เอ็มจีซี-เอเชีย เปิดโร้ดแม็พขยายธุรกิจสู่ระดับเอเชีย-ตั้งบริษัทใหม่ลุยดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง
บริษัทมาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย เปิดโรดแม็พขยายโครงข่ายธุรกิจทั้งในประเทศ และระดับอาเซียน เพื่อต่อยอดความสำเร็จจากปี 2560 เตรียมดึงผู้บริหารประสบการณ์สูงจากเอเจนซีชั้นนำกุมบังเหียนบริษัทดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งใหม่ เพื่อขยายเครือข่าย และพันธมิตรทางธุรกิจสู่ดิจิตอลแพลตฟอร์มเต็มรูปแบบ
ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัทเอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเผยว่า “ปีนี้เป็นอีกปีแห่งความท้าทายของบริษัท จากการที่เอ็มจีซี-เอเชีย ได้กำหนดเป้าหมายวิสัยทัศน์ 2020 หรือ Vision 2020 เพื่อมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ในประเทศไทย และอาเซียน จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมาทางบริษัทได้วางรากฐานของการเติบโตในธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ในทุกด้าน เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน โดยปี 2560 ตัวเลขรายได้รวมของกลุ่มบริษัทยังคงประสบความสำเร็จที่ระดับ 22,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจรถยนต์ใหม่ประกอบด้วยรถยนต์ยุโรป และญี่ปุ่น 80 เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจรถเช่า 8 เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจอาฟเตอร์มาร์เก็ต 2 เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจให้คำปรึกษา และการบริการด้านประกันภัยครบวงจร 1 เปอร์เซ็นต์ และธุรกิจภาพรวมอื่นในสัดส่วน 9 เปอร์เซ็นต์ อาทิธุรกิจรถเช่ารถมือสอง ศูนย์ฝึกอบรม รวมถึงเทคโนโลยี และสาระสนเทศ”
“ปี 2560 เอ็มจีซี-เอเชีย ได้เปิดให้บริการโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเมกะโปรเจ็กต์อย่างเป็นทางการ เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ ภูเก็ต ประกอบด้วย โชว์รูมโรลส์-รอยซ์ แอสตัน มาร์ติน เรือยอทช์อะซิมุท บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ รถยนต์มือสอง รวมถึงศูนบริการซ่อมสี และตัวถังครบวงจรใช้งบลงทุนกว่า400 ล้านบาท และยังมีแผนลงทุนต่อเนื่อง โดยช่วงต้นปี 2561 บริษัทได้ทำการเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเมกะโปรเจ็กต์อย่างเป็นทางการ เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ หาดใหญ่ ประกอบด้วยโชว์รูม บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ฮอนด้า มอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และฮาร์ลีย์-เดวิดสัน รถยนต์มือสอง รวมถึงศูนย์บริการซ่อมสี และตัวถังครบวงจรใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท รวมทั้งการเปิดบีเอ็มดับเบิลยู มิลเลนเนียม ออโต้ สตูดิโอ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี”
“ขณะเดียวกันได้เติมเต็มศักยภาพการเป็นผู้นำในธุรกิจสินค้าระดับลัคชัวรี่ส์เซ็กเมนต์ให้สมบูรณ์ ด้วยการเพิ่มแบรนด์สินค้าสู่กลุ่มธุรกิจรถใหม่คือ มาเซราติ รถยนต์อัลตร้าลัคชัวรี่จากประเทศอิตาเลียน พร้อมกันนี้ได้ทำการเสริมไลน์ธุรกิจของกลุ่มธุรกิจทั้ง 8 ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อเติมเต็มศักยภาพในการเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจสินค้าระดับลักชัวรี่ส์เซ็กเม้นต์ให้สมบูรณ์ ด้วยการเพิ่มแบรนด์สินค้าสู่กลุ่มธุรกิจรถใหม่คือบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และฮาร์ลีย์-เดวิดสัน โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดรถยนต์ และบิ๊กไบค์ของไทยในอนาคตอันใกล้ และสำหรับปี 2561 บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตของกลุ่มธุรกิจรถยนต์ใหม่ของบริษัทไว้ที่ 12,500 คัน หรือคิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์”
