เตรียมเงินรอได้ Porsche ยืนยันการผลิต 911 Speedster
จากที่ Porsche ได้ทำ 911 Speedster Concept ออกมาโชว์ในช่วงกลางปีเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 70 ปีของตนโดยได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก 356 Roadster รถรุ่นแรกของ Porsche ได้รับอนุญาติให้ผลิตได้ในปี 1948 จนทำให้บรรดาแฟนๆ Porsche หลายคนที่เห็นแล้วรู้สึกมือไม้สั่นอยากเป็นเจ้าของ ตอนนี้โอกาสมาแล้ว เพราะ Porsche 911 Speedster จะไม่เป็นเพียงแค่รถคอนเซ็ปต์อีกต่อไปแต่จะมีการผลิตสำหรับจำหน่ายจริง เพียงแต่อาจต้องรีบหน่อยเพราะมีจำนวนจำกัด
พร้อมกับที่ Porsche ได้นำเอา 911 Speedster Concept ไปแสดงที่ปารีสมอเตอร์โชว์ ซึ่งคราวนี้ถูกเพิ่มความร้อนแรงขึ้นโดยเปลี่ยนสีรถจากแบบทูโทนเทา-ขาวที่คลาสสิคเป็นสีแดง Guards Red ที่อ้างอิงจาก 911 Speedster G-Model ในปี 1988 รวมทั้งเปลี่ยนล้อเป็นลาย Cross-spoke ขนาด 21 นิ้วซึ่งเป็นลายที่ใช้ในรถแข่ง 911 RSR และ GT3 แทนล้ออัลลอยลาย Fuchs คลาสสิก และเปลี่ยนภายในของรถใหม่จากหนังสีน้ำตาลในคันที่แสดงช่วงกลางปีเป็นหนังสีดำแทรกด้วยการใช้สีแดงแต่งในส่วนต่างๆ เพื่อเสริมความสปอร์ตสำหรับยั่วกิเลสแฟนๆ แล้ว ทางผู้ผลิตรถสปอร์ตจากเยอรมนีก็ได้ประกาศออกมาว่าจะมีการผลิต 911 Speedster ออกมาจำหน่าย และไม่ต้องรอนานเพราะจะเริ่มมีการผลิตในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 เพียงแต่ปัญหาของผู้ที่อยากเป็นเจ้าของสปอร์ตเปิดประทุนคันนี้คือมีการผลิตจำกัด ซึ่งจากความพิเศษของรถเชื่อว่าหลายๆ คนอาจเดาจำนวนผลิตว่าคือ 70 คันตามจำนวนปีของ Porsche จนทำให้เกิดรถ 9111 Speedster Concept ขึ้นมา แต่ทาง Porsche ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น เพราะตัวเลขการผลิตคือ 1948 คันจากเลขปีที่ Porsche 356 Speedster ได้รับอนุญาติให้ผลิตเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่น้อยและไม่โหดร้ายสำหรับคนที่อยากครอบครองเกินไปหากเทียบกับการที่ Porsche จะเอาจำนวนปีที่ครบรอบมาเป็นตัวเลขในการผลิต
สำหรับ 911 Speedster ในอนาคตซึ่งจะถูกผลิตโดยใช้พื้นฐานของ 991 นอกจากจะมีจุดเด่นบนตัวรถที่แตกต่างจาก Porsche รุ่นอื่นจากกระจกมองข้างทรง Talbot, ช่องสำหรับเติมน้ำมันอยู่กลางฝากระโปรงโดยมีฝาปิดเป็นโครเมียมสีเข้มและแพลตินัมรวมทั้ง Double Bubble ด้านหลังเบาะเหมือนรถสปอร์ตในอดีต และมาพร้อม Tonneau น้ำหนักเบาสำหรับคลุมรถแทนหลังคาอ่อนตามแบบรถเปิดประทุนทั่วไปแล้ว ถ้าหากยึดตามรถคอนเซ็ปต์ที่ถูกทำออกมาบนพื้นฐานของตัวรถ 911 Carrera 4 Cabriolet ก็จะมีฝากระโปรงหน้าหลังเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ระบบระบายไปเสียจากฝ่ายพัฒนา GT พร้อมปลายท่อไอเสียไทเทเนียม และใช้เกียร์แมนนวล 6 สปีดเพื่อถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ 6 สูบหายในเองซึ่งมีกำลังกว่า 500 แรงม้าที่ 9,000 รอบ/นาที
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th