เทคนิค! สอบใบขับขี่มอไซค์ครั้งเดียวผ่าน
ปัจจุบันนี้คงไม่ใช่เรื่องยากแล้วล่ะครับ สำหรับการสอบใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ เพียงแต่เราจะต้องศึกษาข้อมูล และเตรียมความพร้อมมาให้ดีซะก่อน ไม่ว่าจะเป็นทั้งภาคทฤษฎี หรือภาคปฏิบัติ ก็สามารถสอบผ่านได้ง่ายเช่นกัน
หากใครที่กำลังจะสอบใบขับขี่ กังวลว่าจะไม่ผ่านนั้น ไม่ต้องห่วงนะครับ เราได้นำเคล็ดลับขั้นตอนง่ายๆ พร้อมแนวข้อสอบใบขับขี่มาฝากทุกคนกันด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือใหม่หัดขับนั้น จะต้องทำอย่างไรกันบ้าง อ่านบทความนี้ได้เลยครับ !!
1. รู้จักเอกสารสอบใบขับขี่ ต้องใช้อะไรบ้าง ?
ก่อนจะเริ่มสอบใบขับขี่รถมอไซค์ เราจะต้องเตรียมเอกสารให้ดีซะก่อน เพราะหลายคนมักจะลืมกันบ้าง เอามาเกินกันบ้าง จนทำให้ต้องเสียเวลาต่อคิวเพื่อส่งเอกสารใหม่ ถึงตอนนั้นคงจะวุ่นวายกันน่าดู และเพื่อความสะดวก รวดเร็ว ให้เรียบง่ายขึ้นนั้น เรามาเช็คกันดีกว่าจะต้องใช้อะไรบ้าง? มาดูกันครับ
- บัตรประชาชน
ถือว่าเป็นหลักฐานข้อมูลบุคคลทั่วไป เพื่อจะขอทำใบขับขี่อยู่แล้ว เราจะต้องนำบัตรประชาชนไปใช้สำหรับในวันสอบจริง หากลืมหยิบไปเราก็จะไม่สามารถทำข้อสอบได้ โดยทางเจ้าหน้าที่จะขอตรวจบัตรประชาชน หรือนำบัตรประชาชนของเราเข้าสู่ระบบทุกครั้ง ขอย้ำว่าห้ามลืมเชียวนะ !!
- ใบรับรองแพทย์
สำหรับเรื่องขอใบรับรองแพทย์ กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่พบบ่อยมาก เพราะหลายคนไม่รู้ว่าต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่แพทย์เซ็นรับรองจนถึงวันสมัคร ก่อนอื่นเราจะต้องเช็คเวลาให้ดี ว่าจะเริ่มสอบในช่วงเดือนไหน วันไหน หลังจากนั้นก็แจ้งกับทางคลินิคหรือโรงพยาบาลเลย แล้วบอกว่ามาขอใบรับรองแพทย์เพื่อสอบใบขับขี่ เราก็จะได้ข้อมูลครบถ้วน และชัดเจนมากขึ้น
- ใบรับรองการอบรม
จะเป็นกรณีอบรมของเอกชนที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเขาจะให้ใบรับรองมาหลังจากอบรมผ่าน ก็สามารถนำใบรับรองนั้นมายื่นสอบวันจริงที่กรมขนส่งทางบก หรือต้องการเรียนขับรถ แล้วอบรมภายในที่เดียว ก็สามารถมาสอบทั้งทฤษฎีและปฏิบัติกับทาง
“โรงเรียนสอนขับรถ” ได้เช่นกัน อันนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาจองคิวนาน แต่ข้อเสียก็คือ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงกว่าครับ
2. รู้จักขั้นตอนการสอบใบขับขี่
เพราะการเตรียมตัวไว้ก่อนย่อมดีกว่าเสมอ เมื่อหลังจากเราเตรียมเอกสารพร้อมแล้ว ต่อไปเราก็ต้องมาศึกษาขั้นตอนการสอบใบขับขี่รถยนต์ และใบขับขี่รถมอไซค์ เพราะถึงเวลาสอบจริงจะได้ไม่ลำบาก แถมประหยัดเวลาเยอะเลย ขั้นตอนการสอบใบขับขี่ และเทคนิคที่จะช่วยให้การทำใบขับขี่ของคุณเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น
เริ่มจากการจองคิวอบรม
อันดับแรกเราจะต้องจองคิวสำหรับอบรมจราจรก่อน หากต้องการติดต่อกับกรมการขนส่งทางบก จะต้องใช้เวลาหน่อย ควรจองล่วงหน้าไว้ประมาณ 2-4 เดือน เพื่อสำหรับรอคิว หรือใครที่ไม่สะดวกเดินทาง ก็สามารถจอง อบรมใบขับขี่ทางออนไลน์ได้เช่นกันนะครับ สำนักงานขนส่งกรุงเทพก็มีให้เลือกทั้งหมด 5 พื้นที่ด้วยกัน ได้แก่
