โตโยต้า เผยยอดขายปี60 ไม่ได้ตามเป้า ยังเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย มั่นใจขาย 300,000 คันในปี61
มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ปี 2560 พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี 2561
ยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2560 มียอดขายอยู่ที่ 870,748 คัน* มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 13.3% เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ผลักดันให้ GDP ของประเทศไทยเติบโต 3.9% ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไทยเติบโตครั้งแรกในรอบ 4 ปี”
โดยโตโยต้ามียอดขายในปี2560 อยู่ที่ 240,137 คัน ลดลง 2.0% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 265,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 96,606 คัน เพิ่มขึ้น 10.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 143,531 คัน ลดลง 9.1% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 133,458 คัน ลดลง 10.1% เหตุผลที่โตโยต้าไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้เมื่อปี2560ที่ผ่านมาเพราะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีเลยทำให้ไม่สามารถกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ แต่คาดว่าในปี 2561 นี้โตโยต้าคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 300,000 คันอย่างแน่นอน เพราะนอกจากรถยนต์ที่ทางโตโยต้าเปิดไปเมื่อไตรมาสสุดท้ายของปี2560 ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ,โตโยต้า ยาริส แฮทช์แบค และโตโยต้า รีโว่ ร็อคโค ที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายช่วงต้นปี2561ได้ และในช่วงต้นเดือนมีนาคมจะมีการเปิดตัวรถยนต์ซับคอมแพคเอสยูวีรุ่นใหม่ โตโยต้า C-HR อีกซึ่งน่าจะช่วงสร้างยอดขายได้ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีกภายในปีนี้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ากี่รุ่น และรุ่นไหนบ้าง
*หมายเหตุ: ตัวเลขยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2560 เป็นตัวเลขประมาณการ ณ วันที่ 12 มกราคม 2561
สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2560
- ปริมาณการขายโตโยต้า 240,137 คัน ลดลง 0% ส่วนแบ่งตลาด 27.6%
- รถยนต์นั่ง 96,606 คัน เพิ่มขึ้น 7% ส่วนแบ่งตลาด 28.0%
- รถเพื่อการพาณิชย์ 143,531 คัน ลดลง 1% ส่วนแบ่งตลาด 27.3%
- รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 133,458 คัน ลดลง 1% ส่วนแบ่งตลาด 31.5%
- รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 109,988 คัน ลดลง 7% ส่วนแบ่งตลาด 30.2%
ด้านการส่งออกในปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 299,385 คัน ลดลง 6% คิดเป็นมูลค่า 159,321 ล้านบาท ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 65,387 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 224,708 ล้านบาท”
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ปี 2561 มร.ซึงาตะ กล่าวว่า “แนวโน้มตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2561 มีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของ GDP ที่ 3.9%* รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ และภาคเอกชน ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีส่วนในการกระตุ้นตลาดให้เติบโต และการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่จากหลายค่ายรถยนต์ต่างๆ ดังนั้นเราคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์โดยรวมในประเทศปี พ.ศ. 2561 จะอยู่ในระดับ 900,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 3.4%
ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศ ปี 2561
- ปริมาณการขายรวม 900,000 คัน เพิ่มขึ้น 4%
- รถยนต์นั่ง 352,000 คัน เพิ่มขึ้น 9%
- รถเพื่อการพาณิชย์ 548,000 คัน เพิ่มขึ้น 3%
- รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 424,000 คัน ลดลง 1%
- รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 364,000 คัน ลดลง 2 %
โดยโตโยต้าตั้งเป้าหมายการขายสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 300,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 113,000 คัน เพิ่มขึ้น 17.0% รถเพื่อการพาณิชย์ 187,000 คัน เพิ่มขึ้น 30.3% และ รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 157,000 คัน เพิ่มขึ้น 17.6%
