บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้ทำการตอกย้ำความเป็นผู้นำ รถจักรยานยนต์ สไตล์ Sport Heritage อย่างเหนือชั้น ด้วยการเปิดตัว Yamaha XSR155 สีใหม่ อย่างเป็นทางการในปี 2021 อีกทั้งยังมาพร้อมกับคำนิยามที่ว่า “วิถีที่งดงามของประวัติศาสตร์” กล่าวคือ สิ่งที่ต้องขับเคลื่อนไปพร้อม ๆ กัน กลุ่มคนในยุคสมัยปัจจุบันหลงใหล Heritage ด้วยการใช้ประวัติศาสตร์เป็นแรงบันดาลใจให้กับปัจจุบัน ในการออกไปเจอเส้นทางใหม่ ๆ พร้อมกับได้ทำการผสานเข้ากับเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพอย่างเหนือชั้น

เครื่องยนต์ของ เปิดตัว รถจักรยานยนต์ Yamaha XSR155 2021

สำหรับ รถจักรยานยนต์ Yamaha XSR155 ก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 จังหวะ สูบเดี่ยว ขนาด 155 ซีซี. SOHC 4 วาล์ว ประกอบกับระบบ VVA วาร์วแปรผันอิสระ จ่ายน้ำมันเครื่องด้วยระบบหัวฉีด อีกทั้งยังระบายความร้อนด้วยน้ำ กระบอกสูบ x ช่วงชักจะอยู่ที่ 58.0 x 58.7 มิลลิเมตร ในส่วนของเกียร์ก็มาในรูปแบบเกียร์ 6 สปีดสไตล์สปอร์ต ที่ทำงานผสมผสานกับคลัตซ์มือ มาพร้อมกับสลิปเปอร์คลัตซ์ ที่มีคุณสมบัติในการให้ความแรง เร้าใจ ไปได้ไกลกว่าทุก ๆ ประสบการณ์การขับขี่ และเพิ่มความสะดวกสบายให้มากยิ่งขึ้น ด้วยปุ่มสตาร์ทมือระบบไฟฟ้า เรียกได้ว่าตอบโจทย์ตามความต้องการของผู้ใช้งานในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ในส่วนของน้ำมันเชื้อเพลิง จะนิยมใช้น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว หรือน้ำมันแก๊สโซฮอล์ (E10) เพียงเท่านั้น

นอกจากนี้ยังสามารถขับขี่ไปบนท้องถนนได้อย่างมั่นใจ และรู้สึกผ่อนคลายขณะขับขี่ ด้วยเบาะที่นั่งตอนเดียวสไตล์สปอร์ตที่คงความคลาสสิคได้เป็นอย่างดีเยี่ยม มีการดีไซน์ออกมาด้วยความพิถีพิถัน สามารถรองรับการเดินทางได้ตลอดทุกเส้นทางได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย นอกจากนี้ในส่วนของระบบเบรก ก็ถือว่าได้มาตรฐานเป็นอย่างมาก โดยมาพร้อมกับดิสก์เบรกทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ประกอบกับระบบกันสะเทือน ด้วยโช้คอัพแบบหัวกลับ (Upside Down) ในส่วนของด้านหลังก็มาพร้อมกับโช้คเดี่ยวและสวิงอาร์ม อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการยึดเกาะกับพื้นถนนได้เป็นอย่างดี ด้วยยาง Dual Purpose (แบบไม่มียางใน) ที่ทางแบรนด์ได้ทำการดีไซน์ออกมาอย่างพิเศษ ขนาดของล้อหน้า แบบ Tubeless จะอยู่ที่ 110/70-17 M/C 54S และขนาดของล้อหลัง แบบ Tubeless จะอยู่ที่ 140/70-17 M/C 66S

