เมอร์เซเดส-เบนซ์ บุกงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 39 เปิดตัว The new CLS
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวรถยนต์รุ่นที่ 3 ในตระกูล CLS อย่าง The new CLS 300 d AMG Premium สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและดีไซน์ อันงดงามที่จะช่วยเสริมรากฐานและเอกลักษณ์ของรถยนต์ตระกูลนี้ให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น พร้อมสามารถตอบโจทย์ความต้องการทั้งในด้านสมรรถนะและสุนทรียะในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี โดยรถยนต์รุ่นนี้ได้มีการปรับรูปลักษณ์ให้มีความเรียบง่ายขึ้น แต่ยังแฝงไปด้วยความเร้าอารมณ์และกลิ่นอายความคลาสสิกเหนือกาลเวลาของรถยนต์ CLS รุ่นแรก ที่เป็นเสมือนภาพต้นแบบของรถยนต์คูเป้แบบ 4 ประตูของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยทุกองค์ประกอบของรถยนต์สอดรับกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์แบบตามหลักปรัชญาด้านการออกแบบSensual Purity ที่ทางบริษัทฯ ยึดถือ เสมอมา
ดีไซน์ภายนอก ของ The new CLS 300 d AMG Premium มีจุดเด่นอยู่ที่กระจังหน้าแบบ diamond-pattern grille ที่มีเส้นตัดแบ่งเส้นเดียวอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์แบบคูเป้ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมเส้นสายที่ดูกว้างและมีลักษณะทอดตัวลงไปที่พื้น คล้ายกับลักษณะของ Mercedes-AMG GT รูปทรงของไฟหน้าที่ดูราบเรียบไปกับตัวถังยังได้รับการออกแบบให้มีเหลี่ยมมุมสอดรับกับเส้นสายบริเวณกระจังหน้าอย่างลงตัว ด้านข้างตัวรถเสริมความสง่าด้วยลายเส้นที่อยู่สูงและลากเป็นวงโค้งตลอดคันรถ พร้อมมีการใช้เส้นสายที่ดูแข็งแกร่งบริเวณตัวถังเหนือล้อคู่หลังที่ค่อยๆ ทอดต่ำลงและผสานเข้ากับฝากระโปรงหลังที่มีลักษณะราบเรียบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อีกประการหนึ่งของรถยนต์ตระกูล The CLS นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด – ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, กันชนหน้า – หลัง และสเกิร์ตดีไซน์สปอร์ตจาก AMG, สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์เบรก, ล้ออัลลอยสปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19″ อีกทั้งยังมีชุดไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารของ The new CLS 300 d AMG Premium นั้นหรูหราเรียบง่ายแต่เพิ่มความพิเศษด้วยการติดตั้งไฟประดับที่ช่องลมของเครื่องปรับอากาศ เพื่อเสริมรูปลักษณ์ของช่องลมที่ดูคล้ายเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ทให้ดูโดดเด่นและสวยงามมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมลูกเล่นด้วยการเปลี่ยนสีเมื่อมีการปรับอุณหภูมิโดยการกระพริบเป็นเวลาสั้นๆ เป็นสีแดงเมื่อมีการปรับอุณหภูมิให้อุ่นขึ้นและเป็นสีฟ้าเมื่อปรับอุณหภูมิให้เย็นลง รวมถึงการออกแบบแผงหน้าปัดสำหรับผู้ขับขี่แบบดิจิตอล ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลของแผงหน้าปัดได้ 3 แบบ เพื่อให้เหมาะกับความรู้สึกขณะขับขี่ หรือให้เข้ากับการตกแต่งภายในห้องโดยสาร โดยรูปแบบการแสดงผลทั้ง 3 แบบประกอบไปด้วยแบบคลาสสิก สปอร์ต และโปรเกรสซีฟ โดยแบบคลาสสิกและแบบสปอร์ตจะมีมาตรวัดจำนวน 2 ตัว ในขณะที่แบบโปรเกรสซีฟจะมีมาตรขนาดใหญ่ตรงกลางและมีมาตรวัดขนาดเล็กอยู่ข้างใน
นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้มีการออกแบบเบาะที่นั่งสำหรับรถยนต์ตระกูลซีแอลเอสรุ่นใหม่โดยเฉพาะ พร้อมปรับการจัดวางเบาะที่นั่งของ The new CLS เป็นแบบ 5 ที่นั่งเป็นครั้งแรก โดยวัสดุหุ้มเบาะและฝีเข็มสำหรับทั้งเบาะที่นั่งคู่หน้าและเบาะที่นั่งตอนหลังที่อยู่ในตำแหน่งตรงกับเบาะที่นั่งตอนหน้าถูกจัดวางให้เหมือนกันทุกประการ เพื่อสร้างความรู้สึกให้คล้ายกับรถสปอร์ต 1 ที่นั่ง เบาะที่นั่งตอนหลังยังสามารถพับลงแบบ 40/20/40 ได้เพื่อขยายความจุของกระโปรงหลังที่มีความจุสูงถึง 520 ลิตร, เบาะที่นั่งคู่หน้าสามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ, พวงมาลัยพาวเวอร์แบบมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัด ที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถด้วยระบบไฟฟ้า หุ้มหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control, ระบบ AUDIO 20 GPS และหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้วต่อกัน 2 จอ, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad, กาบบันไดเรืองแสงพร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต อีกทั้งยังสามารถเลือกสีของไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารได้ถึง 64 สี (Premium ambient lighting)
ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี โดดเด่นด้วยระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่อันหลากหลาย ซึ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงการขับขี่แบบเร้าใจหรือการขับขี่แบบนุ่มสบายตลอดการเดินทางได้ในคันเดียว โดย DYNAMIC SELECT มีโหมดการขับขี่ 5 แบบ คือ ECO ที่ช่วยปรับการขับขี่เข้าสู่ระบบประหยัดน้ำมัน, INDIVIDUAL ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้, COMFORT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน, SPORT เน้นการเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น และ SPORT+ ซึ่งเป็นโหมดที่สามารถใช้สมรรถนะเครื่องยนต์ได้สูงที่สุด และอัตราเร่งดีที่สุด, ระบบกุญแจ KEYLESS-GO พร้อม HAND-FREE ACCESS, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display), ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2-Zone, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist), ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System), ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist), ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC), ระบบนำทาง (navigation system), ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® Surround Sound System, ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple Carplay & Android Auto และระบบ Bluetooth สำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่
The new CLS 300 d AMG Premium มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-TRONIC และระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering – wheel Gearshift Paddles) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รุ่น | เครื่องยนต์ | ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) | แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที) | แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที) |
อัตราเร่ง
0-100 กม./ชม. (วินาที) |
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.) |
CLS 300 d AMG Premium | ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ พร้อมเทอร์โบคู่ และอินเตอร์คูลเลอร์ | 1,950 | 245 / 4,200 | 500 / 1,600 – 2,400 | 6.4 | 250 |
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th