ประมาณการขายรถยนต์ของโตโยต้า ในปี 2561
- ปริมาณการขายรวม 300,000 คัน เพิ่มขึ้น 9% ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
- รถยนต์นั่ง 113,000 คัน เพิ่มขึ้น 0% ส่วนแบ่งตลาด 32.1%
- รถเพื่อการพาณิชย์ 187,000 คัน เพิ่มขึ้น 3% ส่วนแบ่งตลาด 34.1%
- รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) 157,000 คัน เพิ่มขึ้น 6% ส่วนแบ่งตลาด 37.0%
- รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 133,000 คัน เพิ่มขึ้น 9% ส่วนแบ่งตลาด 36.5%
*หมายเหตุ: ตัวเลขการเติบโตของ GDP เป็นตัวเลขประมาณการ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2560
สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ คาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถรักษายอดส่งออกไว้ที่ระดับ 300,000 คัน เนื่องมาจากผลกระทบจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่สำคัญ”
มร.ซึงาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “โตโยต้าขอแสดงความขอบคุณภาครัฐที่ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฮบริด หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)และลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU)ร่วมกับกรมสรรพสามิต โตโยต้าตัดสินใจขยายการลงทุน ด้วยการลงทุนสายการผลิตแบตเตอรี่ในประเทศ ที่โรงงานโตโยต้าเกตเวย์ และเราจะยังคงพัฒนายนตรกรรมให้ดียิ่งขึ้นเพื่อนำเสนอตัวเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค
อีกทั้งเรายังพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของโตโยต้า(New Era of Toyota) ด้วย 4 เทคโนโลยีใหม่ซึ่งจะเป็นมาตรฐานของยานยนต์ในอนาคต ประกอบด้วย ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ นวัตกรรมโครงสร้างใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ระบบความปลอดภัยใหม่ที่มีมาตรฐานระดับโลก และระบบนำทางและเชื่อมต่อผู้ขับขี่กับรถยนต์ (Toyota T-connect Telematics) ซึ่งทั้งหมดนี้เราเริ่มนำเสนอเป็นครั้งแรกใน รถซับคอมแพคเอสยูวีรุ่นใหม่ TOYOTA C-HR
นอกจากนี้เรายังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนความสุขให้กับสังคมไทย ผ่านการสร้างประสบการณ์ใหม่ภายใต้แนวคิด “LIVE ALIVE” และการทำกิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ โครงการCU Toyota Ha:mo โครงการโตโยต้าถนนสีขาวเพื่อรณรงค์ให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนนซึ่งจะครบรอบ 30 ปีในปีนี้ โครงการเมืองสีเขียวเพื่อการรณรงค์ทางด้านสิ่งแวดล้อม และโครงการโตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ที่นำองค์ความรู้และนวัตกรรมทางความคิดของโตโยต้าไปพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจชุมชน ซึ่งจะขยายไปยังทั่วประเทศในปี 2565”
มร.ซึงาตะ กล่าวย้ำถึงความเชื่อมั่นในประเทศไทยว่า “ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานของรัฐบาล เรายังคงมุ่งมั่นในการมีส่วนช่วยส่งเสริมและตอบสนองต่อนโยบายของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งโตโยต้ามุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาขีดความสามารถของวิศกรไทยในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผ่านพันธกิจของบริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TDEM) เพื่อให้ประเทศไทยเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน และนี่คืออีกหนึ่งความสุขที่เราพร้อมขับเคลื่อนและยืนเคียงข้างกับคนไทยอย่างยั่งยืนตลอดไป”
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนธันวาคม 2560
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 103,400 คัน เพิ่มขึ้น 0%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 31,382 คัน เพิ่มขึ้น 11.9% ส่วนแบ่งตลาด 30.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,442 คัน ลดลง 0.5% ส่วนแบ่งตลาด 14.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 14,463 คัน เพิ่มขึ้น 39.8% ส่วนแบ่งตลาด 14.0%
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 40,700 คัน เพิ่มขึ้น 1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 12,244 คัน เพิ่มขึ้น 32.9% ส่วนแบ่งตลาด 30.1%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 10,629 คัน เพิ่มขึ้น 57.7% ส่วนแบ่งตลาด 26.1%