การออกแบบรูปลักษณ์ ของ รถจักรยานยนต์ Yamaha XSR155 2021

รถจักรยานยนต์ Yamaha XSR155 ก็ยังคงมาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นก็คือ การผสมผสานเข้ากับความโมเดิร์นสปอร์ตและเฮอริเทจสไตล์ พร้อมด้วยฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ ที่ค่อนข้างทันสมัยเป็นอย่างมาก ในส่วนของไฟหน้าก็มาในรูปแบบไฟ LED ทรงกลม สไตล์ Heritage ที่ผสมผสานให้เข้ากันกับเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ความสว่างทุกการขับขี่ ปลอดภัยในทุก ๆ เส้นทาง และในส่วนของไฟท้ายของมาในรูปแบบไฟ LED ทรงกลม สไตล์ Heritage เช่นเดียวกัน ซึ่งได้มีการออกแบบให้เข้ากันกับดีไซน์ของตัวรถได้อย่างลงตัว

สำหรับเรือนไมล์ของ Yamaha XSR155 ก็ได้ทำการดีไซน์ออกมาในรูปแบบ Full LCD Digital Meter ที่สามารถแสดงผลของข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงฟังก์ชันทุกฟังก์ชันได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น รอบเครื่องยนต์ ความเร็ว ระยะทาง ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และตำแหน่งเกียร์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ ก็ได้ทำการผสมผสานเข้ากับความล้ำสมัยได้เป็นอย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว ในส่วนของถังน้ำมันก็มาในรูปแบบทรงหยดน้ำ ให้ความรู้สึกน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Knee Grip ที่พร้อมส่งมอบความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับรถได้เป็นอย่างดีเยี่ยม โดยสามารถจุดน้ำมันได้ถึง 10 ลิตร

ในส่วนของสี รถจักรยานยนต์ Yamaha XSR155 2021 ก็ได้เปิดตัวจำนวน 4 เฉดสี 4 สไตล์ ซึ่งก็ได้แก่ สีเทาเข้ม (Graphite), สีเทา (Premium), สีดำ (Elegance) และสีขาว-แดง (80s Sport Heritage) ซึ่งต้องบอกเลยว่าค่อนข้างได้รับความสนใจ ในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบรถแนวนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถเลือกตามความชื่นชอบของตนเองได้อย่างไร้ขีดจำกัดนั่นเอง

มิติของ รถจักรยานยนต์ Yamaha XSR155 2021

สำหรับขนาดตัว รถจักรยานยนต์ Yamaha XSR155 2021 จะเป็นโครงรถเฟรมแบบเดลต้าบ็อกซ์ มีความกว้าง 80.50 เซนติเมตร ความยาว 200.50 เซนติเมตร และความสูง 108.00 เซนติเมตร ในส่วนความสูงวัดจากพื้นถึงเบาะ จะอยู่ที่ 81.00 เซนติเมตร ความสูงวัดจากพื้นถึงเครื่องยนต์จะอยู่ที่ 17.00 เซนติเมตร ความยาววัดจากแกนล้อหน้าไปยังแกนล้อหลัง 133.00 เซนติเมตร มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดที่ 220.00 เซนติเมตร และน้ำหนักตัวรถเมื่อรวบกับน้ำมันเครื่อง ประกอบกับน้ำมันเชื้อเพลิง จะเท่ากับ 134 กิโลกรัมพอดิบพอดี

จากบทความที่เพิ่งกล่าวไปเมื่อข้างต้น เชื่อได้ว่าผู้ที่มีความชื่นชอบรถ รถจักรยานยนต์ แนวนี้ ก็คงจะมีความสนใจใน Yamaha XSR155 2021 อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยทำการเปิดตัวมาในราคาเริ่มต้นที่ 91,500 บาท หากมองผิวเผินก็อาจจะมีความคิดที่ว่า เป็นรถที่มีราคาที่ค่อนข้างสูงเป็นอย่างมากหากเทียบกับรุ่นอื่น ๆ แต่ถ้าหากมองมุมกลับปรับมองมุม และทำการเทียบกับสมรรถนะ ฟังก์ชัน และระบบต่าง ๆ ของรถรุ่นดังกล่าว ก็ต้องบอกเลยว่ามีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีตัวเลือกในเรื่องของสีอย่างหลากหลาย ผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อได้ตามความชื่นชอบ หรือไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ตามต้องการ ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ เมื่อขับขี่บนท้องถนนเป็นอย่างมากเลยนั่นเอง

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th