ไขข้อสงสัย ทำไมใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าบนถนนสาธารณะจึงถูกปรับ
ไขข้อสงสัย ทำไมใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าบนถนนจึงถูกปรับ จากข่าวล่าสุกบนถนนที่ชายหาดป่
จากกรณีที่มีการนำสกูตเตอร์ไฟฟ้ามาให้นักท่องเที่ยวเช่าใช้บริการที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรได้มีการออกประชาสัมพันธ์ห้ามนำรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าดังกล่าวมาใช้บนถนน เนื่องจากได้ประสานไปที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้รับการยืนยันว่า เป็นรถที่กรมการขนส่งทางบกไม่อาจจดทะเบียนให้ใช้อย่างถูกต้องได้ และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงบนท้องถนน นำมาซึ่งความสูญเสียได้ในอนาคต จึงได้มีการจับกุม ออกใบสั่ง และยึดสกูตเตอร์ จนกลายเป็นกระแสโด่งดังในโซเชียลไปแล้วนั้น
ไขข้อสงสัย ทำไมใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าบนถนนสาธารณะจึงถูกปรับ เมื่อปี 2562 พล.ต.ต. เอกรักษณ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา ฐานะเชี่ยวชาญกฏหมายจราจร เคยให้รายละเอียดเกี่ยวกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไว้ว่า “สกูตเตอร์ไฟฟ้าจัดอยู่ในประเภทรถจักรยานยนต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า พบเห็นบนถนนมีความผิดข้อหา ‘นำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนและเสียภาษีมาใช้ในทาง’ ตามพ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตราที่ 4 มีโทษปรับในจำนวนที่ไม่เกิน 10,000 บาท” ซึ่งจากการระบุนี้เมื่อดูถึงพ.ร.บ. รถยนต์พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ได้ระบุเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์เอาไว้ว่า “รถจักรยานยนต์คือ รถที่เดินด้วยเครื่องกำลังยนต์หรือกำลังไฟฟ้า และมีล้อไม่เกินสองล้อ หากมีพ่วงข้างจะมีล้อเพิ่มอีกไม่เกินหนึ่งล้อ และหมายความรวมถึงรถจักรยานที่ติดเครื่องยนต์ด้วย” ดังนั้นจากลักษณะของสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่เป็นพาหนะสองล้อและใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนจึงเข้าข่ายรถจักรยานยนต์ไปด้วย
ไขข้อสงสัย ทำไมใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าบนถนนสาธารณะจึงถูกปรับ ใช้ขับขี่บนถนนได้จะต้องมีการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก มีการติดป้ายทะเบียน ป้ายแสดงการเสียภาษีหรือป้ายวงกลม และเสียพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยให้ถูกต้อง และต้องปฏิบัติตามกฏจราจรของรถจักรยานยนต์จึงจะสามารถนำมาใช้งานได้ถูกต้องตามกฏหมาย
อย่างไรก็ตามความผิดในการนำสกูตเตอร์ไฟฟ้ามาใช้บนทางสาธารณะยังไม่จบแค่นี้ เพราะนอกจากจะมีความผิดข้อหานำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนและเสียภาษีมาใช้ในทางซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาทแล้ว ถ้ามีการนำสกูตเตอร์ไฟฟ้าขึ้นไปขี่บนทางเท้าก็มีความผิดในกระทงที่สองตามมาคือ การห้ามเดินรถบนทางเท้า หากผู้ใดเดินรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท รวมทั้งยังมีความผิดตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองที่ห้ามไม่ให้ผู้ใดขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งจะมีโทษปรับ 5,000 บาทด้วย ดังนั้นจึงหมายความว่าหากนำสกูตเตอร์ไฟฟ้ามาขับขี่บนทางสาธารณะก็อาจถูกปรับสูงสุดถึง 17,000 บาทได้
เช่นเดียวกัน ตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ กรุงปารีส เมืองหลวงฝรั่งเศส ห้ามผู้คนใช้ “สกูตเตอร์ไฟฟ้า” หรือพาหนะส่วนบุคคลประเภทอื่นๆบนทางเดินเท้า รวมทั้งตามสวนสาธารณะ หลังได้รับร้องเรียนจากผู้ใช้ทางเดินเท้าถึงความปลอดภัย เพราะต้องคอยหลบหลีกทางให้ผู้ใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุบาดเจ็บกันแล้วหลายราย
ผู้ฝ่าฝืนใช้งานสกูตเตอร์ไฟฟ้าและพาหนะส่วนบุคคลอื่นๆบนทางเดินเท้าจะถูกปรับเงิน 135 ยูโร หรือกว่า 4,700 บาท แต่ทางการยังอนุญาตผู้ใช้งานสกูตเตอร์ไฟฟ้าใช้งานพาหนะชนิดนี้ได้บนถนนร่วมกับรถทั่วไปหรือทางจักรยาน แต่ความเร็วต้องไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนพื้นที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวอนุญาตใช้ความเร็วไม่เกิน 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทั่วกรุงปารีสปัจจุบันมีบริการสกูตเตอร์ไฟฟ้ามากราว 20,000 คัน นับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อช่วงปีที่แล้ว คาดว่าจนถึงปลายปีนี้บริการสกูตเตอร์ไฟฟ้าทั่วกรุงปารีสจะเพิ่มถึงราว 40,000 คัน
นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่รู้เกี่ยวกับสกูตเตอร์ไฟฟ้าก็คือ เรื่องการคุ้มครอง เพราะไม่มีข้อกำหนดใดเกี่ยวกับการคุ้มครองที่ระบุว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนถนน ผู้ขับขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้าจะขอรับการเยียวยาหรือเรียกร้องจากที่ใดได้ ดังนั้นหากขับขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้าแล้วล้มเอง หรือไปชนผู้อื่นได้รับาดเจ็บ ผู้ขับขี่สกูเตอร์ไฟฟ้าก็จะต้องเป็นผู้จ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง