แหลกจังมุง !!! 10 เหตุผลง่ายๆ ที่ทำให้รถ “ตะกละ” มากขึ้น
รถยนต์ ใช้กำลังงานจาก “เชื้อเพลิง” มา “เผาไหม้” ในกระบอกสูบ เพื่อดัน “ลูกสูบ” ให้เคลื่อนที่ “ลง” เปลี่ยนจาก “พลังงานความร้อนเป็นพลังงานกล” ทำให้สามารถขับเคลื่อนรถไปได้ แต่การใช้น้ำมัน หากรถมีอาการ “ผิดปกติ” ก็จะทำให้เกิดการ “สิ้นเปลือง” สูงขึ้น แต่บางครั้ง ตัวรถอาจจะไม่ได้มีข้อผิดพลาดอะไร สิ่งที่มันเป็นปัญหา กลับมาจาก “การใช้งานและดูแลรถที่ไม่ถูกต้อง” หรือ “ไม่ดูแลเลย” ในครั้งนี้ จะมาเหลาถึงสาเหตุที่ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยที่คุณสามารถตรวจเช็คเองได้ ก่อนที่จะโดน “หลอกเชือด” ว่าไอ้นู่นไอ้นี่เสีย ทั้งๆ ที่รถไม่ได้เป็นอะไรหนักหนาถึงกับต้องซ่อมเลย…
- กรองอากาศตัน : ปัญหาสุดคลาสสิกที่เจอกันประจำ เมื่อกรองอากาศสกปรก ทำให้ประสิทธิภาพการดูดอากาศเข้าเครื่อง “แย่ลงมาก” เสมือนกับ “คุณโดนอุดจมูก” จะรู้สึกอย่างไร เหตุการณ์นี้ ทำให้เครื่องยนต์แรงตก ส่วนผสมน้ำมันหนาขึ้น (มันเป็นอัตราส่วนกันครับ) เวลาขับก็ต้อง “เหยียบคันเร่งเค้นมากขึ้น” แน่นอนครับ “กินมหาศาล” แถม “ไม่มีแรง” อีกด้วย ควรจะดูแลกรองอากาศให้สะอาด อย่าให้ตันเชียว…
- ลมยางอ่อน : นี่ก็ปัญหาสุดคลาสสิกเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเช็คลมยางกัน เมื่อลมยางอ่อนมากเกินไป จะทำให้ยางเริ่มแบน และ “เกิดแรงต้านในการหมุนสูงขึ้น” ก็จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น พวงมาลัยก็หนักขึ้นอีก ตอนขับรถก็จะย้วยๆ แกว่งๆ ผิดปกติ พยายามหมั่นตรวจเช็คลมยางกันหน่อย สัก 2 สัปดาห์ต่อครั้งก็ยังดี…
- บ้าหอบฟาง : ชัดๆ ไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก อะไรก็ไม่รู้มายัดในรถเต็มไปหมด เหมือนกับโกดังเก็บของ ไอ้ที่ไม่จำเป็นก็ไม่เอาลง ประมาณ “ขี้เกียจ” สะสมไปมากๆ ทำให้รถต้องแบกภาระมากขึ้นโดยไม่จำเป็น อะไรที่ไม่จำเป็นก็เอาลงไปเก็บบ้างนะครับ รถจะได้ไม่รกด้วย…
- เจอรถติดนรกบ่อยๆ : คงหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับคนเมือง ที่เจอรถติดกันเป็นประจำทุกวัน ถ้าช่วงไหนเจอรถติดมากผิดปกติบ่อยๆ รถจะกินน้ำมันมากขึ้น เนื่องจาก “ได้แต่ติดเครื่อง แต่ไม่ได้วิ่ง” เหมือนกับเผาน้ำมันทิ้งไปเฉยๆ เอามาปั่นแอร์แค่นั้น อันนี้ก็คงได้แต่ “ทำใจ” ทำได้แต่เพียงรักษาสภาพรถให้สมบูรณ์ อย่างน้อยก็ไม่แย่ไปกว่าเดิมแหละน่า…
- รถปกติ แต่คนไม่ปกติ : ขึ้นอยู่กับ “อารมณ์” ของคนขับ เจอบ่อยๆ ประเภท “หัวร้อน” ตอนเช้าๆ จะรีบไปทำงานให้ทันเวลาแต่ดันตื่นสาย รถก็ติด ลูกก็งอแง ฯลฯ ทุกสิ่งอย่างมันจะเร่งรีบเหมือนจะไปกู้ระเบิดยังไงยังงั้น เลยทำให้ต้องแปลงร่างเป็น “Super Car” ชั่วคราว มีเท่าไรเหยียบให้มิด เบรกก็แรง เหมือนไล่ล่ากันใน Fast & Furious เมื่อเราขับขี่ด้วยความ “กระโชกโฮกฮาก” แน่นอนครับ รถมันก็ย่อมกินน้ำมันมากขึ้น จากการเหยียบคันเร่งแรงๆ บ่อยๆ กินมากกว่าการขับทางไกลอยู่เยอะ รถก็จะพัง ไม่พังก็ชน สติสตังคนขับก็จะไม่เหลือ จนกลายเป็น “สัญชาติญาณดิบ” ติดนิสัยการขับแบบนี้ที่เราจะเจออยู่ทุกวัน อันนี้ต้องแก้ที่คนขับ พยายาม “ใจเย็น” และ “มีสติ” หน่อยครับ…
เรื่อง : อินทรภูมิ์ แสงดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th