทพฯ ตอนนี้เรามีโชว์รูมศูนย์บริการอยู่แล้ว 18 แห่ง และภายในสิ้นปีนี้เครือข่ายของเชฟโรเลต จะครอบคลุมการให้บริการทั่วประเทศมากขึ้น โดยเหลือเพียง 6-8 จังหวัดเล็กๆ เท่านั้นที่จะไม่มีศูนย์บริการของเชฟโรเลต”
การประกาศแผนยกเครื่องเน็ตเวิร์คศูนย์บริการใหม่ของเชฟโรเลต จะเริ่มต้นพร้อมการส่งมอบรถกระบะโคโลราโด ไฮคันทรี สตอร์ม รุ่นปี 2019 สีส้ม “Orange Crush” และสีเทา “Dark Shadow Metallic” ให้ลูกค้าที่สั่งจอดตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้
คุณปิยะนุช แสดงความเชื่อมั่นในรถกระบะโคโลราโด และรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์ ในการสานต่อความสำเร็จของเชฟโรเลต ในประเทศไทย ที่สามารถทำยอดขายในปี 2017 เพิ่มขึ้น 25.7 เปอร์เซ็นต์ หากเทียบกับยอดขายของปี 2016
“ถ้านับเฉพาะยอดขายของโคโลราโด จะอยู่ที่ราว 32 เปอร์เซ็นต์ โดยสร้างยอดขายที่ดีมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วต่อเนื่องมาถึงเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ จนต้องบอกว่าดีลเลอร์ของเรามีรถไม่พอขาย และยอดขายในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2017 ทั้งแบรนด์โดยรวมเพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่จริงเป็นช่วงที่ยอดขายน่าจะชะลอตัว โดยลูกค้าส่วนหนึ่งรอพิจารณาข้อเสนอในงานมอเตอร์โชว์ แต่เราสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ทำให้ตอนนี้ดิฉันต้องบอกว่ามีความสุขมาก”
เหตุผลสำคัญที่ทำให้โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ ที่มีอายุโมเดลในตลาดมานานหลายปี รักษาระดับยอดขายที่สูง คุณปิยะนุช อธิบายเพิ่มเติมว่า “ต้องย้อนกลับไปสู่ช่วงต้นปี 2017 สิ่งที่เกิดขึ้นคือลูกค้ายอมรับในหน้าตาของรถกระบะโคโลราโด ที่สามารถเสริมอุปกรณ์ตบแต่งให้ดูดีมากขึ้น ทั้งในส่วนพาร์ตต่างๆ หรือปรับเปลี่ยนขนาดล้อที่ทำให้ลูกค้าแสดงตัวตนผ่านการตบแต่งรถยนต์เชฟโรเลต โดยการสำรวจร่วมกับดีลเลอร์ของเราพบว่าไม่น้อยกว่าครึ่งของลูกค้าที่ซื้อรถกระบะหรือรถอเนกประสงค์ของเราจะนำไปติดตั้งอุปกรณ์ตบแต่งเพิ่ม”
“ทำให้กลายเป็นกระแสของการซื้อรถเพื่อเอาไปแต่งมีมากขึ้น ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และธันวาคม เป็นต้นมา ลูกค้าให้ความนิยมในการแต่งรถมาตลอด และมากขึ้น ทำให้เรามองเห็นแนวโน้มของธุรกิจการตกแต่งรถยนต์ที่กำลังมาแรง ทำให้เราเลือกจะผลิตอุปกรณ์ตบแต่งของตัวเองหรือ (OEM) คือการมีชุดตกแต่งที่เป็นสำหรับโคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้ยอดขายของเชฟโรเลต ดีวันดีคืน ส่วนหนึ่งมาจากชุดอุปกรณ์ตกแต่ง” ผู้บริหารแบรนด์รถสัญชาติอเมริกัน กล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Chevrolet Sales Thailand
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th