เทียบ 4 รถSUV 4 รุ่น 4 ค่าย คันไหนเจ๋ง..คันไหนเด็ด
[vc_row][vc_column][vc_column_text]ต้องยอมรับว่ากระแสรถยนต์ประเภท SUV กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในตลาดบ้านเรา เพราะด้วยความที่ตัวรถมีความอเนกประสงค์ใช้งานได้ทั้งในเมือง และนอกเมือง แถมSUV ในยุคปัจจุบันราคาสมเหตุสมผล จับต้องได้นั่งสบายลุยได้ทุกสภาพถนน ยกเว้นเส้นทางออฟโรดหนักๆ ได้แค่เบาๆ นะครับ วันนี้ทาง Grandprix online เลยจัดให้ซะหน่อยเอาเจ้ารถ SUV 4 รุ่น 4 ยี่ห้อมาทดสอบกันว่าคันไหนเป็นอย่างไร รุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดนไปดูกัน
ครั้งนี้รถที่เรานำมาจะเป็นรถยนต์ SUV ของทั้ง 4 ค่ายดังก็จะมี CHEVROLET CAPTIVA ซึ่งเป็นตัวไมเนอร์เชนจ์แล้ว หน้าตาหล่อเหลาเอาเรื่อง ต่อมาเป็นพี่ใหญ่ที่ออกมาขายก่อนเพื่อนอย่าง HONDA CR-V ที่ถึงแม้จะออกมาก่อนแต่รูปทรงหน้าตายังโดนอยู่เลย ถัดมาเป็น MAZDA CX-5 ซึ่งคันที่เรานำมาทดสอบเป็นรุ่นก่อนที่จะมีการไมเนอร์เชนจ์ และสุดท้ายน้องใหม่อย่าง NISSAN X-TRAIL HYBRID เจ้าคันนี้เป็นเครื่องยนต์ไฮบริดซะด้วย
การออกแบบรถในกลุ่มนี้ จะมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ “รถตรวจการณ์” ก็มีคนใช้เรียกพวกมัน ด้วยต้นกำเนิดของความเป็น SUV รถที่ถูกพัฒนาให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้นกว่ารถยนต์นั่ง SEDAN ทั่วไป ตัวถังของรถจึงจะมีลักษณะแบบโครงสร้างใหญ่ทะลุถึงกัน มีระยะห่างจากพื้นที่มากพอสำหรับรองรับการใช้งานในหลากหลายเส้นทาง โครงสร้างที่ใหญ่นี้ส่งผลต่อการออกแบบที่ต้องทำให้มัน ดูทันสมัยและใช้งานได้จริง ความโฉบเฉี่ยวของเส้นสายบนตัวรถ ทุกคันเน้นความเฉียบคม เป็นตัวของตัวเองโดยเฉพาะที่ด้านหน้า CX-5 กระจังหน้าใหญ่วัสดุสีดำรูปทรงสปอร์ต CR-V เสริมเข้ามาด้วยขอบคาดกลางโครเมียม ที่รับกับคิ้วคาดโครเมียมด้านล่าง มันจะดูโอบล้อมทั้งหมดไปจนถึงด้านบนเมื่อยามที่ DAY TIME RUNNIG LIGHT ติดขึ้น วัสดุตกแต่งชนิดเดียวกันนี้ยังพบเห็นที่บริเวณชุดไฟตัดหมอกด้วย
ผ่านการปรับโฉมมาไม่นานทำให้ความทันสมัยของ CR-V แสดงผลงานได้ชัด เช่นเดียวกับ CAPTIVA ที่ในช่วงหลังมันจะดูอ่อนแรงไปจากกระแส ทำให้ทางค่ายระดมใส่ส่วนประกอบตกแต่งทุกสิ่งอย่างที่รถยนต์ในยุคสมัยนี้ควรจะมีมาให้ DAY TIME RUNNIG LIGHT แบบ LED กระจังหน้าขนาดใหญ่ล้อมกรอบด้วยวัสดุแบบโครเมียม แต่ไม่ใส่มามากเกินไป ใช้วิธีการเลือกวัสดุสีเมทัลลิกคาดขวางเป็นริ้วชั้นในกระจังหน้าทดแทน รับกับชุดกันกระแทกด้านล่างกันชนหน้าและไฟตัดหมอก
X-TRAIL HYBRID ลดความบึกบึนในการออกแบบลงมาตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นตัวเครื่องยนต์ธรรมดา แล้วมาใส่แถบคาดสีฟ้าเข้าไปในบริเวณกระจังหน้า บานประตูท้าย กับสัญลักษณ์ที่บานประตูหน้า จุดที่เป็นพื้นที่ภายในกระจังหน้าและช่องของกันชนหน้าและโดยรอบของไฟตัดหมอกนั้นเป็นสีดำ ชัดเจนบริเวณตรงกลางหน้ารถด้วยแถบวัสดุโครเมียมขนาดใหญ่รูปทรงเรขาคณิตรวมโคมในชุดไฟหน้าที่มี DAY TIME RUNNIG LIGHT แบบ LED
