เปิดประวัติ Suzuki Bandit Series ตระกูลจอมโจรในตำนาน
Suzuki Bandit หนึ่งในตระกูลมอเตอร์ไซค์เนเคิดไบค์ของ Suzuki ในตำนานที่เคยสร้างชื่อให้กับค่ายตั้งแต่สมัยช่วง 20 ปีที่แล้ว โดยเริ่มผลิตมาตั้งแต่ปี 1989 โดยรหัสนำหน้าของ Bandit ก็คือ GSF แต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นรหัส GSX
ซึ่งอาจจะเกี่ยวพันกับขุมพลังใน Bandit รุ่นใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์และพื้นฐานเดียวกับ GSX แน่นอนว่าพื้นฐานใหม่นี้จะไม่เหมือนกันรหัส GSF ที่เคยใช้แน่นอน
ย้อนกลับไปปี 1989-1995
สตรีทเนเคิดไบค์ GSF250 และ GSF400 ได้เปิดตัวเมื่อปี 1989 ตัวรถใช้เครื่องยนต์เดียวกับ GSX-R250 และ GSX-R400 เป็นขุมพลัง 4 สูบเรียง (45 แรงม้า / 59 แรงม้า) ระบายความร้อนด้วยน้ำ โครงสร้างแบบ steel trellis frame และโช้คหลังเดี่ยว นอกจากนี้ยังมีโมเดล Limited Edition โดดเด่นด้วยแฟริ่งสไตล์เรโทร พร้อมสัญลักษณ์ ‘N’ บนแฮนด์บาร์แบบ clip-on
ปี 1989-1991
GSF400V ค่อนข้างที่จะจดจำง่าย สังเกตจากโช้คหน้าที่เป็นสีน้ำตาลดำและเห็นอีกครั้งในเวอร์ชั่นปี 1992 แต่แตกต่างกันเพียงดิสเบรคเท่านั้นที่ดีไซน์ต่างกัน
ปี 1991-1995
จัดว่าเป็นยุคทองของ Bandit Series โดยเฉพาะ GSF600 ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มากับขุมพลัง 4 สูบเรียง 77 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 54 นิวตันเมตร เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ GSX-F600 แต่ถูกปรับจูนให้มีแรงบิดมากขึ้นในช่วงความเร็วกลาง ส่วนเครื่องยนต์ของ GSF250 แรงม้าถูกตอนลงมาเป็น 40 ตัว และ GSF400 ด้วยเช่นกัน มีแรงม้าเพียง 53 ตัว
ปี 1995-2002
GSF1200 ราชาบิ๊กไบค์แบบฮาล์ฟแฟริ่ง เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 1996 แต่มีไม่กี่คันที่จดทะเบียนไปในปี 1995 เครื่องยนต์ความจุ 1,175 ซีซี เป็นตัวเดียวกับ GSX-R1100 แต่นำมาอัพเกรดใหม่ให้มีพละกำลังที่มากขึ้นถึง 98 แรงม้า พร้อมแรงบิด 91.7 นิวตันเมตร มีมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบกันสะเทือนคุณภาพสูง คลัทช์ไฮดรอลิก ดิสก์เบรคหน้าขนาดใหญ่และเกียร์ 5 สปีด
GSF600S สปอร์ตฮาล์ฟแฟริ่ง เปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิปี 1995 ช่วงนี้จัดว่ามีการแข่งขันที่รุนแรงโดยเฉพาะกับ Honda Hornet 600 และ Yamaha FZS 600 Fazer หรือแม้กระทั่งพี่น้องในไส้อย่าง Suzuki SV600 ขุมพลัง 2 สูบ
GSF600 ในยุคปี 2000 มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ดีไซน์บั้นท้ายใหม่, ระบบอิเล็กทรอนิกส์ครบเซ็ท, คาร์บูเรเตอร์ใหม่พร้อมเซ็นเซอร์ตำแหน่งคันเร่ง, เพิ่มกรองเชื้อเพลิง, คาลิปเปอร์ Nissin, ถังเชื้อเพลิง 20 ลิตร (ของเดิม 19 ลิตร), การปรับปรุงเฟรมและมุมองศาบังคับเลี้ยว, ความสูงที่นั่งลดลง, ในโมเดล S : ฮาล์ฟแฟริ่งสไตล์โมเดิร์นพร้อมไฟหน้าคู่
GSF1200S เวอร์ชั่นปี 2000 สปอร์ตฮาล์ฟแฟริ่ง ที่เน้นใช้งานในด้านการเดินทางท่องเที่ยวระยะไกล ช่วงล่างถูกจูนให้มีความสปอร์ต แต่ขับขี่สบาย เปลี่ยนจากเบาะนั่งตอนเดียวให้เป็นแบบสองตอน
ปี 2000-2005
