‘แซมสัน ฉั่ว’—พร้อมนำซูบารุ ประเทศไทย ก้าวสู่ทิศทางใหม่
เมื่อไม่นานนี้ระหว่างงานเปิดตัวรถรุ่นพิเศษ Subaru Forester 2.0i-S ทีมงานกรังด์ปรีซ์ มีโอกาสสนทนากับแซมสัน ฉั่ว ผู้จัดการทั่วไปคนใหม่ของทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) เกี่ยวกับแผนงานในอนาคต, การสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้าชาวไทย และการปรับเปลี่ยนภาพจำของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงจากสนามแข่งแรลลี่มาสู่เซกเม้นต์รถเอสยูวีแบบครอบครัว…
Q: จะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรกับซูบารุ หลังจากโรงงานผลิตแห่งใหม่ในประเทศไทยมูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 5.1 พันล้านบาท) เริ่มต้นการผลิตอย่างเป็นทางการในปี 2019
แซมสัน ฉั่ว: “โรงงานแห่งใหม่ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างตันจง กรุ๊ป กับซูบารุ คอร์เปอเรชั่น ตามแผนการในตอนนี้คือประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์รุ่นฟอเรสเตอร์ โดยมีกำลังการผลิต 10,000 คันต่อปี ขณะที่โรงงานในมาเลเซียจะเป็นฐานการผลิตรุ่นเอ็กซ์วีตามเดิม เราต้องการสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาคุณภาพการผลิตที่ยอดเยี่ยมของรถยนต์ซูบารุ อย่างที่ลูกค้าทุกคนคาดหวัง”
“เหนืออื่นใดเราต้องการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด นั้นคือเหตุผลที่เราเลือกที่จะให้ความสำคัญกับฟอเรสเตอร์ เพียงรุ่นเดียวในระยะแรกของการดำเนินงานผลิตที่ประเทศไทย อย่างไรก็ตามมีโอกาสสูงที่โมเดลถัดไปที่จะผลิตในประเทศไทยจะเป็นเอ็กซ์วี ทั้งหมดขึ้นอยู่กับยอดขายเป็นหลัก เพราะเราต้องดูความคุ้มค่าทางธุรกิจ รวมทั้งการเติบโตของยอดขายรถยนต์ซูบารุในประเทศแถบนี้ก็มีส่วนในการกำหนดแผนการผลิต”
Q: อยากทราบถึงมุมมองของคุณที่มีต่อตลาดรถยนต์เอสยูวีในประเทศไทยที่มีการแข่งขันสูงขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา?
แซมสัน ฉั่ว: “จากประสบการณ์ทำงานของผมในประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดของโลก และมีระดับการแข่งขันที่สูง โดยเฉพาะรถกลุ่มเอสยูวีที่พยายามเจาะกลุ่มลูกค้าชาย-หญิงวัยเริ่มต้นทำงานมากขึ้น ตอนนี้รถเอสยูวีไม่ได้ใช้เพื่อการเดินทางอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องรองรับการใช้งานที่หลากหลายของผู้คนในปัจจุบัน สำหรับในประเทศไทย ผมมองว่าเทรนด์ของรถเอสยูวีจะเพิ่มระดับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายที่เพิ่มเติมเข้ามา และอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น”
“เรายังมองถึงการเพิ่มทางเลือกในการออกโมเดลไฮบริดที่มีการปล่อยมลพิษต่ำ นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีของซูบารุ อยู่ในระดับที่สูงไม่แตกต่างจากคู่แข่ง หากมองในภาพรวมของตลาดประเทศไทย เราเชื่อมั่นว่าเอสยูวีเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีผู้คนมากมายที่เปลี่ยนมาใช้รถเอสยูวีหรือคิดที่จะเปลี่ยนมาใช้ ด้วยสมรรถนะการขับ และความเหมาะสมในการใช้งาน”
Q: อีกนานแค่ไหนที่เราจะได้เห็นรถยนต์ไฮบริดของซูบารุ ในประเทศไทย?