[/vc_column_text][vc_gallery type=”image_grid” images=”8382,8383,8384,8385,8386″][vc_wp_text]
CX-5 มีลวดลายเส้นสายบนตัวรถไม่มากแต่เฉียบ คม เหมือนรอยแผลคมมีดจากดาบซามูไรญี่ปุ่น โดยเฉพาะที่เส้นสันแนวฝากระโปรง CAPTIVA ที่มาในลักษณะที่คล้ายคลึงกันในจุดนี้แต่จะไม่ทิ้งความบึกบึนด้วยความต่างระดับของพื้นที่บริเวณเส้นฝากระโปรงที่กว้างกว่า CR-V ฟรุ้งฟริ้งที่ด้านหน้าแต่ในบริเวณฝากระโปรงจะเน้นความเรียบง่ายเพื่อมุมมองที่สบายตาในแนวลาดด้านหน้านั่นเอง
ส่วน X-TRAIL HYBRID ยังไม่เน้นเรื่องการดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสาย แต่ไปใช้ ความได้เปรียบของความปราดเปรียวด้วยความพอดีของแต่ละส่วนในตัวรถแทน โดยทุกคันมีชุดราวแร็คหลังคาติดตั้งมาให้ นั่นคือใช่ในภาพลักษณ์ของรถยนต์อเนกประสงค์ที่ไม่ใครอยากสลัดทิ้ง
[/vc_wp_text][vc_gallery type=”image_grid” images=”8387,8388,8389,8390,8391″][vc_wp_text]
ถ้าถามผมให้ผมตัดสินนะ CAPTIVA นี่มาวินเลยจร้า หน้าตาใหม่หล่อเหลาเอาเรื่องทีเดียว ด้วยกระจังหน้าแบบดูอัลพอร์ทใหม่ที่ปรับให้ช่องด้านบนมีขนาดเล็กลงพร้อมติดตราโบว์ไทไว้ตรงกลาง ส่วนช่องดักอากาศด้านล่างเปลี่ยนมาเป็นแบบหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ขึ้นรวมถึงรายละเอียดของกันชนหน้าและกรอบไฟตัดหมอกออกแบบใหม่ให้ดูมีมิติมากขึ้น ไฟหน้าทรงใหม่ติดตั้งไฟสำหรับวิ่งในเวลากลางวัน (DRL) มาให้ มาพร้อมล้อขนาด 19 นิ้วลายเดิมแต่เปลี่ยนมาใช้สีทูโทนดูเท่ไม่น้อย ลองลงมาเป็นเจ้า[/vc_wp_text][vc_gallery type=”image_grid” images=”8392,8393,8394,8395,8396,8397″][vc_wp_text]
– X-TRAIL HYBRID คันนี้รูปลักษณ์รูปทรงจะออกแนวหรูหราไฮโซ รูปลักษณ์ภายนอกของ X-Trail Hybrid ใหม่ ยังคงมีหน้าตาเหมือนกับเวอร์ชั่นเบนซินแทบทุกประการ กระจังหน้าที่เป็นรูป V Shape ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับนิสสัน มาพร้อมไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ ที่สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้อัตโนมัติ รวมถึงมี Daytime Running Light มาให้อีกด้วย โดยในรุ่นท็อปสุด (2.0V 4WD Hybrid) มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light แบบ LED ดีไซน์ให้เป็นรูปบูมเมอแรง ใหดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร ส่วนประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า แต่ตัดหลังคาพาโนรามิคซันรูฟออกไปอย่างน่าเสียดาย แต่เข้าใจได้เพราะด้วยราคาที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจจึงจำเป็นต้องตัวออฟชั่นบางอย่างไป ถัดมากับ
