โตโยต้า คัมรี 2.5 G โฉมใหม่ มีดีกว่าที่คุณคิด
ตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง ยังคงมีการแข่งขันกันอย่างคึกคัก มีการออกโปรดักซ์มาแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินหรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีไฮบริด และมีหรอที่พี่ใหญ่อย่างโตโยต้าจะอยู่เฉย เมื่อประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้มีการเปิดตัวเจ้า คัมรี รุ่นปรับปรุงใหม่ เพิ่มความสดใหม่เพื่อลงมาแข่งขันในตลาด โดยได้ปรับปรุงใหม่เพิ่มเติมฟังก์ชันในส่วนของการอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยเข้ามามากขึ้น หลายต่อหลายคนมักจะมองไปที่รุ่น 2.0 หรือ ตัวไฮบริดไปเลย แต่วันนี้เราจะมาทดสอบรุ่น 2.5 G กัน แอบกระซิบบอกเลยว่ารุ่นนี้ไม่ธรรมดา อย่ามองข้ามนะครับเริ่มจากภายนอกกันก่อนแลยดีกว่าว่าเจ้าคัมรี 2.5G คันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปจากเดิมบาง มองไปรอบคันที่เห็นหลักๆเลยก็คือกระจังหน้าที่เป็นสีดำทำให้เจ้าคันนี้ดูดุดัน และวัยรุ่นมากขึ้น โดดเด่น หรูหราแอบแฝงความสปอร์ตไว้เล็กๆ แต่ให้พูดกันตรงๆไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากครับ คล้ายตัวรุ่นก่อนหน้า เพียงแต่ดูดุดัน และสปอร์ตมากขึ้น
ส่วนภายในมีการปรับเพิ่มในเรื่องของดีไซน์เพิ่มหนังหุ้มชุดเกียร์ที่ดูหรูหราขึ้น พร้อมลายไม้พิเศษช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ตขึ้นมานิดนึง ส่วนระบบอำนวยความสะดวกภายในเบาะคู่หน้าจะเป็นแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้าฝั่งคนขับ เบาะนั่งสบายมากครับคอนเฟริ์มเลย เดินทางไกลๆช่วยลดอาการเมื้อยล้าได้เยอะครับ แถมมีระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่และกระจกมองข้างด้วยสะดวกสบาย ไม่ต้องมาเสียเวลาปรับใหม่สำหรับท่านที่ไม่ได้ขับรถคนเดียว พวงมาลัยหุ้มหนังอย่างดีจับกระชับมือ มาพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงผล สั่งทุกระบบด้วยปลายนิ้ว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruies Control สะดวกสบายจริงๆ แถมระบบอินโฟเทนเม้นท์ต่างๆ ก็ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น เครื่องเสียงที่มาพร้อมเครื่องเล่น DVD ลำโพง JBL Green edge tech 12 ตัว 8 ตำแหน่ง อันนี้ผมชอบมากเสียงดีมากขอบอก เพิ่มความเพลิดเพลิน และเพิ่มอรรถรสในการเดินทางได้ดีทีเดียว
ขับไปเพลินๆไม่ต้องกลัวหลงนะจ๊ะ เพราะเจ้าคันนี้มีระบบนำทาง in car navigator แบบหน้าจอสัมผัสแบบ T connect แถมยังแสดงผลที่จอทีเอฟทีขนาด 4.2 นิ้ว ตรงคอนโซลด้วยการแจ้งจุดเลี้ยวหรือแยกต่างๆลดการละสายตา จากท้องถนนได้มากขึ้น ยังมีช่องต่อ USB VTR แล AUX แถมยังมีอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wiresle Chatger บริเวณกล่องคอนโซลกลางรองรับระบบการชาร์จไฟแบบ Qi ชาร์จไฟได้ง่ายเพียงวางสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนถาดชาร์ท iPhoneไม่ได้นะจ๊ะ ถ้าอยากใช้ต้องซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วงเพิ่มเติม ส่วนใครที่ใช้แอนดรอยด์รุ่นใหม่ ที่ส่วนมากพวกรุ่นใหม่จะมีระบบรองรับแล้ว สามารถวางชาร์จได้เลยทันทีง่ายดายไม่มีสายให้เกะกะ