ในช่วงนี้มอเตอร์ไซค์เปลือยได้รับความนิยมสูงมาก GSF600S ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีความคุ้มค่าในการใช้งาน ด้วยพละกำลัง 80 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ 6 สปีด ถือว่าเป็นรถที่สร้างรอยยิ้มและช่วยพัฒนาฝีมือการขับขี่ให้กับนักบิดทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ได้เป็นอย่างดี ตัวรถมีเส้นสายตัวถังคมชัดมากขึ้น เพิ่มตัวอักษร ‘S’ บนตัวแฟริ่ง หน้ากากมาพร้อมกับไฟคู่หน้าและชิลด์บังลมใหม่ตัดลมได้ดีขึ้น ตัวรถมีน้ำหนักเบาทำให้ง่ายต่อการขับขี่
GSF1200 เวอร์ชั่นปี 2001 สามารถหาของแต่งจำพวก ฮาล์ฟแฟริ่ง ชิลด์บังลมหน้า และแร็คสำหรับขนสัมภาระได้ ไฟหน้าดูทันสมัยมากขึ้น ส่วนด้านเทคนิคก็มีการอัพเดทเล็กน้อย เช่น องศาความเอียงของแกนหมุนที่คอ (มุม Rake) ลดลง ระยะเทรลลดลง (Trail : ระยะที่วัดจากจุดสัมผัสพื้นของยางหน้าไปจนถึงตำแหน่งของเส้นตรงที่ลากจาก แนวแกนคอจนถึงพื้น) และฐานล้อสั้นลง ส่วนระบบกันสะเทือนนำมาปรับปรุงใหม่ คาลิปเปอร์เบรคใหม่ และถังเชื้อเพลิงมีมีความจุมากขึ้น ส่วนในเวอร์ชั่นปี 2002 จะมากับท่อไอเสียสแตนเลส ปรับปรุงระบบไอเสียใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมตามข้อบังคับใน California ยุคนั้น
ปี 2005-2008
GSF650 และ GSF650S ปี 2006 มีมิติดูใหญ่ขึ้น ความจุขยับขึ้นไปแตะในกลุ่ม 650 ซีซี ใส่เพลาลูกเบี้ยวใหม่ ลูกสูบใหม่ สามารถทำแรงม้าสูงสุด 77 ตัว และแรงบิด 58.7 นิวตันเมตร ท่อไอเสียมีเสียงเร้าใจมากกว่าเดิม ตัวเฟรมถูกปรับแต่งใหม่ให้สามารถติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่เข้าไปได้ ทำให้มีความเข็งแรงและควบคุมรถได้ดีขึ้น เครื่องยนต์ประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การใช้งานในเมืองหรือเดินทางไปเมืองใกล้มีความสนุกสนานตลอดเส้นทาง
GSF650 และ GSF650S ปี 2007 เครื่องยนต์ตามมาตรฐาน Euro3 (all-aluminium) หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์, ระบบลิ้นปีกผีเสื้อแบบ dual (คล้ายกับ Suzuki GSX-R และ V-Strom), เฟรมมีตวามแข็นแรงขึ้น 10%, สวิงอาร์มยาวขึ้น, โช้คหลังหนึบ โช้คหน้านุ่ม, เครื่องยนต์ 85 แรงม้า @ 10,500 รอบ/นาที (เรดไลน์ 12,500 รอบ), คลัทช์ไฮดรอลิค, น้ำหนักมากขึ้น 14 กิโลกรัม
GSF1250 และ GSF1250S ผลิตออกมาเพื่อสนองตลาดในบางประเทศเท่านั้นโดยเฉพาะประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1,254.8 ซีซี DOHC ทำพลังสูงสุด 98 ซีซี มีแรงบิด 108 นิวตันเมตร ในรอบต่ำเพียง 3,700 รอบ นอกจากนี้ยังมีรุ่น GSF1250SA แต่แตกต่างกันที่ระบบความปลอดภัยที่ดีกว่า รวมถึงระบบเบรค ABS ส่วนเครื่องยนต์ก็เป็นตัวที่ใหม่กว่า วาล์วปีกผีเสื้อใหม่ ช่องกรองไอเสียใหม่ ปรับปรุงดีไซน์ตัวรถใหม่รวมถึงโครงสร้างที่กะทัดรัดมากขึ้น
ปี 2008-2009
GSF1250SEA ABS มอเตอร์ไซค์สปอร์ตทัวร์ริ่งที่จำหน่ายเฉพาะใน Canada ใช้พื้นฐานเดียวกับ GSF1250S แต่มีแฟริ่งที่ใหญ่กว่าช่วยให้รถมีความสามารถป้องกันลมมาปะทะผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการเดินทางไกลเต็มรูปแบบมากที่สุด