[/vc_wp_text][vc_wp_text]
– MAZDA CX-5 น่าเสียดายทางมาสด้าดันให้รุ่นก่อนไมเนอร์เชจน์มาเลยดูธรรมดาไปซะหน่อย แต่ก็พอใช้ได้ดุดันพอตัว กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตแฝงความดุดัน มาพร้อม Signature Wing ที่เป็นสัญลักษณ์ของมาสด้า ไฟหน้าดีไซน์สปอร์ตบ่งบอกถึงความโฉบเฉี่ยว ระบบ Daytime Running Lamp อันนี้ไฟดันเป็นสีเหลืองธรรมดา ดูบ้านๆไปหน่อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เค้าเป็นไฟแบบ LED กัน
[/vc_wp_text][vc_wp_text]
– สุดท้ายกับเจ้า CR-V คันนี้ออกมานานกว่าเพื่อนแต่ก็ถือว่าการดีไซน์ยังคงดูทันสมัยสวยงาม ชุดไฟด้านหน้า ดีไซน์โฉบเฉี่ยว มาพร้อมกับ Daytime Running Light แบบ LED กระจังหน้าและกันชนหน้าหลังดีไซน์สปอร์ตพร้อมแผงใต้กันชนหน้า –หลัง คิ้วฝากระโปรงท้ายแบบโครเมียม ล้ออัลลอยด์ลายใหม่สปอร์ตมากยิ่งขึ้น
[/vc_wp_text][vc_gallery type=”image_grid” images=”8401,8402,8403,8404,8405″][vc_wp_text]
ภายในห้องโดยสาร ในสี่รุ่นนี้มีทั้งที่เป็นเบาะนั่งแบบสองแถวและแบบสามแถว ทุกรุ่นปรับและพับได้ตามฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกันของแต่ละรุ่น CAPTIVA ยังมีความเป็นเอกลักษณ์ของการใช้งานได้จริงในเบาะแถวที่สาม มีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารในแถวที่สามนี้เอาไว้อย่างชัดเจน รวมไปถึงหน้าต่างด้านข้างที่เปิดโล่งมากที่สุด แอร์หลังแบบแยกสองส่วนกับเบาะนั่งที่ได้รับการออกแบบปรับปรุงใหม่หมด X-TRAIL HYBRIDE ก็ให้ความสำคัญในพื้นที่ด้านหลังแต่จะเน้นที่แถวสองซึ่งสามารถปรับได้ราบเรียบเสมอกับพื้นที่ด้านหลัง ถึงจะมีชุดแบตเตอรี่ไฟฟ้าติดตั้งอยู่ก็ตาม CR-V เน้นการโดยสารที่สองแถวหน้า ฟังก์ชั่นการใช้งานช่องเก็บของต่างๆ มีอยู่มากและหลายรูปแบบ CX-5 เหมือนกับ CR-V ในเรื่องเน้นการโดยสารในสองแถวหน้า เพิ่มลูกเล่นเบาะแถวสองปรับพับได้หลากหลายกว่ารุ่นอื่นด้วยการออกแบบพนักพิงเบาะแถวสองเป็นสามชิ้น
คอนโซลหน้า CAPTIVA แสดงด้วยความหรูหราของสีทูดทนในการตกแต่ง วัสดุแถบคาดที่ใช้ในการตกแต่งที่ดูหรูมีราคาคาดต่อเนื่องตลอดบานประตูและคอโซลหน้า กรอบพื้นที่ บางจุดเสริมด้วยวัสดุแบบโครเมียม จุดสัมผัสหุ้มวัสดุนุ่มนวล เบาะนั่งรองรับน้ำหนักได้อย่างสนใจ ทัศนวิสัยชัดเจน จุดที่ต้องใช้งานบ่อยๆ จะถูกรวมการติดตั้งเอาไว้บริเวณตรงกลาง กับหน้าจอขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีการติดตั้งมาแทบทุกรุ่น[/vc_wp_text][vc_gallery type=”image_grid” images=”8406,8407,8408,8409,8410,8411,8412″][vc_wp_text]