จุดเด่นที่ใสมาให้แบบเต็มๆก็คือเรื่องของระบบความปลอดภัยที่เพิ่มถุงลมนิรภัยถึง 7 ตำแหน่ง จากในรุ่นเดิมมีเพียงแค่ 4 ตำแหน่ง ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกทั้ง 2 ข้าง 2-side blind sot monitor เพิ่มความระมัดระวังให้กับผู้ขับขี่ในการเปลี่ยนเลน หมดปัญหาชนมอเตอร์ไซด์เวลาเปลี่ยนเลน ยังไม่หมดเจ้าคันนี้ติดตั้งเซ็นเซอร์รอบคัน 6 จุด ทำงานพร้อมกับสัญญาณเตือนกะระยะที่มุมกันชนด้านหน้า 4 มุม และด้านหลัง2มุม เพิ่มความปลอดภัยเข้าไปอีกกับ สัญญาณเตือนขณะถอย ซึ่งจะคอยตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่ด้านหลังขณะถอยรถ โดยจะแสดงเตือนผ่านไฟกระพริบที่กระจกข้างพร้อมเสียงสัญญาณระบบนี้จะทำงานควบคู่ไปกับจอมอนิเตอร์บริเวณหน้ารถ คราวนี้เข้าจอดตามช่องจอดต่างๆ ที่มีมุมอับ คับแคบ เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลังหากมีรถคันอื่นวิ่งผ่าน ก็จะมีเสียงสัญญาณเตือนทันที ไม่ถอยชนใครแน่นอน แต่ระบบจะคอยเตือนเราเท่านั้นนะครับจำไว้ว่าเราต้องคอยระมัดระวังเองด้วย ส่วนอุปกรณ์เพื่อความหรูหราอื่นๆ นั้น ยังคงมีอย่างครบครัน
ด้านของสมรรถนะการขับขี่ ไม่ได้มีการปรับจูนในเรื่องเครื่องยนต์หรือว่าช่วงล่าง ยังคงเหมือนรุ่นก่อนหน้า แต่สำหรับเครื่องยนต์รหัส 2AR-FE Dual VVT-i 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร มีสมรรถนะการใช้งานที่ดี และแรงอยู่แล้วด้วยแรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 231 นิวตันเมตรที่ 4100 รอบต่อนาที ส่วนเกียร์ยังคงเป็นเกียร์ อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequentiel Shift ที่ให้ความนุ่มนวล ราบรื่น แม่นยำ ขับสนุกเร้าใจ อัตราเร่งทำได้ดีทีเดียวกดคันเร่งลงไปความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและลื่นไหล การเร่งแซงไม่มีปัญหาสบายหายห่วง แม้บางจังหวะคลิกดาวน์ลงไปจะมีอาการรอรอบอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้อืดจนเกินไปนัก มีความคล่องตัวเมื่อใช้งานในเมือง ขับง่าย ลองมาเปลี่ยนขับแบบสปอร์ตดูบ้าง ขยับคันเกียร์ไปที่ + หรือ – เท่านี้ Sequential shift ก็พร้อมทำงาน เปลี่ยนเกียร์ได้ตามใจต้องการ ช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ได้ดีทีเดียว อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 12.5 กม./ลิตร ถึงว่าเป็นตัวเลขที่ดีทีเดียวสำหรับรถยนต์เซ็กเม้นท์นี้
ช่วงล่างระบบด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโครง และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระ ดูอัลลิ้งค์ สตรัท ที่ถูกปรับเซ็ทช่วงล่างให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมก่อนเปลี่ยนโฉมเมื่อปี 2015 อยู่มาก ไม่ได้รู้สึกว่านิ่มย้วยเหมือนรุ่นก่อน ถึงแม้การเค้าโค้งด้วยความเร็วในบางครั้งผมยังรู้สึกว่ามันยังมีอาการย้วยนิดๆแต่ก็ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม มีความแน่นหนึบในขนาดกำลังดี ไม่ได้แข็งกระด้างจนเกินไป ขึ้นคอสะพาน ลงหลุม วิ่งผ่านถนนขรุขระ นุ่มนวลสุดๆปรบมือให้เลยครับ น้ำหนักของพวงมาลัยกำลังดีไม่เบาหนือหนักจนเกินไป คุมง่ายแม่นยำดี ส่วนเรื่องเบรครับรองหยุดรถได้ดังใจแต่อาจจะต้องทำความรู้จักมันมันซะหน่อย ถึงจะชินกับน้ำหนักในการเบรค
สำหรับท่านไหนที่กำลังคิดอยากได้รถยนต์ประเภทนี้ ผมว่าโตโยต้าเป็นตัวเลือกที่ดีที่เดียวครับ และผมอยากจะบอกว่า อย่ามองแค่ คัมรี 2.0 หรือ คัมรี ไฮบริดเท่านั้น ผมว่าเจ้าตัวรุ่น 2.5G น่าสนใจมากครับอย่าได้มองข้ามไป เพราะทั้ง ขับสนุกออฟชั่นครบๆ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆดูดีมีราคาสมกับเป็นรถหรู ความกว้างขว้างขวางสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร เพิ่มระบบความปลอดภัยเข้ามาทำให้ขับได้อย่างสบายใจ ด้วยราคา 1.559 ล้านบาท แลกกับความหรูหรา ขับสนุก เทคโนโลยีใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามา ผมว่าคุ้มค่าคุ้มราคาทีเดียวครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th