เชฟโรเลต “เทรลเบลเซอร์” นี่ล่ะรถสามัญประจำบ้าน
การมองหารถยนต์ไว้ใช้งานสักคันไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะในตลาดตอนนี้มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย สุดท้ายต้องพิจารณาว่า รูปแบบการใช้ชีวิตเป็นแบบใด ถึงจะเลือกใช้รถยนต์ได้ตรงตามการใช้งาน และหากนึกถึงรถที่ตอบโจทย์ในทุกมิติ เชฟโรเลต “เทรลเบลเซอร์” ถือว่าทำการบ้านมาดี และเหมาะมากกับการเลือกให้เป็นรถที่ต้องใช้งานในทุกวัน
โดยครั้งนี้ เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย ได้จัดกลุ่มทดลองขับบนเส้นทางจากโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่โรงแรมเมอเคียว เกาะช้าง จ.ตราด ซึ่งเส้นทางนี้มีทั้งทางตรงยาวๆ เส้นทางคดเคี้ยว ทางแคบและทางชันบนเกาะช้าง ที่ทำให้รู้ถึงสมรรถนะของรถเอสยูวี ระดับพรีเมียม สไตล์อเมริกัน “เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด” ได้อย่างชัดเจน
จุดเด่นหลักของเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด มีอยู่หลายด้าน เริ่มจากขุมพลังดูราแม็กซ์ 4 สูบ ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร พละกำลัง 180 แรงม้า (132 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบต่อนาที ที่ถูกปรับปรุงใหม่ให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้น ประหยัดน้ำมันกว่าเดิมและลดมลพิษไอเสียผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 ด้วยการใช้ระบบเทอร์โบแปรผันหรือ VGT (Variable Geometry Turbocharger) และด้วยแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร (325 ฟุตปอนด์) ที่รอบต่ำเพียง 2,000 รอบต่อนาที ทำให้เจ้ารถเอสยูวีคันใหญ่นี้ มีพละกำลังที่มากเกินพอที่จะขับขึ้นปีนป่ายไปบนเนินเขาที่ลาดชันได้อย่างสบายและทำให้ผู้ขับไม่เกิดอาการเหนื่อยล้า พูดได้ว่าให้ความสะดวกสบายอย่างเต็มที่
ด้านระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง มีอัตราทดเกียร์ที่เกียร์ 6 แค่ 0.67 เท่านั้น ส่วนอัตราทดเฟืองท้ายอยู่ที่ 3.42 ซึ่งถือว่าต่ำกว่ารุ่นอื่นๆ และมีความพิเศษอยู่ที่การติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงรบกวนบริเวณหัวฉีด เพื่อให้ทำงานได้เงียบขึ้น และยังมาพร้อมยางรองตัวถัง รวมถึงยางรองแท่นเครื่องยนต์แบบใหม่ ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ทำให้มีระดับเสียงและแรงสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสารลดลง ซึ่งทีมวิศวกรของเชฟโรเลตทดสอบแล้วว่าเสียงของห้องโดยสารเงียบลง 2-4 เดซิเบล แต่สำหรับการใช้งานจริงเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว ถือว่าเงียบลงอย่างชัดเจน
ถัดมาเป็นความโดดเด่นด้านการควบคุมที่ยอมรับว่าดีที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดของรถยนต์ในกลุ่มนี้ ด้วยช่วงล่างแบบคอยล์สปริงทั้งสี่ล้อ ช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ พร้อมคอยล์สปริงและช็อกอัพแก๊ส แถมด้วยติดตั้งระบบดิสก์เบรกทั้งสี่ล้อ ระบบกันสะเทือนของเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ถูกปรับปรุงเพื่อให้มีการควบคุมที่สมบูรณ์แบบที่สุด พร้อมช็อกอัพแบบไดเกรสซีฟ ที่ช่วยให้การขับมีเสถียรภาพมากกว่าแต่ก่อน อาการโยนตัวเมื่อขับเข้าโค้งลดลงไปมาก ได้ความหนึบ แน่น กลับมา เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้วจะรู้สึกว่าช่วงล่างให้ความรู้สึกแข็งเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่ช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น
อีกจุดที่ต้องขอชม คือ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) ที่ถูกปรับปรุงให้มีการควบคุมที่ดีขึ้นและช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการบังคับพวงมาลัยสำหรับการขับในเมืองและตอนจอดรถ ระบบบังคับเลี้ยวจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นตามความเร็วในการขับ อย่างเวลาที่ขับไปบนทางที่เป็นทางลาดเอียงหรือทางขรุขระ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าจะจำอาการของรถที่เกิดขึ้น แล้วกล่อง ECU จะสั่งให้น้ำหนักพวงมาลัยมีอาการขืนขึ้นนิดๆ เพื่อไม่ใช้รถเอียง หรือช่วงให้พวงมาลัยนิ่งขึ้นเมื่อขับบนทางขรุขระ ยอมรับว่าระบบพวงมาลัยไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้อัจฉริยะมากจริงๆ
มาที่รูปโฉมและห้องโดยสารกันบ้าง เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ถูกออกแบบให้มีเส้นสายลวดลายตัวถังที่เฉียบคม บึกบึน มาพร้อมกระจังหน้าใหม่ ฝากระโปรงใหม่ ล้ออัลลอยใหม่ และไฟหน้าใหม่ รวมไปถึงไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวัน
ส่วนภายในห้องโดยสารเน้นความสะดวกสบาย กว้างขวาง ประณีต แผงแดชบอร์ดและคอนโซลด้านหน้าปรับดีไซน์ใหม่ดูสวยและน่าใช้มากขึ้น มีการเลือกใช้วัสดุที่มีผิวสัมผัสนุ่มนวล และช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร คอนโซลกลางออกแบบใหม่ใช้งานได้สะดวกขึ้น และมาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีนสีขนาด 8 นิ้ว รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นใหม่ล่าสุด รองรับการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์เพลย์ ทำให้แสดงผลหน้าจอสมาร์ทโฟนขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนของตัวรถได้ และมีฟังก์ชั่นสิริ อายส์ฟรี และซอฟต์แวร์สั่งงานด้วยเสียงอีกด้วย
ในส่วนของเบาะนั่งแถวที่สองและแถวที่สาม เมื่อลองนั่งดูแล้วจะรู้สึกไม่อึดอัด เพราะจัดวางเบาะแบบโรงภาพยนตร์ (theatre-style) มีช่องปรับอากาศแบบแยกส่วน รวมถึงช่องปรับอากาศของผู้โดยสารเบาะแถวที่สาม และยังพับเบาะทั้งสามแถวให้แบนราบเพื่อขยายพื้นที่ให้มีความกว้างขวางมากขึ้นสำหรับการบรรทุกสัมภาระได้อีกด้วย ตอบโจทย์การใช้งานแบบอเนกประสงค์ได้เป็นอย่างดี ใครที่ชอบปั่นจักรยานรับรองว่าถูกใจแน่นอน
นอกจากนี้ ยังปรับปรุงซีลกระจกหน้าต่าง กระจกบังลมหน้า แผงประตู และแนวหลังคาใหม่เพื่อลดเสียงลม กระจกมองข้างถูกปรับปรุงการออกแบบเพื่อขจัดเสียงรบกวน ขณะที่กระจกหน้าต่างซ้ายและขวาเปลี่ยนให้มีความหนาขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีความเงียบภายในห้องโดยสารมากกว่าเดิมอีก 8 เปอร์เซ็นต์
ด้านระบบความปลอดภัยของเทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ถูกจัดเต็มแบบคุ้มๆ ด้วยระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา, ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีทั้งขณะออกตัวและในโค้ง Traction Control System (TCS), ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน Panic Brake Assist (PBA), ระบบกระจายแรงเบรก Electronic Brake Force Distribution (EBD), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Control (ESC), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน Hill Descent Control (HDC) ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน Hill Start Assist (HSA) ระบบรักษาเสถียรภาพขณะลากจูง (Trailer Sway Control) ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Anti-Rolling Protection) พร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตลอดจนถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่
แถมยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่เสริมเข้ามาใหม่ เช่น ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร (Lane Departure Warning), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Alert), ระบบช่วยเหลือการจอดด้านหน้าและหลัง (Front and Rear Parking Assist), ระบบแจ้งเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัย สำหรับผู้โดยสารแถวสอง (Second Row Seat Belt Reminder) และระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System) ที่ติดตั้งมาให้เสร็จสรรพ ขับไปไหนสามารถเช็คได้เลยว่ายางเส้นไหนอ่อน เส้นไหนรั่ว แล้วแสดงสัญญาณขึ้นบนหน้าจอทันที แต่จะมีข้อเสียคือ ไม่สามารถเปลี่ยนล้อยางชุดใหม่ได้ เพราะติดตั้งมากับชุดล้อและยางมาตรฐานจากโรงงานมาเท่านั้น ไม่สามารถถอดระบบนี้ออกมาใส่ในล้อรุ่นอื่นได้ แถมยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณน้ำฝน, ไฟหน้าเปิด/ปิดอัตโนมัติ, กระจกหน้าต่างคู่หน้าเลื่อนลงเล็กน้อยเพื่อช่วยในการปิดประตูให้ง่ายขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้เทรลเบลเซอร์รุ่นใหม่ เหนือกว่ารถ SUV อื่นๆ ในตลาดนั่นคือ การที่มีฟังก์ชั่นรีโมทสตาร์ท ที่ถือว่ามีประโยชน์มากกับการใช้งานในบ้านเราที่มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ผู้ขับสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้จากกุญแจภายในรัศมีทำการ 100 เมตร และเครื่องปรับอากาศจะทำงานทันที เหมาะมากหากจอดรถตากแดดเอาไว้นานๆ
โดยสรุปถือว่า เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด ถูกปรับปรุงให้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า ที่ช่วยให้การขับรถไซส์ใหญ่ที่หนักถึง 2.14 ตัน กลายเป็นเรื่องง่าย ผู้หญิงสามารถขับได้สบายๆ เร่งแซงพลิ้วได้พอๆ กับรถซีดาน อัตราเร่งทันใจ มีระบบเตือนการชนด้านหน้าด้วยไฟกระพริบที่คอนโซล ระบบเตือนถอยหลังที่เซนเซอร์ทำงานได้ถึง 25 เมตร ช่วยให้การใช้รถในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องง่าย ซึ่งถือว่าเป็นรถเอสยูวีที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร และเหมาะมากหากจะเลือกให้เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด เป็นรถที่ควรมีประจำบ้านเอาไว้อีกหนึ่งคันจริงๆ
ทั้งนี้ เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด มี 3 รุ่นย่อย ดังนี้
The All-New Trailblazer 2.5L VGT 4X2 AT LT 1,244,000 บาท
The All-New Trailblazer 2.5L VGT 4X2 AT LTZ 1,379,000 บาท
The All-New Trailblazer 2.5L VGT 4X4 AT LTZ 1,479,000 บาท
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th