ส่วน CX-5 ยึดความสปอร์ตเป็นตัวชูโรงเน้นชั้นในดำ ตลอดทั้งคอนโซลเบาะนั่งตัดด้วยด้ายเย็บสีแดง หน้าจอดูธรรมดาไปสักหน่อยในตัวนี้ ด้วยความกลืนกันทั้งหมดของการตกแต่งด้วยสีดำมีเพียงวัสดุชิ้นเล็กๆ สีเมทัลลิกตกแต่งในมุมเฉียงของพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นขอบที่เก็บของและบริเวณบานประตู[/vc_wp_text][vc_gallery type=”image_grid” images=”8413,8414,8415,8416,8417,8418″][vc_wp_text]
แต่ถ้าต้องการความตื่นเต้นของเส้นเว้าเส้นโค้งต้องเดินมาที่คอนโซลหน้าของ X- TRAIL HYBRIDE ถึงจะเน้นการตกแต่งด้วยโทนสีดำ แต่ก็ไล่เฉดสีอ่อนแข็งให้มีความ แตกต่างของอารมณ์ได้บ้าง แถบคาดของวัสดุตกแต่งและวัสดุกระจุกกระจิกสีเมทัลลิก มีอยู่ในระดับที่พอดี โดดเด่นที่หน้าจอแสดงผลตรงกลางและที่แผงหน้าปัด ใช้งานได้อย่างสะดวกและ ในรุ่นนี้มีปุ่มหมุนเลื่อนเลือกระบบขับเคลื่อนในจุดที่ใช้งานได้ง่ายตรงด้านล่างของคันเกียร์ อัตโนมัติเช่นเดียวกับในรุ่น 4WD เครื่องยนต์ธรรมดา[/vc_wp_text][vc_gallery type=”image_grid” images=”8419,8420,8421,8422,8423,8424,8425,8426″][vc_wp_text]
CR-V ไม่เคยยอมแพ้ใครในเรื่องของการออกแบบตกแต่งอยู่แล้ว เส้นเว้าเส้นโค้งที่อ่อนไหวในบริเวณคอนโซลหน้า มีคอนเซ็ปต์การตกแต่งที่ทำให้มันดูหรูหรา การเล่นระดับและวัสดุตกแต่งที่เข้ากัน กับชุดพวงมาลัย หน้าจอและคันเกียร์ ความลงตัวมันจึงยังคงมีอยู่เสมอ แถมให้ NAVIGATOR มาด้วย[/vc_wp_text][vc_gallery type=”image_grid” images=”8427,8428,8429,8430,8431,8432″][vc_wp_text]
มาถึงด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์กันบ้าง CX-5 ออกตัวมาด้วยเทคโนโลยี SKYACTIV เครื่องยนต์เบนซิน SKYACYIV-G 2.0L ให้กำลังสูงสุดถึง 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ อัตราเร่งของเจ้า CX-5 คันนี้อัตราเร่งถือว่าเพียงพอต้องการใช้งาน การขับขี่ในเมืองคล่องตัวดีใช้ได้ขับง่าย แต่จังหวะในการออกตัวอาจจะหนืดๆไม่ทันใจเท่าไหร่ แต่ช่วงกลางถึงปลายไปแล้วทำได้ดีความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเร่งแซงต้องใช้การคลิกดาวน์ช่วยถึงจะทันใจ ช่วงล่างแน่นหนึบมั่นใจได้ เค้าโค้งด้วยความเร็วได้อย่างสบาย การดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวของถนนทำได้ดีอาจจะไม่นุ่มนวลเท่าไหร่แต่ความแน่นหนึบยกนิ้วให้เลย แต่เจ้าคันนี้ขับเคลื่อน 2 ล้อนะครับลุยเยอะบ่ได้เน้อ เล็กขำๆพอ
แต่เจ้า CAPTIVA ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที เครื่องยนต์เสียงเงียบดี อัตราเร่งตอบสนองรวดเร็ว ทันใจ ขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว การออกตัวทำได้ดี อัตราเร่งทางตรงยาวๆทำได้อย่างต่อเนื่องละลื่นไหล เร่งแซงต้องใช้การคลิกดาวน์ช่วยในบางจังหวะแต่พอคลิกดาวน์ไปแล้วมีจังหวะหน่วงๆอยู่แปปนึงแล้วถึงจะพุ่งออกไป ต้องสร้างความคุ้นเคยนิดนึงในจังหวะเร่งแซง ช่วงล่างแน่นเฟริ์มมากจร้า ดูดซับแรงกระแทกสะเทือนได้ดีที่เดียว เค้าโค้งสบายมั่นใจหายห่วง
