เหตุผลประหลาดที่ รถหรู ระดับ High-End ถูกจอดทิ้งร้างในประเทศดูไบ

ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในตะวันออกกลาง แม้เศรษฐกิจประเทศไหนจะตกต่ำ น้ำมันประเทศไหนจะแพง ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เศรษฐกิจยังคงแข็งแรงดั่งเดิม แต่อย่างไรก็ตามประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็มีปัญหาทั่วๆไปเหมือนกับประเทศอื่น เช่น ปัญหาความยากจน ค่าครองชีพที่สูง รวมไปถึงปัญหาที่น่าประหลาดใจหลายๆอย่าง

หนึ่งในปัญหาที่แปลกประหลาดของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยเฉพาะในเมืองดูไบคือปัญหา รถยนต์หรูระดับไฮเอนด์ที่ถูกทิ้งร้างอยู่ในลานจอดรถของสนามบินเป็นจำนวนมาก และไม่ใช่แค่ BMW , Mercedes Benz ที่ถูกจอดทิ้งร้างให้ฝุ่นเกาะเท่านั้นนะ แต่ Ferraris และ Porsches ที่มูลค่ากว่าล้านเหรียญก็ถูกจอดทิ้งด้วย แล้วเหตุผลอะไรที่ทำให้ชาวดูไบถึงเอารถหรูราคาแพงไปจอดทิ้งกันนะ

หลายคนคงจะคิดละซิว่า นี่ชาวดูไบร่ำรวยถึงขนาดซื้อรถมาขับพอเบื่อก็จอดทิ้งให้ฝุ่นเกราะเลยหรอ แต่!! คำตอบที่แท้จริงไม่ใช่อย่างที่หลายคนคิด เพราะรถหรูที่จอดทิ้งเหล่านี้เป็นผลมาจากหนี้สินของเจ้าของรถ ซึ่งส่วนมากพวกเขาไม่ใช่คนในประเทศแต่เป็นคนจากประเทศอื่นที่เข้ามาทำธุรกิจจนร่ำรวยและใชชชีวิตฟุ่มเฟื่อยขึ้นจนพาตัวเองล้มละลาย โดยประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่มีกฎหมายคุ้มครองบุคคลล้มละลาย หากผู้ใดมีหนี้สินเกินกว่าจะชดใช้ได้จะถูกต้องโทษจำคุกทันที

สิ่งที่ทำให้รู้ว่าทำไมเจ้าของรถหรูเหล่านั้นคือบุคคลล้มละลายเพราะหลักฐานเอกสารหนี้สินที่อยู่บนรถซึ่งรถหลายคันยังเสียบกุญแจคาทิ้งไว้อยู่เลย สงสัยคงจะรีบหนีออกนอกประเทศเพื่อที่จะไม่โดนโทษจำคุกจากภาระหนี้สิน

แล้วจะทำยังไงกับรถพวกนี้ดีล่ะ หลายคนคงสงสัยใช่ไหม เมื่อตำรวจค้นพบรถที่ถูกจอดทิ้ง พวกเขาจะออกประกาศแจ้งเตือนหาเจ้าของรถ ถ้าเจ้าของไม่ปรากฏตัวหลังจากผ่านไป 15 วัน รถจะถูกยึด แต่รถที่ถูกยึดมาก็มักจะไม่มีเจ้าของออกมายืนยันสิทธิ ก็แน่ละสิพวกเขาออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งถ้าพ้น 15 วันไปแล้ว ตำรวจจะนำรถที่จอดทิ้งไว้มาประมูล แต่บุคคลล้มละลายก็ดูเหมือนจะไม่มีการชะลอตัวเลยเพราะโดยเฉลี่ยแล้วตำรวจจะพบรถจอดทิ้งไว้มากกว่า 3,000 คันต่อปี