แซมสัน ฉั่ว: “ในขณะที่กำลังคุยกันอยู่ตอนนี้เรายังไม่มีแผนจะนำโมเดลไฮบริดเข้ามาขายในประเทศไทย เราต้องยึดตามไลน์อัพที่มีในปัจจุบัน และแผนการผลิตของโรงงานในภูมิภาคนี้ ความจริงทั้งโมเดลไฮบริดหรือรถยนต์ไฟฟ้าเป็นประเด็นที่ผมไม่สามารถออกความเห็นได้ แต่หากถึงเวลาที่เหมาะสมเราพร้อมจะนำโมเดลไฮบริดของซูบารุ เข้ามาสู่ตลาดเมืองไทยอย่างแน่นอน”
Q: คุณต้องทำอย่างไรเพื่อเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อซูบารุ จากรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงสร้างชื่อเสียงจากสนามแข่งขันแรลลี่มาสู่การเป็นรถยนต์เทรนดี้เอสยูวีสำหรับคนรุ่นใหม่?
แซมสัน ฉั่ว: “เป็นคำถามที่ดีมากครับ เมื่อหลายปีก่อนเมื่อเราพูดถึงซูบารุ จะเป็นเรื่องการแข่งขันแรลลี่ชิงแชมป์โลกดับเบิ้ลยูอาร์ซีหรือไม่ก็รถรุ่นดับเบิ้ลยูอาร์เอ็กซ์ เป็นเหมือนแรงกดดันที่ซูบารุ ต้องแบกรับมาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้คนที่มีต่อสมรรถนะรถยนต์ซูบารุ แต่ปัจจุบันผมขอยกตัวอย่างในประเทศสหรัฐฯ ตอนนี้ซูบารุ ที่นั้นไม่มีความเชื่อมโยงกับรถสมรรถนะสูง (Performance Car) อีกต่อไป และในความเป็นจริงทีมงานที่นั้นพยายามสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้ากลุ่มครอบครัวมากขึ้น ซูบารุ กลายเป็นรถยนต์ที่ทุกครอบครัวชาวอเมริกันหลงรัก จากการมอบความเชื่อมั่น และมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงหากเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกันจนทำให้สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่มียอดขายสูงสุดของเรา”
“เช่นเดียวกับการสร้างความรับรู้ต่อลูกค้าในประเทศไทย ผมให้ความสำคัญกับการที่ลูกค้าได้ทดลองขับรถยนต์ของซูบารุ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมเมื่อต้องเจอสภาพถนนที่มีน้ำท่วมขังจากการที่ประเทศไทยมีฝนตกอยู่เกือบตลอดทั้งปี เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เมื่อคุณซื้อรถยนต์ซูบารุคันแรกแล้วจะไม่มีทางเปลี่ยนไปใช้รถยนต์แบรนด์อื่น ซูบารุ ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์สมรรถนะสูงอย่างที่คุณเคยรู้จักอีกต่อไป แต่ให้ความปลอดภัยทั้งคุณ และครอบครัว นั้นคือทิศทางที่เราต้องการก้าวเดินในอนาคต”
Q: ในอนาคตมีแผนการขยายโชว์รูม และเพิ่มประสิทธิภาพบริการหลังการขายให้กับลูกค้าซูบารุ อย่างไร?
แซมสัน ฉั่ว: “ก่อนหน้านี้เราให้ความสำคัญกับลูกค้าในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียงเป็นหลัก เพื่อดูแลลูกค้าทุกคนอย่างดีที่สุด เรามีแผนจะขยายดีลเลอร์ที่กำลังดำเนินอยู่เช่นเดียวกับการเปิดโชว์รูมใหม่ ทั้งหมดต้องมีความพร้อมตามมาตรฐานที่ซูบารุ กำหนด แต่เราจะไม่ดำเนินการอย่างเร่งรีบ และพยายามสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง โชคดีที่ผมมีทีมงานที่ยอดเยี่ยมอย่างคุณตวัน (คำฤทธิ์, ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการขาย และการตลาดทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย)) ที่มีประสบการณ์สูงกับตลาดรถยนต์เมืองไทยหากเทียบกับผมที่เพิ่งย้ายมารับตำแหน่งเพียงไม่นาน เราจะมีการแลกเปลี่ยนไอเดีย และกำหนดแผนงานต่างๆ เพื่อให้ก้าวเดินไปตามแผนงานระยะกลาง Prominence 2020 ของซูบารุ”
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th