มาที่ CR-V เครื่องยนต์ 2,400 ซี.ซี.ใหญ่สุดเลยทีเดียวกับระบบเทคโนโลยี i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ ที่ช่วยส่งเสริมการเรียงแรงบิดออกไปสู่พื้นอย่างราบลื่น อัตราเร่งดีทั้งต้น และปลายเลยจร้าขับสนุกทีเดียวสำหรับเจ้า CR-V ในเมืองคล่องตัวขับง่ายชิลล์ๆ การเร่งแซงไม่มีปัญหาสบายหายห่วง ขึ้น-ลงเขาแซงแรงเหลือเฟือ ช่วงล่างนุ่มนวลกว่า CAPTIVA และ CX-5 ครับขับในเมืองนุ่มนวลดูดซับแรงสั้นสะเทือนได้ดี การเค้าโค้งด้วยความเร็วอาจจะโคลงเล็กน้อยถ้าใช้ความเร็วสูง แลกกับความนุ่มนวลก็โอเคนะครับคุ้ม
X-TRAIL HYBRID มาพร้อมเครื่องยนต์ ตัวเครื่องยนต์พื้นฐานแบบเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร MR20DD 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin C-VCT ไดเรคอินเจคชั่น ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที (รองรับน้ำมัน E20) ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 160 นิวตัน-เมตร ให้กำลังสูงสุดรวมถึง 179 แรงม้า เรื่องเทคโนโลยีเครื่องยนต์ระบบขับเคลื่อน คงไม่มีใครเกินหน้า X-TRAIL HYBRID คันนี้การเร่งออกตัวทำได้ดีกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด อัตราเร่งทำได้ดีตั้งแต่รอบต้น การเร่งแซงไม่มีปัญหา แถมยังขับขี่ในเมืองประหยัดแน่นอนหายห่วง แต่ถ้าออกนอกเมืองละก็กินน้ำมันพอๆกับเพื่อนๆคันอื่นครับ เพราะส่วนมากจะวิ่งด้วยความเร็วจึงไม่ได้ใช้ไฟฟ้าซะเท่าไหร่ ช่วงล่างนุ่มมากครับขับในเมืองน่าจะสบาย แต่นอกเมืองผมว่านิ่มไปนิด
ตารางข้อมูลอัตราสิ้นเปลือง
CHEVROLET CAPTIVA…11.37 Km/L
HONDA CR-V…13.22 Km/L
MAZDA CX-5…14.85 Km/L
NISSAN X-TRAIL HYBRID…10.29 Km/L
ความเร็วเดินทาง
CHEVROLET CAPTIVA…120 Km/h @ 2,400 rpm
HONDA CR-V…120 Km/h @ 2,100 rpm
MAZDA CX-5…120 Km/h @ 2,100 rpm
NISSAN X-TRAIL HYBRID…120 Km/h @ 2,100 rpm
การควบคุมในเรื่องของการใช้เบรก ชะลอหรือหยุดความเร็วรถ ในทั้งสามรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์ทั่วไปไม่ยากนักสำหรับการใช้งานเบรก แต่การใช้งานเบรกในรถ X-TRAIL HYBRID ต้องสร้างความคุ้นเคยนิดนึง เพราะแรงเบรกจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ามันจะมีระยะแปลกๆ
ส่วนพวก OPTION ที่ให้มาก็เพียบพร้อมไม่น้อยหน้าใครเลย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีมาให้ใน CAPTIVA CR-V และ X-TRAIL HYBRID สามารถลุยได้เกือบทุกสภาพถนน แต่อาจจะไม่หนักมากถึงขนาดลุยเข้าไปในป่านะครับ เพราะมันถูกพัฒนามาให้ใช้งานเพื่อช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัย แก้อาการด้อยของรถขับเคลื่อนสองล้อออกไป แต่ไม่ต้องไปยุ่งยากกับการเลือกใช้งานและเลือกแบบของการส่งกำลัง