เปิดทุกรายละเอียด All-New Toyota Camry-พร้อมขายที่สหรัฐฯ
เปิดผ้าคลุมอย่างเป็นทางการ All-New Toyota Camry 2018 รถยนต์ซีดานขนาดกลางที่ครองใจคนทั่วโลก ส่งรูปภาพแบบเต็มๆ พร้อมข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างของรถเวอร์ชั่นที่จะขายในประเทศสหรัฐฯ ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยเครื่องยนต์ใหม่ของพวกเขาจะมีอัตราประหยัดน้ำมันดีขึ้นจากรุ่นก่อน 26 เปอร์เซ็นต์ และใส่เทคโนโลยีล้ำสมัยมาเพียบ เพื่อเตรียมรับมือ All-new Honda Accord ที่เตรียมเปิดตัวรอบเวิลด์พรีเมียร์ในสหรัฐฯ วันที่ 14 กรกฎาคมนี้
เจเนอเรชั่นที่ 8 ของ Camry ใช้แพล็ตฟอร์มที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด TNGA (Toyota New Global Architecture) ที่เป็นเหมือนตัวแทนการเข้าสู่ยุคใหม่ของ Toyota ทั้งการดีไซน์, วิศวกรรม และเทคโนโลยี โดยยังคงรักษามาตรฐานในการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพซึ่งเป็นชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนานของพวกเขา รวมทั้งความปลอดภัย และเพิ่มประสบการณ์ความเร้าใจในการขับที่มากกว่าเดิม
ในเว็บไซต์ Toyota ประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าพวกเขากำหนด 3 เป้าหมายหลักในการออกแบบ All-new Camry คือ การสร้างความโดดเด่น, จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (Low Center of Gravity) ทำให้ตัวรถมีมิติที่กว้างขึ้นเช่นเดียวกันภายในห้องโดยสาร และความสปอร์ตเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่าหลงใหลในทุกมุมมอง จนทำให้พวกเขาเชื่อว่า All-new Camry จะปฏิวัติมาตรฐานใหม่ของรถยนต์นั่งขนาดกลางเลยทีเดียว
All-New Camry ที่ขายในสหรัฐฯ จะแบ่งเป็น 5 ระดับไล่จาก L, LE, XLE, SE และ XSE โดย 2 รุ่นบนจะมีการเพิ่มความเป็นสปอร์ตมากขึ้นด้วยกันชนหน้า-หลังที่มีความดุดัน, ติดตั้ง Diffuser, กระจังหน้าเป็นลายรังผึ้ง, ล้ออัลลอยด์สีดำ 19 นิ้ว (เฉพาะรุ่น XSE, ออปชั่นให้เลือกติดตั้งใน SE) และสปอยเลอร์ท้าย
มาที่ขุมกำลัง All-New Camry จะมีเครื่องยนต์ใหม่ให้เลือก 3 แบบ เริ่มจากรุ่นเบนซิน 2.5-liter Inline-four-cylinder D-4S และ 3.5-liter V6 D-4S Fuel Injection โดยทั้ง 2 รุ่นจะทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ล่าสุด Direct-Shift 8 สปีด และรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดจะควบคุมด้วย Toyota Hybrid System (THS II) เจเนอเรชั่นใหม่เช่นกัน
เครื่องยนต์ 2.5-liter Inline-four-cylinder D-4S เพิ่มระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะควบคุมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า VVT-iE เข้ามาทำงานร่วมกับระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะแบบคู่ Dual VVT-i มีกำลังสูงสุด 206 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที (176 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาทีในรุ่นไฮบริด) และแรงบิดสูงสุด 186 ฟุต-ปอนด์ที่ 5,000 รอบ/นาที (163 ฟุต-ปอนด์ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาทีในรุ่นไฮบริด) อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในการทดสอบตามมาตรฐานของหน่วยงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐฯ (อีพีเอ) การขับในเมือง 29 ไมล์/แกลอน (12.32 กม./ลิตร), การขับบนทางด่วน 41 ไมล์/แกลอน (17.43 กม./ลิตร) และการขับในแบบสภาวะรวม 34 ไมล์/แกลอน (14.45 กม./ลิตร) เป็นตัวเลขที่ดีกว่าโมเดลก่อน 26 เปอร์เซ็นต์
All-new Camry LE จะใช้เครื่องยนต์ 2.5-liter (ภาพล่าง)