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 (ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล) ติดต่อ 0-2415-7337 ต่อ 204-205
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 (ถนนสวนผัก ตลิ่งชัน) ติดต่อ 0-2433-4773
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 (ถนนสุขุมวิท ตรงข้ามซอยสุขุมวิท) ติดต่อ 0-2333-0035
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 (ถนนสุวินทวงศ์ หนองจอก) ติดต่อ 0-2543-5512
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (ฝั่งตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร) ติดต่อ 0-2271-8888 ต่อ 4201-4 หรือสอบถาม 1584
ทดสอบร่างกาย
มาถึงวันอบรมเราก็จะต้องเดินทางมาให้ตรงตามเวลานัด หรือมาก่อนเวลาได้ก็ยิ่งดีนะครับ สำหรับขั้นตอนนี้ก็จะเป็นการทดสอบความพร้อมของร่างกาย เช่น ทดสอบสายตาทางกว้าง ทดสอบสายตาทางลึก ซึ่งต้องกดปุ่มขยับหน้าหลังเพื่อให้เสาตรงกันที่จะต้องใช้สมรรถนะของร่างกาย ทดสอบการตอบสนองของเท้า ว่ากดเบรคทันเวลาหรือไม่ และทดสอบตาบอดสีด้วยการบอกสีที่เห็น (สีเขียว/เหลือง/แดง) เห็นสีไหนก็บอกตามนั้น ขอแนะนำว่าก่อนวันสอบจริงควรนอนหลับให้เพียงพอ ร่างกายจะได้รู้สึกสดชื่น และพร้อมกับการทดสอบล่ะ
กรณีที่หากเรามีใบรับรองอบรมมาแล้ว ก็สามารถเข้าสู่การสอบภาคปฎิบัติได้เลย แต่ถ้าไม่มีก็จะต้องอบรมก่อน โดยใช้เวลาอบรมประมาณ 5 ชั่วโมง (กฎข้อบังคับ) จะเป็นการฝึกให้ผู้อบรมได้รับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับกฏหมายจราจร สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง และสร้างจิตใต้สำนึกบนท้องถนนร่วมกัน ซึ่งแนวข้อสอบใบขับขี่จะอยู่ในการอบรมด้วยนะ ถ้าใครจำได้ตอนสอบข้อเขียนก็ไม่ต้องกังวลเลยครับ
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกยังมอบหนังสือรวมป้ายจราจร และกฎหมายจราจรเบื้องต้นให้อ่านอีกด้วย ก็สามารถมานั่งทบทวนก่อนสอบได้
- เตรียมสอบข้อเขียน
อันนี้ขอเตือนเลยว่า ถ้าไม่อ่านมาก่อนสอบจะไม่ผ่านได้นะครับ เนื่องจากปัจจุบันนี้ข้อสอบใบขับขี่เริ่มปรับเปลี่ยนให้ยากขึ้นกว่าเดิม เราควรจะศึกษาและทบทวนกันอย่างรอบคอบเลย โดยข้อสอบจะเน้นเกี่ยวกับป้ายจราจรและกฎหมายจราจรทั่วไป เป็นจำนวนทั้งหมด 50 ข้อ แบบปรนัย มีตัวเลือกให้ (ก-ง) และต้องได้ 45 คะแนนขึ้นไป ถึงจะผ่านเกณฑ์การสอบข้อเขียน
- สอบภาคปฏิบัติขับรถมอไซค์
กลายเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมากที่สุด เพราะการสอบภาคปฏิบัตินั้น เราจะต้องฝึกท่าสอบให้ได้ก่อน บางคนก็กลัวว่าจะทำไม่ได้ หรือกดดันตัวเองมากเกินไป เอาเป็นว่า ลองตั้งสติ อย่าเร่งรีบ ทำใจสบายนะครับ
เป็นไงบ้างครับ !! พอเข้าใจการทำใบขับขี่กันแล้วใช่ไหม? เอาเป็นว่า ถ้าเข้าใจเทคนิคเบื้องต้นแล้ว เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังจะสอบใบขับขี่นะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก Frank.co.th
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์รถจักรยานยนต์รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th