เติมน้ำมันผสมสลับไปมา “เพื่อ” ???
การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น ก็จะอ้างอิงตามสเป็กจากผู้ผลิตรถยนต์เป็นหลัก อย่างเครื่องเบนซิน มีอะไรบ้างละ แก๊สโซฮอล์ E10 ออกเทน 91 – 95, E20, E85 จะมีกระแสผู้ใช้รถหลายท่าน ที่นิยม “เติมน้ำมันสลับไปมา” ไม่ได้หมายถึงสลับ “เบนซิน” และ “ดีเซล” นะครับ แบบนั้น “พังแหงมๆ” อันนี้จะยกตัวอย่างว่า รถคันนั้นแนะนำให้ใช้ E20 แต่บางท่านก็จะนิยมเติมผสมสลับกันไปมา เช่น เดี๋ยวเติม E10 เดี๋ยวเติม เบนซิน 95 วนกันไปในลักษณะนี้ ก็มีหลายคนสงสัยถามมาว่า “มันเกิดผลดีหรือผลเสียด้านใดบ้าง” เป็นประเด็นที่น่าสนใจที่อยากจะหยิบยกมาแถลงกันครับ…
ที่มาของค่านิยมเติมน้ำมันสลับกันไปมา
คืองี้ครับ ก็อาจจะเป็นไปได้เหมือนกันว่า อย่างเคสรถคันนั้นให้เติม E20 ได้ แต่ผู้ใช้รถบางท่านก็อาจจะคิดว่า “เอธานอล มันกัดระบบน้ำมัน” ก็เลยเติมสลับน้ำมันอื่นบ้าง หรือ เบนซินเพียว เพื่อลดการกัดกร่อน อันนี้เป็นไปในทางความคิด ประมาณว่า “ล้างระบบ” ในยุคที่ แก๊สโซฮอล์ มาใหม่ๆ จะเจอเยอะหน่อย เติมเบนซิน 300 เติมแก๊สโซฮอล์ 200 เรียกว่า “ชงมิกซ์” กันเลยเชียว หรือบางคนก็ “เติมอะไรก็ได้ตามตังค์ในกระเป๋า” ช่วงไหน “บางกรอบ” ก็เติมน้ำมันถูกสุด อย่างรถประมาณว่า ตู๊ๆ ไปก่อน มีตังค์แล้วค่อยเติมตามสเป็กรถ มีจริงๆ นะครับทำเป็นเล่นไป หรือบางท่านก็อาจจะ “อยากทดลอง” ว่าเติมแบบไหนที่ถูกกับความรู้สึกของตนเอง ก็จะปล่อยน้ำมันให้เกือบหมดถัง แล้วเติมน้ำมันชนิดใหม่เข้าไป ลองไปเรื่อยๆ จนตัดสินใจเลือกของที่ชอบได้ แบบนี้ก็มีเหมือนกัน…
ไม่ผิด ไม่เลวร้าย แต่ไม่แนะนำ
ปกติแล้ว เราควรจะยึดถือ “สเป็กจากโรงงานผู้ผลิต” เป็นหลัก เพราะเขาเป็นผู้สร้างเครื่องยนต์ จะต้องรู้ว่าน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดใดเหมาะสม และกำหนดมาให้แล้ว ก็เติมชนิดนั้นไปตลอด การเติมผสมสลับกันไปมา จะทำให้ “คุณสมบัติของน้ำมันเปลี่ยนไปจากเดิม” อาจจะมีผลน้อยจนไม่รู้สึก หรือ รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในรถบางรุ่น ที่ O2 หรือ Oxygen Sensor เร็วหรือช้า ตามลำดับ ถ้าเป็นรถยุคใหม่ทั่วไปจริงๆ แล้วไม่ค่อยมี Effect ครับ เพราะ O2 Sensor สั่งกล่องให้เปลี่ยนส่วนผสมได้รวดเร็ว…
จริงๆ แล้ว การเติมน้ำมันผสมมันก็ไม่ได้มีผลร้ายอะไร เพียงแต่ “ยังไม่เห็นประโยชน์ในการเติมผสม” แนะนำว่า โรงงานกำหนดไว้อย่างไรก็เติมอย่างนั้นไปเลย หรือ ถ้าคิดว่าทดลองเปลี่ยนเติมหลายๆ แบบ แล้วเลือกแบบที่ชอบได้ ก็เติมไปตลอด ป้องกันการสับสนด้วย แต่ก็จะมีบางกรณี “จำเป็น” เช่น ไม่มีน้ำมันชนิดที่เราจะเติม สมมติรถใช้ E10 แต่ “ของขาด” น้ำมันเหลือน้อย มีแต่ E20 หรือ อะไรก็ได้ที่เป็น “เบนซิน” อันนี้ก็ต้องเติมใช้ไปก่อนมันเลี่ยงไม่ได้ ดีกว่าจอดเดี้ยงข้างทาง อีกเรื่อง รถยุคปัจจุบัน จะใช้ระบบเชื้อเพลิงเป็น “พลาสติก” แทน “โลหะ” ตั้งแต่ถังน้ำมัน ท่อน้ำมัน ไปยันหัวฉีด จึงไม่เจอปัญหาเรื่องการกัดกร่อน สามารถเติมน้ำมันที่มีส่วนผสมของ เอธานอล ได้สบาย…
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th