GSF650SA ได้รับการออกแบบใหม่ ถูกหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น ไฟหน้าปรับสูง-ต่ำได้ ในแบบสไตล์ GSX-R นอกจากรูปลักษณ์ใหม่ที่ดูดีกว่าเก่าแล้ว GSF650SA ยังมีฟีเจอร์ช่องเก็บของมาให้อีกด้วย เช่นเดียวกับ GSF650 รวมถึงกระจกส่องหลังดีไซน์ใหม่ ไฟท้ายแบบสลิมและเสียงท่อไอเสียลดลง
GSX650F ผลิตออกมาเมื่อปี 2008 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของรุ่น Bandit 650 ทั้งสเปคและส่วนประกอบต่างๆ แต่ยังคนใช้แชสซีของ Bandit ส่วนแฟริ่งออกแบบมาให้ดูสปอร์ตเหมือนกับ GSX-R ด้านเครื่องยนต์ปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ช่วงล่าวเซ็ทอัพให้หนึบขึ้น เบาะนั่งแบบตอนเดียว
GSF1250GT มีหน้าตาออกแบบใหม่คล้ายกับ GSF650SA ความพิเศษด้วยฟูลแฟริ่ง เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 1,255 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีกระบอกสูบxช่วงชัก อยู่ที่ 79.0 มม x 64.0 มม โดยในโมเดลปี 2009 จะชุบด้วย “Composite Electrochemical Material” ของ Suzuki และเพลาถ่วงดุล จะทำให้การขับขี่สมูทขึ้น และเพิ่ม กระเป๋าขนสัมภาระ และระบบนำทาง Garmin Zumo เพียงเพิ่มเงินจากโมเดล Standard ABS เพียง 1,500 ปอนด์
GSF1250 Streetfighter เพิ่มฟีเจอร์เด่นด้วยแฮนด์บาร์จาก Renthal ท่อไอเสีย Yoshimura และเบานั่งเดี่ยว
ปี 2010-2015
GSX1250FA โมเดลปี 2010 มีรูปโฉมที่โดดเด่น ดุดันขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการออกแบบที่มีกลิ่นอายของ Hayabusa อยู่ด้วย เห็นได้ชัดจากช่องรับลมด้านหน้า และจะเห็นดีไซน์แบบนี้บ่อยขึ้นในโมเดล GSX650F
เครื่องยนต์ 4 สูบ ระบบหัวฉีดของ GSX1250FA สามารถให้การขับขี่ที่สนุกและน่ากลัว ไม่เหมาะกับมือใหม่หรือคนที่ไม่มีประสบการณ์ขับขี่มาก่อน ตัวรถมีดีไซน์ที่ดีที่สุดในด้านอากาศพลศาสตร์
ในรุ่นสแตนดาร์ด GSX1250A และโมเดล GSX1250SA สีของเครื่องยนต์จะเป็นสีดำ และในปี 2011 GSX1250FA ได้เปิดตัวในสหรัฐฯ
ในปี 2015 เปิดตัว GSF1250SA มาในสไตล์ฮาล์ฟแฟริ่ง ป้องกันบริเวณหม้อน้ำและเพิ่มช่องระบายอากาศบริเวณใต้ไฟหน้า ช่วนให้อากาศไหลเวียนดีขึ้น
ปี 2016-ปัจจุบัน
GSF1250S ABS มีอัตราเร่งที่สนุกในทุกเกียร์ด้วยความเร็วสูงไมจนถึงเรดไลน์ เพื่อการควบคุมที่แม่นยำและการขับขี่ที่ดีในทุกสภาพถนน ตัวรถได้เซ็ทอัพระบบกันสะเทือนออกมาให้สมดุลทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงติดตั้งระบบเบรค ABS ช่วยหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของ 2018 GSX150 Bandit เป็นโมเดลแรกในตระกูล Bandit ที่ใช้เครื่องยนต์สูบเดี่ยว ไม่เหมือนโมเดลอื่นๆ ก่อนหน้านี้ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง เปิดตัวครั้งแรกภายในงาน 2018 Gaikindo Indonesia International Auto Show ผลิตขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการในตลาดอินโดนีเซีย ที่ชอบมอเตอร์ไซค์ที่มีความคล่องตัวสูง โดยตัวรถใช้พื้นฐานของรุ่น GSX-S150 (เช่นเดียวกับสปอร์ตไบค์ GSX-R150) ปรับเปลี่ยนไฟหน้า ไฟท้าย รวมถึงปรับปรุงแชสซีเพื่อให้เบาะนั่งต่ำลง ขับขี่ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th