เพราะมันเป็นแบบอัตโนมัติแปรผันการถ่ายทอดกำลังแบบอัตโนมัติ CAPTIVA , CR-V ส่วน X-TRAIL HYBRID มีลูกเล่นการส่งถ่ายกำลังมาให้เลือกแบบการลุยหนักขึ้นมาอีกระดับ แต่มันใช้เพื่อเอาตัวรอดได้ในยามคับขัน กับสภาวะพื้นที่ไม่โหดมากเท่านั้น ส่วน CX-5 รุ่นที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะเป็นตัวที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล
ด้วยรูปโฉมและภาพลักษณ์ที่แตกต่าง ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัยสะดวกสบาย สมรรถนะเครื่องยนต์ และสิ่งที่มันให้ได้มากกว่านั่นก็คือ “ความมั่นใจ” การใช้ยานพาหนะที่มันจะพาคุณไปได้ไกลกว่า และรองรับสไตล์ชีวิตทุกรูปแบบ นั่นแหละคือสิ่งที่รถประเภทนี้ให้ได้
คอมเม้นท์
กิตติศักดิ์ ด้วงพิมพ์…หัวหน้ากองบรรณาธิการ นิตยสารกรังด์ปรีซ์
กลุ่มรถอเนกประสงค์กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะคุณสมบัติของตัวรถมันคุ้มค่าและใช้งานได้จริง เมื่อแยกแยะออกมาจากประเภทรถกลุ่มอื่น การควบคุม การขับขี่ถือเป็นความโดดเด่นที่สุดในทุกรุ่นที่นำเอามาทดสอบในครั้งนี้ ส่วนในเรื่องเทคโนโลยีแล้วถ้ามันได้ใช้งานจริง จะสำคัญที่สุด และต้องใช้เป็นอย่างถูกต้อง นั่นแหละคือความเหมาะสมจาก SUV
ณัฐพล เดชสิงห์…กองบรรณาธิการเว็บไซค์ Grandprix.co.th
ถ้าไม่มองถึงเรื่องของการบำรุงรักษาที่มากกว่า รถในกลุ่มนี้ที่นำมาทดสอบ คือรถที่คนรุ่นใหม่ซึ่งประสบความสำเร็จในชีวิตระดับหนึ่งมองหา มันมีภาพลักษณ์ที่อยู่ในอีกขั้น อีกระดับ ฟังก์ชั่นการใช้งานคือสิ่งที่ผมชอบ มันตอบรับกับไลฟ์สไตล์ชีวิตได้อย่างมากเลยทีเดียว
พัชพล นราแย้ม…ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ นิตยสารกรังด์ปรีซ์
ศิลปะ คือ ความงาม ในการออกแบบรถยนต์ในกลุ่ม SUV เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่มีความเป็นตัวตนที่สูง เอกลักษณ์ของแต่ละค่ายถูกใส่มาอย่างเต็มที่ ความแข็งแกร่ง โฉบเฉี่ยว แต่แฝงไว้ด้วยสมรรถนะ นั่นยิ่งทำให้ความงามบนเรือนร่างรถประเภทนี้ ตรงใจของผู้ใช้งานและผู้ที่ชอบความแปลกใหม่อย่างผมได้ไม่ยาก
ศิปิวรรธ ปานกลาง…กองบรรณาธิการ นิตยสารออฟโรด
ความต้องการที่หลากหลาย สิ่งที่ต้องรองรับการใช้งานอย่างรถยนต์ ต้องทำได้หลายอย่าง แต่จุดเด่นของสมรรถนะตัวรถจากสมรรถเครื่องยนต์ ซึ่งมีการพัฒนาการทำงานอันส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองในการใช้งานจริง มีความเหมาะสมอย่างมาก แม้จะใช้งานในย่านความเร็วที่หลากหลาย ที่สำคัญภาพลักษณ์ของผู้ขับขี่เป็นเรื่องที่ได้มาในทันทีที่เราได้ควบคุมมัน ในการใช้งาน
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ ออนไลน์ GRAND PRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/vc_wp_text][/vc_column][/vc_row]