เปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ ควรดูอะไรบ้าง
หากรู้สึกว่ายางรถยนต์ที่ใช้เริ่มจะแข็ง และดอกยางเหลือน้อยแล้ว นั่นคือสัญญาณว่าควรจะเปลี่ยนยางได้แล้ว เพราะยางรถยนต์ไม่เพียงเป็นสิ่งที่ช่วยถ่ายทอดกำลังจากเคลื่อนยนต์สู่พื้นเพื่อพารถยนต์เคลื่อนที่เท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อความความปลอดภัยในการเดินทางด้วย ซึ่งเมื่อจะเปลี่ยนยางรถยนต์สิ่งแรกที่มักถูกคิดถึงก็คือรุ่นและแบรนด์ของยาง อย่างไรก็ตามยังมีเรื่องสำคัญอื่นๆ และความรู้เกี่ยวกับยางที่ควรจะคิดถึงเมื่อจะเปลี่ยนยางใหม่ เพื่อที่จะสามารถใช้รถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย
ขนาดของยางรถยนต์ที่เหมาะสม
เจ้าของรถสามารถดูขนาดของยางและล้อที่เหมาะสมกับรถยนต์ที่ใช้อยู่ได้จากคู่มือของรถหรือสติ๊กเกอร์แนะนำบริเวณประตูรถ และเมื่อเปลี่ยนยางใหม่ก็ควรดูขนาดยางที่เหมาะสมกับรถยนต์ตามคำแนะนำเหล่านี้ ซึ่งสำหรับการใช้งานรถยนต์ทั่วไปกับล้อที่มากับรถจากโรงงานหรือล้อขนาดเดียวกันควรเลือกยางขนาดเดียวกับคำแนะนำหรือใกล้เคียงที่สุด เพราะยางที่ติดล้อมากับรถยนต์เป็นขนาดที่ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าเหมาะสมสำหรับการใช้งาน ยกเว้นแต่ว่าผู้ขับรถจะต้องการคุณสมบัติของยางที่แตกต่างออกไป เช่นต้องการการเกาะถนนที่ดีขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง หรือต้องการความนุ่มนวลในการเดินทางมากขึ้น หรือใช้ล้อขนาดต่างออกไปจากเดิม จึงมีการเปลี่ยนขนาดยางรถยนต์ที่ต่างไปจากเดิม
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรรู้ก็คือเมื่อปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่แล้วเปลี่ยนขนาดของยางที่แตกต่างไปจากคำแนะนำในคู่มือรถมากคือจะมีผลอื่นที่ตามมาด้วย อย่างการใช้ยางขนาดเล็กเกินไปทำให้ความสามารถในการรับน้ำหนักลดลง สิ้นเปลืองน้ำมัน เกจ์วัดความเร็วคลาดเคลื่อน ส่วนการใช้ยางขนาดใหญ่เกินไปผลที่ตามมาอาจทำให้ยางเสียดสีกับบางส่วนของรถ พวงมาลัยหนักขณะใช้ความเร็วต่ำ และเกจ์วัดความเร็วคลาดเคลื่อนจากความจริง
ลักษณะการใช้รถ
สำหรับการใช้งานทั่วไปแล้วแน่นอนว่าการเลือกใช้ยางขนาดเดียวกับที่ติดมากับล้อของรถจากโรงงานย่อมเป็นทางเลือกที่ดี แต่หากต้องมีการบรรทุกสิ่งของหนักเป็นประจำ หรือมักขับรถด้วยความเร็วสูงจึงต้องการการยึดเกาะถนนมากขึ้น ก็อาจต้องคิดถึงยางรถยนต์ที่ต่างออกไปซึ่งมีคุณสมบัติที่รองรับลักษณะการใช้งานรถ ซึ่งคุณสมบัติต่างๆ ของยางจะสามารถดูได้แก้มยาง
ข้อมูลที่แก้มยาง
นอกจากยี่ห้อและรุ่นแล้วผู้ขับรถยนต์ยังสามารถดูข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับยางได้จากตัวหนังสือและตัวเลขที่แก้มยางรถยนต์ทุกเส้นไม่ว่าจะเป็นขนาดของยาง ความสามารถในการรับน้ำหนัก ความเร็วสูงสุดที่สามารถวิ่งได้ สัปดาห์/ปีที่ผลิต เช่น P195/55 R15 82T โดยหนังหนังสือและตัวเลขเหล่านี้มีความหมายคือ
-P หมายถึงยางที่ถูกออกแบบสำหรับรถยนต์นั่ง
-195 คือความกว้างของหน้ายางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร
-55 คือความสูงของแก้มยาง โดยวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของหน้ายาง จากตัวอย่าง 195/55 หมายถึง 55 เปอร์เซ็นต์ของ 195 มม.
-R หมายถึงยางเรเดียล
-15 คือขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว
-82 คือน้ำหนักบรรทุก ซึ่งไม่ได้หมายถึงรองรับน้ำหนักได้ 82 กิโลกรัม แต่ต้องเทียบในตารางดัชนีน้ำหนักบรรทุก ซึ่ง 82 หมายถึงการรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ 475 กิโลกรัม
-T คือสัญลักษณ์การระบุการรองรับความเร็วสูงสุดที่ใช้ ซึ่งต้องเทียบกับตารางสัญลักษณ์ความเร็ว เช่น Q รองรับความเร็วสูงสุดไม่เกิน 160 กม./ชม., S ไม่เกิน 180 กม./ชม., T ไม่เกิน 190 กม./ชม., H ไม่เกิน 200 กม./ชม., V ไม่เกิน 240 กม./ชม. และ Z รองรับความเร็วเกินกว่า 300 กม./ชม.
สำหรับวันผลิตยางจะดูได้จากตัวเลข 4 ตัวที่ขอบแก้มยางใกล้ๆ กับล้อ โดยเลข 2 ตัวแรกหมายสัปดาห์ที่ผลิต ส่วนเลข 2 ตัวหลังเป็นการบอกถึงปีที่ผลิต เช่น 3819 หมายถึงยางเส้นนั้นถูกผลิตสัปดาห์ที่ 38 (ปีหนึ่งมี 52 สัปดาห์) ของปี 2019
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th