อันดับที่ 3 นิสสัน 4,493 คัน เพิ่มขึ้น 81.0% ส่วนแบ่งตลาด 11.0%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 50,459 คัน เพิ่มขึ้น 4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 18,076 คัน เพิ่มขึ้น 2.4% ส่วนแบ่งตลาด 35.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 13,982 คัน ลดลง 1.0% ส่วนแบ่งตลาด 27.7%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 6,377 คัน เพิ่มขึ้น 32.9% ส่วนแบ่งตลาด 12.6%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 7,903 คัน โตโยต้า 3,386 คัน – มิตซูบิชิ 2,127 คัน – อีซูซุ 1,326 คัน – ฟอร์ด 970 คัน – เชฟโรเลต 94 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 42,556 คัน เพิ่มขึ้น 7.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,690 คัน เพิ่มขึ้น 1.4% ส่วนแบ่งตลาด 34.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 12,656 คัน ลดลง 1.9% ส่วนแบ่งตลาด 29.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 5,398 คัน เพิ่มขึ้น 34.7% ส่วนแบ่งตลาด 12.7%
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 62,700 คัน เพิ่มขึ้น 9.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,138 คัน เพิ่มขึ้น 1.6% ส่วนแบ่งตลาด 30.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,442 คัน ลดลง 0.5% ส่วนแบ่งตลาด 24.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 6,694 คัน เพิ่มขึ้น 35.7% ส่วนแบ่งตลาด 10.7%
*หมายเหตุ: ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนธันวาคม 2560 เป็นตัวเลขประมาณการ ณ วันที่ 12 มกราคม 2561
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ธันวาคม 2560*
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 870,748 คัน เพิ่มขึ้น 13.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 240,137 คัน ลดลง 2.0% ส่วนแบ่งตลาด 27.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 160,550 คัน เพิ่มขึ้น 12.1% ส่วนแบ่งตลาด 18.4%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 127,768 คัน เพิ่มขึ้น 19.0% ส่วนแบ่งตลาด 14.7%
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 345,501 คัน เพิ่มขึ้น 23.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 96,606 คัน เพิ่มขึ้น 10.7% ส่วนแบ่งตลาด 28.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 95,078 คัน เพิ่มขึ้น 21.7% ส่วนแบ่งตลาด 27.5%
อันดับที่ 3 มาสด้า 36,769 คัน เพิ่มขึ้น 34.3% ส่วนแบ่งตลาด 10.6%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 424,282 คัน เพิ่มขึ้น 7.7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 146,165 คัน เพิ่มขึ้น 13.4% ส่วนแบ่งตลาด 34.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 133,458 คัน ลดลง 10.1% ส่วนแบ่งตลาด 31.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 52,664 คัน เพิ่มขึ้น 39.2% ส่วนแบ่งตลาด 12.4%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 59,576 คัน โตโยต้า 23,470 คัน – มิตซูบิชิ 14,454 คัน – อีซูซุ 12,371 คัน – ฟอร์ด 8,131 คัน – เชฟโรเลต 1,150 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 364,706 คัน เพิ่มขึ้น 9.4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 133,794 คัน เพิ่มขึ้น 11.5% ส่วนแบ่งตลาด 36.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 109,988 คัน ลดลง 8.7% ส่วนแบ่งตลาด 30.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 44,533 คัน เพิ่มขึ้น 44.4% ส่วนแบ่งตลาด 12.2%
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 525,247 คัน เพิ่มขึ้น 7.4%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 160,550 คัน เพิ่มขึ้น 12.1% ส่วนแบ่งตลาด 30.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 143,531 คัน ลดลง 9.1% ส่วนแบ่งตลาด 27.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 55,585 คัน เพิ่มขึ้น 39.0% ส่วนแบ่งตลาด 10.6%
*หมายเหตุ: สถิติการจำหน่ายรถยนต์รวมปี 2560 เป็นตัวเลขประมาณการ ณ วันที่ 12 มกราคม 2561
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th