ถือเป็นกระแสมาแรง สำหรับทุกท่านที่มีความสนใจ และชื่นชอบรถพลังงานไฟฟ้าเป็นอย่างมาก เมื่อทางบริษัทเทสล่าได้ทำการเปิดตัว tesla model 3 คอมแพคท์คาร์ รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นประหยัด ที่ถือเป็นเวอร์ชันอัปเกรด MY2021 ด้วยการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของรถยนต์ จากรุ่นก่อนหน้านี้เพียงเล็กน้อย ประกอบกับได้มีการเพิ่มสมรรถนะโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญก็คือ ได้มีการพัฒนาระยะในการวิ่ง ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 20-50 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยต่าง ๆ เป็นสำคัญ และในปัจจุบันก็ได้ทำการเปิดให้จับจองเป็นเจ้าของแล้ว ซึ่งเริ่มในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก

ระบบขับเคลื่อนพลังใหม่ ของ tesla model 3

หลังจากที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รุ่นประหยัด อย่าง tesla model 3 ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ บนหน้าเว็บไซต์ของบริษัทไปหมาด ๆ ก็ส่งผลให้มีผู้คนจำนวนมาก ต่างให้ความสนใจ และต้องการจะจับจองเป็นเจ้าของเป็นอย่างมาก ด้วยการพัฒนาสมรรถนะของรถยนต์รุ่นดังกล่าว ให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เช่น ระยะวิ่งที่เพิ่มมากขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแต่ละรุ่นก็มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

• tesla model 3 รุ่น Standard Range Plus มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ติดตั้งที่เพลาหลัง ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ที่เพิ่มระยะวิ่งจากเดิม 13 ไมล์ มาเป็น 263 ไมล์ ความจุแบตเตอรี่ 54 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
• tesla model 3 รุ่น Long Range มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า-หลัง ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ (AWD) ที่เพิ่มระยะวิ่งจากเดิม 30 ไมล์ มาเป็น 353 ไมล์ แพคความจุแบตเตอรี่ 75 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
• tesla model 3 รุ่น Performance มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ (AWD) เช่นเดียวกัน ที่เพิ่มระยะวิ่งจากเดิม 16 ไมล์ เป็น 315 ไมล์ แพคความจุแบตเตอรี่ 62 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง

ในส่วนของประสิทธิภาพของอัตราการเร่ง จาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง ทางบริษัทเทสล่าก็ได้ทำการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่น ให้ทำเวลาที่ลดน้อยลง ซึ่งรุ่น Standard Range Plus จะใช้เวลาประมาณ 5.3 วินาที, รุ่น Long Range จะใช้เวลาประมาณ 4.2 วินาที และรุ่น Performance จะใช้เวลาประมาณ 3.1 วินาที

การออกแบบรูปลักษณ์ภายในห้องโดยสาร ของ tesla model 3

สำหรับภายในห้องโดยสารของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รุ่นประหยัด อย่าง tesla model 3 ทางบริษัทก็ได้ทำการพัฒนา และปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย ในส่วนของพวงมาลัย ก็ได้ทำการเคลือบโลหะแบบอุ่น คอนโซลตรงกลางที่ตกแต่งใหม่ทั้งหมด และหน้าต่างที่เพิ่มกระจกเป็น 2 ชั้น ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันความร้อน และเสียงลมจากภายนอกได้เป็นอย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังรวมไปถึง การกลับมาของกระจกมองข้าง แบบปรับแสงอัตโนมัติดังเช่นรุ่นก่อนหน้านี้ ประกอบกับได้ทำการออกแบบ Frunk หรือช่องจัดเก็บสัมภาระใต้ฝากระโปรงด้านหน้ารถใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้ก็เพื่อติดตั้งปั๊มความร้อนเฉกเช่นเดียวกันกับ Model Y

นอกจากนี้ทางบริษัทเทสล่า ยังได้ทำการปรับเปลี่ยนตำแหน่งชาร์จไวร์เลสส์ และติดตั้งที่วางสมาร์ตโฟนเพิ่มจากเดิม เป็น 2 เครื่อง และในส่วนของหน้าจอแสดงผล ระบบอินโฟเทนเมนต์ ก็ยังคงเป็นแบบจอสัมผัสทรงแท็บเล็ท ที่มีขนาด 15 นิ้วดังเดิม ซึ่งจะเห็นได้ว่าทางบริษัท ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายในที่ก้าวกระโดดเท่าไหร่นัก เพียงแค่เพิ่มความสะดวกสบายในด้านอื่น ๆ ให้มากขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าค่อนข้างตอบสนองตามความต้องการของผู้ใช้รถ ในยุคสมัยนี้ได้มากพอสมควร

รูปลักษณ์ภายนอก ของ tesla model 3

สำหรับการตกแต่งรูปลักษณ์ภายนอก ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า tesla model 3 ที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน นั่นก็คือ ขอบรอบหน้าต่าง ที่มีการใช้โทนสีดำด้านทั้งหมด จากเดิมที่เป็นขอบโครเมียม รวมถึงมือเปิดประตูรอบคันรถ ก็ได้ทำการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเช่นเดียวกัน และในส่วนของล้อรถ ก็มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ ขนาด 18 นิ้ว แบบสปอร์ต และขนาด 19 นิ้ว แบบ Aero สำหรับรุ่น Standard Range Plus และขนาด 20 นิ้ว แบบ Uberturbine สำหรับรุ่น Performance

ราคาจัดจำหน่าย ของ tesla model 3 แต่ละรุ่น

อย่างที่ทุกท่านทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า tesla model 3 ได้เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการ จำนวน 3 รุ่นด้วยกัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีสมรรถนะ รวมถึงราคาจัดจำหน่ายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยให้ทุกท่านตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์รุ่นนี้ ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น ก็ไปดูราคาจัดจำหน่ายของรถแต่ละรุ่นพร้อม ๆ กันเลย

• รุ่น Standard Range Plus มีราคาจัดจำหน่ายเริ่มต้นที่ 31,690 ดอลลาร์ หรือประมาณ 9 แสนบาท
• รุ่น Long Range มีราคาจัดจำหน่ายเริ่มต้นที่ 40,690 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.27 ล้านบาท
• รุ่น Performance มีราคาจัดจำหน่ายเริ่มต้นที่ 48,690 ดอลลาร์ หรือประมาณ 52 ล้านบาท

จากที่กล่าวไปทั้งหมดเมื่อข้างต้น แม้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รุ่นประหยัด tesla model 3 จะไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายใน และรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นจากรุ่นก่อนหน้านี้เท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากเป็นในเรื่องของสมรรถนะแล้วล่ะก็ รับรองว่ากินขาดอย่างแน่นอน และสำหรับราคาจัดจำหน่าย ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก หากต้องแลกมากับสมรรถนะที่เพิ่มมากขึ้นอย่างสังเกตเห็นได้ชัด รับประกันได้เลยว่า หากท่านใดที่มีรถยนต์รุ่นดังกล่าวอยู่ในครอบครอง จะทำให้มีความโดดเด่น และสะดวกสบายอย่างถึงที่สุดเลยนั่นเอง

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th