เปิดศึกระหว่าง Grab Taxi กับ Uber
เชื่อว่าทุกคนต้องเคยใช้บริการแท๊กซี่เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางกันทั้งนั้น แต่คงจะไม่ง่ายเท่าไหร่กับการเรียกหรือโบกแท๊กซี่ตามริมถนนหรือป้ายรถเมล์ เพราะมักจะต้องเจอกับปัญหาแท๊กซี่ที่ไม่รับผู้โดยสาร ซึ่งจะมีคำพูดที่ติดปากที่มาพร้อมโชเฟอร์แท๊กซี่นั่นก็คือ “ไปเติมแก๊สครับ/ค่ะ, ไปส่งรถครับ/ค่ะ” เป็นต้น บางทีอาจจะเจอมารยาทแย่ๆ หรือหนักที่สุดคือทำตัวเยี่ยงโจรก็ได้ ซึ่งบางทีก็ต้องเดินออกไปแบบร้อนๆ หรือต้องเสียเวลายืนรอแท๊กซี่เป็นระยะเวลานาน ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าแท๊กซี่คันที่เราโบกจะรับ-ส่งเราหรือเปล่า??? และถ้าโดนปฏิเสธแล้วละก็…..ถึงกับเซ็งอย่างแน่นอนคะ
ซึ่งด้วยปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องใช้บริการแท๊กซี่อยู่เสมอ และเมื่อมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ ทุกคนก็ล้วนต่างใช้แอพฯ เรียกแท๊กซี่ไม่ว่าจะเป็น Grab Taxi ซึ่งเป็นแอพฯ จากมาเลเซีย หรือบางคนก็เรียกรถส่วนตัวอื่นๆ ที่เรียกกันว่า Uber เป็นแอพฯ จากสหรัฐอเมริกานั่นเองคะ และการใช้บริการผ่านแอพฯ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีการให้สัมภาษณ์กับผู้ใช้บริการทั้งสองแอพฯ (ใช้บริการมากกว่า 8 ครั้งขึ้นไป) ซึ่งผู้ใช้บริการมีตั้งแต่ โปรแกรมเมอร์ นักเขียน จนไปถึงบรรณาธิการที่ต้องกลับบ้านดึกบ่อยๆ วันนี้เรามีผลสำรวจในการใช้บริการระหว่าง Grab Taxi กับ Uber แบบไหนดีกว่ากันคะ ไปดูกันเลยคะ
ยกที่ 1 จากผลสำรวจ “ความง่ายของการใช้แอพฯ” ส่วนใหญ่โหวตไปที่ Uber ให้ชนะอย่างขาดลอยไปเลยจ๊ะ เพราะใช้งานง่ายกว่า สามารถกดเรียกได้ทันที ไม่เหมือน Grab Taxi ที่ต้องบอกจุดหมายปลายทางของเรา และไม่ต้องกดหลายขั้นตอน (นี่เป็นความเห็นของคนที่ทำหน้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์ที่จะรู้สึกเป็นพิเศษว่า Uber ใช้ง่ายกว่ามาก)
ยกที่ 2 จากผลสำรวจ “จำนวนของรถ (ถ้าเรียกแล้วมีรถมาหรือไม่???)” คนส่วนใหญ่ก็เทคะแนนไปที่ Grab Taxi เพราะมีจำนวนรถมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็จะเจอปัญหานั่นก็คือ Grab Taxi สามารถเลือกรับผู้โดยสารได้ แม้ผู้ใช้แอพฯ จะเห็นว่ามีรถแสดงในแอพฯ เยอะมากก็ตามแต่
ยกที่ 3 จากผลสำรวจ “คนขับและการให้บริการ” ค่อนข้างจะเป็นเอกฉันท์ว่า คนขับ Uber บริการดีกว่า Grab Taxi เพราะเนื่องจากระบบนำทางของ Uber ในแอพฯ มันดีกว่า ทำให้คนขับไม่ต้องมาคอยถามทางกับผู้โดยสาร
ยกที่ 4 คือเรื่อง “ราคา” นั่นเองคะ นี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการคำนวณ ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์ไมโครซอฟท์เอ็กเซลแห่งปะเทศไทยเชียวนะ มาช่วยพล็อตกราฟเพื่อคิดราคาให้ดูกันจะๆ ว่าแอพฯ ไหนถูกกว่า
ผลสำรวจนั่นก็คือ ถ้ารถไม่ติดก็ต้องเทคะแนนไปที่ UberX หรือ Grab Taxi (ต่างกันไม่เกิน 10 บาท) แต่ถ้ารถติดก็ต้องเรียก Grab Car โล๊ดคะ เรียกได้ว่าจะเรียกแบบไหนก็ไม่เท่ากัน ถือว่ายกนี้เสมอไปก็แล้วนะคะ
ยกที่ 5 เป็นผลสำรวจ “บริการเสริม” แปลกใจใช่ไหมว่าอะไรคือบริการเสริม แล้วมันมีด้วยเหรอ??? เพราะคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้แคร์กับเรื่องบริการเสริมบนรถแท๊กซี่กันอยู่แล้ว เช่น บริการน้ำดื่ม แต่เรื่องนี้ก็ต้องยกให้ Grab Taxi คะ
มาถึงยกสุดท้ายแล้ว นั่นก็คือ “การต่อเวลา” เรื่องนี้ต้องยกความชนะไปที่ Uber เพราะเนื่องจากมันเป็นระบบบังคับให้รถต้องรับผู้โดยสารที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยอัตโนมัติแบบปฏิเสธไม่ได้ ไม่วามารุเลือกรับผู้โดยสารได้ จึงทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่าการใช้บริการ Uber ชัวร์กว่า อารมณ์แบบไม่ต้องง้อแท๊กซี่อีกต่อไป และอีกอย่างเราไม่จำเป็นต้องใส่จุกหมายปลายทาง ซึ่งจะรู้สึกว่าอิสระในการเดินทางมากกว่าเยอะ
โดยผลสรุปทั้งหมด 6 ยก ผู้ที่ชนะนั่นก็คือ Uber นั่นแองคะ นี่เป็นเพียงกลุ่มที่ใช้ทั้งสองแอพฯ อย่างจริงจังนะคะ แล้วเพื่อนคนอื่นคิดเหมือนกันหรือเปล่า หรือบางคนอาจจะมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ได้ อย่างไรก็ตามเพื่อนก็ใช้บริการตามที่เราถนัดหรือตามความพึงพอใจของตัวเองที่สุดนะจ๊ะ
เรื่อง : วีรณัฐ ภิรมย์ลาภา
ขอบคุณบทความจาก minimore.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th