ดร.สัณหวุฒิ กล่าวต่อไปว่า“สำหรับนโยบายของกลุ่มบริษัทเอ็มจีซี-เอเชีย ในปี 2561 ได้เตรียมแผนลงทุนเพื่อขยายความครอบคลุมของกลุ่มธุรกิจทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทั่วประเทศ โดยมีงบลงทุนเบื้องต้นกว่า 2,000 ล้านบาท นอกจากนั้นบริษัทก็มีแผนที่จะเป็นพันธมิตรกับคู่ค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่องอาทิ กลุ่ม TUNAP ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงรักษารถยนต์ระดับโลก”
นอกจากการสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจในกลุ่มต่างๆ ในปี 2561 เอ็มจีซี-เอเชีย ยังมุ่งมั่นในการรุกขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างจริงจัง โดยกลุ่มธุรกิจรถเช่าภายใต้แบรนด์ ซิกท์ และฟลีต มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล ยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจหลักในการขยายการลงทุนของเอ็มจีซี-เอเชีย สู่ภูมิภาคอาเซียน ซึ่งล่าสุดในปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และมาเลเซีย เป็นอย่างมาก โดยมีถึง 6 สาขาที่ประเทศมาเลเซีย และมีแผนขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นอีกทั้ง 2 ประเทศในอนาคตอันใกล้
พร้อมกันนี้ เอ็มจีซี-เอเชีย ได้นำระบบดิจิตอลมาผสมผสานการดำเนินธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น (Digital Platform) เพื่อมุ่งสู่การบริหารธุรกิจแบบดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต โดยทีมผู้บริหารจากบริษัทโฆษณาชั้นนำมาเสริมทัพ พร้อมเริ่มนำระบบ Virtual Showroom มาเปิดประสบการณ์ใหม่ครั้งแรกในตลาดรถยนต์เมืองไทย เพื่อให้ลูกค้าได้ชมโชว์รูมเสมือนจริงก่อนตัดสินใจซื้อ เป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยนำมาใช้เป็นแห่งแรกที่เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ หาดใหญ่
ขณะเดียวกันก็เน้นการเสนอสิทธิพิเศษสำหรับกลุ่มลูกค้าผ่านแอพลิเคชั่นบนมือถือ (Privilege App) รวมไปถึงพัฒนาสู่การใช้โบรชัวร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Brochure) และการพัฒนาระบบการบริการลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น (Enhanced Customer Online Service) โดยก่อนหน้านี้บริษัท ได้นำร่องใช้ในส่วนช่องทางการบริการด้วยการแนะนำแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย การรับรู้ข่าวสาร รวมถึงรับบริการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อนำรถเข้าซ่อมให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และล่าสุดได้มีการนำระบบ 4-Digit Call Center โทร 1286 มาใช้ในส่วนงานมิลเลนเนียมออโต้กรุ๊ป เพื่อเสริมประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างทั่วถึง
ปี 2561นับเป็นอีกก้าวสำคัญของกลุ่มบริษัท เอ็มจีซี-เอเชีย ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 18 ของการดำเนินธุรกิจในไทยโดยในปีนี้บริษัทฯ ได้มีการจัดตั้งมูลนิธิ ‘ธรรมชวนวิริยะ’ ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มจากเจตนารมณ์ของคุณวิวัฒน์ ธรรมชวนวิริยะ ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทเอ็มจีซี-เอเชีย ทั้งนี้เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวิถีการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืนสู่สังคมไทย และเพื่อเป็นการตอบแทนสังคม บริษัทได้จัดทำโครงการ CSR อย่างเต็มรูปแบบเริ่มจากโครงการสนับสนุน และส่งเสริมการพัฒนาทางด้านการศึกษาให้กับชุมชนรวมถึงการดูแลสุขภาพ และการพัฒนาปัจจัย พื้นฐานแก่พนักงานในองค์กร
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: MGC-ASIA
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th