สำหรับเครื่องยนต์ใหม่ 3.5-liter V-6 จะมีเฉพาะรุ่น XLE และ XSE ควบคุมด้วยระบบหัวฉีด D-4S ที่ได้รับการพัฒนาใหม่เช่นเดียวกับระบบควบคุมวาล์วแปรผัน VVT-iW (Variable Valve Timing-intelligent Wide) ผลิตกำลังได้สูงสุด 301 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 267 ฟุต-ปอนด์ที่ 4,700 รอบ/นาที โดยอัตราประหยัดน้ำมันจากการทดสอบของอีพีเอ การขับในเมือง 22 ไมล์/แกลอน (9.35 กม./ลิตร), ทางด่วน 33 ไมล์/แกลอน (14.02 กม./ลิตร) และในสภาวะรวม 26 ไมล์/แกลอน (11.05 กม./ลิตร) เป็นตัวเลขที่ดีกว่าเครื่อง 6 สูบรุ่นก่อนราว 8 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่เครื่องยนต์ไฮบริดของ All-New Camry จะมีให้เลือก 3 ระดับ (LE, SE และ XLE) ด้วยการใช้ระบบใหม่THS II ที่จะเพิ่มความสนุกในการขับพร้อมรักษาสภาพแวดล้อมในเวลาเดียวกัน โดยองค์ประกอบสำคัญมาจากการใช้เทคโนโลยีควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ Sequential Shiftmatic ในระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 6 สปีด ที่จะควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่สร้างสมดุลระหว่างสมรรถนะสูงสุดกับการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
เครื่องยนต์ใหม่ 3.5-liter V-6 ความแรง 301 แรงม้า
ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรุ่นไฮบริด รุ่น XLE และ SE การขับในเมืองจะอยู่ที่ 44 ไมล์/แกลอน (18.7 กม./ลิตร), ทางด่วน 47 ไมล์/แกลอน (19.98 กม./ลิตร) และการขับแบบสภาวะรวม 46 ไมล์/แกลอน (19.55 กม./ลิตร) แต่หากเป็นรุ่น LE จะมีอัตราประหยัดน้ำมันสำหรับการขับในเมือง 51 ไมล์/แกลอน (21.68 กม./ลิตร), ทางด่วน 53 ไมล์/แกลอน (22.53 กม./ลิตร) และสภาวะรวม 52 ไมล์/แกลอน (22.1 กม./ลิตร) ดีขึ้นจากรุ่นก่อน 30 เปอร์เซ็นต์
มาตรฐานความปลอดภัย 2018 Camry จะมาพร้อมระบบ Toyota Safety Sense P (TSS-P) ที่ถูกออกแบบเพื่อก้าวสู่เป้าหมายในการสร้างสังคมที่ปราศจากอุบัติเหตุ (Zero Casualties from Accidents) ทำให้รถรุ่นนี้จะมีทั้งระบบป้องกันการชนด้านหน้าพร้อมตรวจจับคนเดินถนน (PCS w/PD), ระบบเรดาร์ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (DRCC), ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน และช่วยควบคุมพวงมาลัย (LDA w/SA) และระบบปรับไฟหน้าสูงต่ำอัตโนมัติ (AHB) ในบางรุ่นจะมีเพิ่มเติมเป็นอุปกรณ์มาตรฐานคือ ระบบช่วยเตือนในจุดอับสายตา (BSM) และระบบช่วยเตือนรถขณะถอย (RCTA) รวมทั้งระบบโซนาร์ตรวจจับ Intelligent Clearance Sonar (ICS) ที่จะมาพร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินขณะถอย (RCTB)
นอกจากนี้จะมีถุงลมนิรภัย 10 ตำแหน่ง รวมทั้ง Toyota Star Safety System ที่จะมาพร้อมระบบควบคุมการทรงตัว (Enhanced Vehicle Stability Control), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control), ระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake-force Distribution), ระบบช่วยเสริมแรงเบรก (Brake Assist), ระบบเบรก ABS และระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Smart Stop Technology) โดยทุกรุ่นจะมีการติดกล้องมองหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกด้วย
สุดท้ายราคาขายในสหรัฐฯ มีการปรับขึ้นจาก Camry รุ่นปรับโฉมปี 2017 ประมาณ 800 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 27,000 บาท) หากเทียบในตัวล่างสุดของ All-New Camry ที่จะเริ่มต้นที่ 23,495 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 798,000 บาท) และในรุ่น XSE เครื่องยนต์ 3.5-liter ราคา 34,950 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 1.18 ล้านบาท) ส่วนรุ่นไฮบริดราคาอยู่ระหว่าง 27,800-32,250 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 945,000-1.09 ล้านบาท) โดยจะเริ่มต้นขายอย่างเป็นทางการเดือนกรกฎาคมนี้
เรื่อง : พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล : Toyota Media
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th