บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย (จำกัด) ฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 5,000,000 คััน พร้อมเดินหน้าต่อเนื่องให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิตรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคนี้

สาระสำคัญของการฉลองความสำเร็จครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ยอดตัวเลขที่ทะลุ 5 ล้านคัน แต่เป็นการบันทึกความสำเร็จและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของมิตซูบิชิ ที่ได้เดินหน้าผลิตรถยนต์ที่ศูนย์การผลิตในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งเป็นศูนย์การผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยมีกำลังการผลิตมากถึง 424,000 คัน ต่อปี ได้ส่งออกไปแล้ว 120 ประเทศทั่วโลก กลายเป็นศูนย์การผลิตที่มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลกอีกด้วยเช่นกัน

คราวนี้มาดูกันว่าความสำเร็จ 5 ล้านคันในวันนี้ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีความเป็นมาอย่างไรกัน? เริ่มจากไทม์ไลน์กันก่อน

ปี พ.ศ.2504 ก่อตั้ง บริษัท สิทธิผล มอเตอร์ จำกัด และได้รับสิทธิ์เป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิสามล้อ รุ่น “ลีโอ” และรถยนต์นั่งรุ่น “โคล์ท”

ปี พ.ศ.2507 ก่อตั้ง บริษัท สหพัฒนายานยนต์ จำกัด เพื่อบุกเบิกอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ในประเทศไทย

ปี พ.ศ.2530 ก่อตั้ง บริษัท เอ็ม เอ็ม ซี สิทธิผล จำกัด จากการควบรวมระหว่าง บริษัท สิทธิผล มอเตอร์ จำกัด และบริษัท สหพัฒนายานยนต์ จำกัด เริ่มต้นการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออก

ปี พ.ศ.2531 เป็นครั้งแรกของการส่งออกรถยนต์ที่ผลิตโดยฝีมือคนไทย ด้วยการส่งออกรถยนต์ “มิตซูบิชิ แลนเซอร์ แชมป์” ไปจำหน่ายยังประเทศแคนาดา

ปี พ.ศ.2535 เปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรก ภายในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

ปี พ.ศ.2539 เปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่ 2 ภายในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อรองรับการผลิตระกระบะขนาด 1 ตัน

ปี พ.ศ.2546 เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

ปี พ.ศ.2550 ฉลองการส่งออกรถกระบะครบ 1 ล้านคัน

ปี พ.ศ.2551 ย้านและก่อตั้ง บริษัท เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี รองรับตลาดภายในประเทศไทย และการส่งออก

ปี พ.ศ.2552 ฉลองการผลิตรถยนต์รวมทุกประเภทครบ 2 ล้านคัน

ปี พ.ศ.2555 เปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่ 3 เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล เพื่อการจำหน่ายภายในประเทศไทย และการส่งออก

ปี พ.ศ.2556 ฉลองการผลิตรถยนต์รวมทุกประเภทครบ 3 ล้านคัน แบ่งออกเป็นการส่งออกรถยนต์ครบ 2 ล้านคัน และการจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศไทยครบ 1 ล้านคัน

ปี พ.ศ.2558 ฉลองการผลิตรถยนต์รวมทุกประเภทครบ 4 ล้านคัน และเปิดสนามทดสอบรถยนต์ มิตซูบิชิ ในประเทศไทย ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ปี พ.ศ.2559 ย้ายที่ตั้งสำนึกงานใหญ่มายังอาคาร เอฟวายไอ เซ็นเตอร์ กรุงเทพมหานคร และฉลองความสำเร็จด้วยยอดส่งออกรถยนต์ครบ 3 ล้านคัน

ปี พ.ศ.2561 ฉลองการผลิตรถยนต์รวมทุกประเภทครบ 5 ล้านคัน

โดยศูนย์การผลิตรถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกอบด้วยโรงงานผลิตรถยนต์ 3 แห่ง โรงงานผลิตเครื่องยนต์ 1 แห่ง และโรงงานบรรจุชิ้นส่วนส่งออก 1 แห่ง พร้อมสถานที่จอดรถสำเร็จรูปก่อนส่งมอบ ดังนี้

โรงงานแหลมฉบัง 1 ประกอบรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก หรือ PPV รุ่น มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต

โรงงานแหลมฉบัง 2 ประกอบรถกระบะ รุ่น มิตซูบิชิ ไทรทัน

โรงงานแหลมฉบัง 3 ประกอบรถยนต์ซิตี้คาร์ รุ่น มิตซูบิชิ มิราจ และ มิตซูบิชิ แอททราจ

โรงงานผลิตเครื่องยนต์และชิ้นส่วน ภายใต้ชื่อ บริษัท เอ็มเอ็มทีเอช เอ็นจิ้น จำกัด ผลิตเครื่องยนต์ทั้งระบบเบนซินและดีเซล

โรงงานบรรจุชิ้นส่วนส่งออก

และเพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพของรถยนต์มิตซูบิชิ ยังได้วิจัยและพัฒนาในทุกความต้องการของลูกค้า ผ่านไปยังสนามทดสอบรถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย บนพื้นที่ 95 ไร่ และยังเป็นสนามที่ประยุกต์ใช้มาตรฐานเดียวกับสนามทดสอบรถยนต์ที่เมืองโอกาซากิของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศญี่ปุ่น เพื่อทดสอบจนมั่นใจก่อนนำไปสู่ขั้นตอนการผลิตจริง โดยแบ่งเป็นการทดสอบ 4 รูปแบบ คือ

1.สนามทดสอบอเนกประสงค์

2.สนามทดสอบเชิงวิเคราะห์

3.สนามทดสอบเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน ความกระด้าง

4.สนามขับขี่รูปวงรีความยาว 1,500 เมตร

จะเห็นได้ว่าทั้งหมดนี้ เป็นการเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นที่่ร่วมกันสร้างรถยนต์ที่ดีที่สุดสู่ผู้บริโภคชาวไทยและทั่วโลก รวมถึงยังพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกของยานยนต์แห่งอนาคตอย่างต่อเนื่องและนอกจากจะสร้างตัวเลขยอดการผลิตได้ระดับ 5 ล้านคัน ยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพนักงานชาวไทยอีกนับหมื่นคนอีกด้วย

เรื่อง : พุทธิ  ผาสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th