5 สิ่งที่จะทำให้หลงรัก “เซียนต้า” ตั้งแต่ยังไม่ได้ลองขับ
เปิดตัวอย่างเป็นทางการกันไปแล้วกับรถ MPV 7 ที่นั่ง จากโตโยต้าที่มีชื่อแปลกหูว่า “เซียนต้า” (SIENTA) รถรุ่นนี้ถือว่ามีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบตัวรถทั้งภายนอกและภายใน รวมทั้งเรื่องของความอเนกประสงค์ในการใช้งานที่ต้องยอมรับว่า “ทำออกมาได้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างลงตัว” และจากที่สำรวจรอบตัวรถในงานเปิดตัวพบว่ามันมีสิ่งที่น่าสนใจที่จะทำให้หลงรักได้ตั้งแต่ยังไม่ได้ทดลองขับ จะเป็นเรื่องใดบ้างผู้เขียนได้รวมเอาไว้ต่อจากนี้แล้ว
1.รูปโฉมที่สะดุดตา เป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร
เจ้าเซียนต้าถูกออกแบบด้วยแนวคิดที่แปลกและไม่เหมือนใคร โดยได้แรงบันดาลใจจาก “รองเท้าเดินป่าสมัยใหม่” หรือ “Urban Trekking Shoes” ซึ่งนำเส้นสายและรูปทรงของรองท้ามาปลุกปั้นให้กลายเป็นรถยนต์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ และยังเป็นการออกแบบที่สะท้อนให้เห็นถึงคนรุ่นใหม่ที่รักการเดินทางท่องเที่ยว การผจญภัย มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้อย่างลงตัว เชื่อว่าเมื่อรถรุ่นนี้มีการส่งมอบและเริ่มออกวิ่งบนถนนแล้วจะกลายเป็นจุดเด่นให้ต้องมองตามอย่างแน่นอน
2.ห้องโดยสารกว้างขวาง ขึ้นลงสะดวกด้วยประตูสไลด์อัตโนมัติ
การออกแบบภายในห้องโดยสารของเซียนต้า มุ่งเน้นถึงความสะดวกสบายในการใช้งาน ห้องโดยสารจึงมีพื้นที่กว้างขวาง มีการออกแบบให้มีเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และสามารถปรับการใช้งานในเรื่องของการพับเบาะในแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งหากพับเบาะทั้งสองแถวด้านหลังลงทั้งหมดแล้ว จะเพิ่มพื้นที่ในการเก็บสัมภาระได้ขนาดที่จับจักรยานเสือภูเขานอนราบได้ถึง 2 คัน หรือกระเป๋าเดินทางไซส์ใหญ่ที่สุดแบบวางราบได้มากถึง 6 ใบ แต่ที่ให้ความสะดวกสบายมากกว่านั้นคือ ประตูสไลด์อัตโนมัติที่เพิ่มความสะดวกในการขึ้นลง ใช้เวลาในการเปิดประตูสไลด์ในเวลาเพียง 5 วินาทีเท่านั้น รวมถึงมีการออกแบบให้สามารถขึ้นลงได้ง่าย เหมาะกับผู้สูงอายุในการขึ้นลงรถเป็นอย่างมาก..เกือบลืม ยังมีระบบเปิดประตูอัจฉริยะแบบ Smart Entry ที่สั่งเปิดปิดประตูจากกุญแจรีโมทและมีช่องแอร์ฝั่งผู้โดยสารตอนหลังอีกด้วย
3.เบาะนั่งแถว 3 ที่สามารถใช้งานได้แม้ชายร่างใหญ่
ปัญหาที่พบอย่างหนึ่งของรถ 7 ที่นั่งคือ เบาะนั่งแถวที่ 3 ที่ส่วนใหญ่จะเหมาะกับเด็กๆ หรือคนตัวเล็กๆ แต่สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 3 ของเซียนต้า ถือว่าออกแบบมาให้ใช้งานได้จริงแม้ผู้โดยสารจะมีรูปร่างสูงใหญ่อย่างผู้เขียนที่สูง 180 ซ.ม. น้ำหนักตัว 95 ก.ก. พูดได้ว่าไซส์ฝรั่งแบบยุโรป แต่พอได้ลองนั่งและมีการปรับเบาะแล้ว ถือว่านั่งได้พอดี อาจจะไม่ได้สบายมาก ถ้านั่งจากกรุงเทพไปพัทยายังพอไหว หากเปลี่ยนเป็นระยองน่าจะเกิดอาการเมื่อยพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นผู้เขียนยังขอพูดว่าเป็นเบาะนั่งแถว 3 ที่ใช้งานได้ค่อนข้างสบาย
4.เครื่องยนต์ยอดนิยมจากวีออส สมรรถนะที่มีพร้อมความประหยัด
เมื่อเปิดฝากระโปรงดูขุมพลัง พบว่าเป็นรุ่นยอดนิยมที่ติดตั้งอยู่ใน “นิว วีออส” นั่นคือ เครื่องยนต์ 2NR-FE ขนาด 1,500 ซีซี แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-i แรงม้าแรงบิดเท่ากันเป๊ะ 108 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบ Sport Sequential Shift 7 สปีด และรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามีอัตราสิ้นเปลืองในช่วง 15-17 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าเป็นอัตราสิ้นเปลืองที่ประหยัดมาก และด้วยความคุ้นเคยกับเครื่องยนต์รุ่นนี้ จึงมั่นใจว่าจะให้การขับขี่ที่สนุกและปลอดภัย แม้ว่าจะยังไม่ได้ทดลองขับก็ตาม
5.ราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งและสดใหม่กว่า
หากมองถึงรูปแบบตัวถังของรถในกลุ่มนี้ที่มีประตูข้างเปิด-ปิดแบบสไลด์อัตโนมัติ เท่าที่เห็นจะมีคู่แข่งเพียง 1 รุ่นเท่านั้น และเป็นรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นยอดนิยม หากมองถึงความสดใหม่แล้ว เซียนต้า ถือว่ามีหน้าตาที่โดดเด่นกว่า แต่มีการปรับและพับเบาะที่แตกต่างกัน ซึ่งเซียนต้าดูจะมีพื้นที่ในการบรรจุสัมภาระได้มากกว่า และที่สำคัญที่สุดคือราคาจำหน่าย เพราะเซียนต้ามีจำหน่าย 2 รุ่น คือ รุ่นท๊อป 1.5 V ราคา 865,000 บาท และรุ่นมาตรฐาน 1.5G ราคา 750,000 บาท แต่คู่แข่งเปิดตัวมาได้สักพักใหญ่ๆ มีราคาในช่วง 8.3 -9.5 แสนบาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ความชอบของผู้ซื้อว่าชื่อชอบในสไตล์ไหนมากกว่ากัน
ระบบเปิดประตูอัจฉริยะแบบ Smart Entry
จอแอลอีดีและช่องแอร์แถวที่2
เบาะนั่งแถว 2 พับแบบตลบได้ 2 จังหวะ
การพับเบาะที่หลากหลายช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
เบาะนั่งแถวที่ 3 ยังมีพื้นที่ด้านหลังสำหรับวางสัมภาระได้อีก
สวิตซ์เปิดปิดประตูสไตล์ในรุ่น V สั่งได้ทั้ง 2 บาน ส่วนในรุ่น G จะสั่งได้บานซ้าย ส่วนบานขวาเปิดแบบ manual
มาตรวัดแบบ MID ในรุ่นV
เพิ่มความปลอดภัยด้วยกล้องมองหลัง
แถมท้ายเอาไว้อีกนิดสำหรับอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาให้ของทั้ง 2 รุ่น มีดังนี้
รุ่นท๊อป 1.5V ราคารถมาตรฐาน 825,000 บาท
ราคาชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 40,000 บาท **
อุปกรณ์มาตรฐาน
- ไฟหน้า แบบโปรเจคเตอร์ Bi-Beam LED
- ไฟท้าย แบบ Light Guiding
- ที่เก็บของบริเวณคอนโซลหน้า พร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box)
- ช่องเก็บเอกสารหลังเบาะที่นั่งผู้โดยสารแถวหน้า
- ถาดเก็บของใต้ที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า
- ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start)
- ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry)
- มาตรวัดระยะทาง แบบ Optitron
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (Multi-Information Display) แบบ TFT 4.2 นิ้ว
- ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย พร้อมควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่
- อุปกรณ์ความบันเทิงด้านหน้า เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัสแบบ 7 นิ้ว
- ระบบปรับอากาศ ตอนหน้า แบบอัตโนมัติ
** ชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ
- ปลอกหุ้มท่อไอเสีย
- วัสดุเบาะนั่ง หนัง และวัสดุกึ่งสังเคราะห์
- อุปกรณ์ความบันเทิงด้านหลัง จอ LED ขนาด 8 นิ้ว
- กล้องมองหลัง (Back Camera)
รุ่นมาตรฐาน 1.5G ราคารถมาตรฐาน 750,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน
- ไฟหน้า แบบโปรเจคเตอร์ ฮาโลเจน
- ไฟท้าย แบบ LED
- วัสดุเบาะนั่ง ผ้า สีดำ
- ที่เก็บของบริเวณคอนโซลหน้า พร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box)
- ที่แขวนอเนกประสงค์
- พรมปูพื้น
- มาตรวัดการขับขี่แบบประหยัด (Eco-Driving Indicator)
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (Multi-Information Display)
- อุปกรณ์ความบันเทิงด้านหน้า เครื่องเล่น CD 1 แผ่น
- สัญญาณกะระยะถอยหลัง
และทั้งหมดนี้คือ 5 สิ่งที่จะทำให้หลงรักเจ้าเซียนต้าตั้งแต่ยังไม่ได้ทดลองขับ แต่หากไม่เชื่อ…ลองไปสัมผัสกับตัวจริงของ “ออล นิว เซียนต้า : All New SIENTA” ได้ที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ และสามารถพบกับเซียนต้าได้ภายในงาน Big Motor Sales 2016 ได้ตั้งแต่วันที่ 20-28 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th