ไฮลักซ์ รีโว่ คาราวาน ทริป คาราวานอีสาน ประตูสู่อินโดจีน วันที่ 3 อุบลราชธานี – มุกดาหาร – นครพนม
ตื่นรับแสงแดดอ่อนๆยามเช้าที่อำเภอโขงเจียม อุบลราชธานี เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเตรียมพร้อมออกลุยกันต่อ กับการเดินทางในวันที่3 ของการท่องเที่ยวอีสาน กับคาราวาน ไฮลักซ์ รีโว่ วันนี้เราจะขับรถออกท่องเที่ยวประมาณ 331 กิโลเมตร ชิลล์ซิครับงานนี้ระยะทางไม่ไกลมากแต่ขอบอกว่าอัดแน่นไปด้วยความตื่นเต้นและถ้าทายของเส้นทาง และความงดงามตระการตาของสถานที่ต่างๆที่เราจะไปเยี่ยมชมในวันนี้อย่างแน่นอน
คณะไฮลักซ์ รีโว่ คาราวานทั้งหมดเริ่มออกเดินทาง อ่อ..! ลืมบอกไปวันนี้คณะคาราวานของเราจะต้องแยกจากคาราวาน ไฮลักซ์ รีโว่ ในเส้นทาง AEC แล้ว เพราะคณะAECเค้าจะเดินทางข้ามไปยังฝั่งลาว หลังจากโบกมือล่ำลาพวกเราที่เหลือในเส้นทางอีสานก็พร้อมเดินทางกันเลย เรามุ่งหน้าสู่จุดหมายแรกของเราในวันนี้เพื่อไปลงเรือกันที่หาดสลึงเพื่อไปชมความงดงามของธรรมชาติที่สร้างสรรได้อย่างวิจิตรตระกาลตานั้นคือ สามพันโบก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานี สามพักโบกเป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขง มีขนาดต่างๆมากกว่า 3000 แอ่งชาวบ้านเค้าเรียกที่นี่ว่าสามพันโบก โดยคำว่า “โบก” มาจากคำในภาษาลาวที่แปลว่า แอ่งน้ำ นั่นเอง สามพันโบกเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำโขง จึงทำให้เกิดเป็นแอ่งเล็กแอ่งน้อยรูปร่างลักษณะต่างๆ ที่สวยงามแปลกตา จะปรากฎในเห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอดเท่านั้น เราล่องเรือผ่านวิวทิวทัศน์ที่แปลกตาของทั้งสองฝั่งลำน้ำจนมาถึงจุดไฮไลท์ถึงกับต้องหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า โอ้วแม่เจ้า ! มันช่างเหมือนกับแกรนแคนยอน ยังไงอย่างงั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะมีที่ที่งดงามแบบนี้อยู่ในประเทศไทย
หลังการที่เราเก็บภาพกันจนเมมโมรี่เต็ม เราก็พร้อมออกเดินทางกันไปยังจุดหมายต่อไปนั้นก็คือ..! ร้านอาหารกลางวัน ฮาฮา เพราะเริ่มหิวซะแล้วเราจะไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่สวนอาหารนรินทร์ซึ่งอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร เส้นทางระหว่างอุบลราชธานี ไปมุกดาหาร เป็นเส้นทางที่ขับสนุกเพราะมีทั้งวิ่งในเมือง และนอกเมือง มีโค้งสลับซ้าย-ขวา ทางตรงยาว เลนสวน และทางขึ้น-ลงเขาครบรสทีเดียวครับสำหรับเส้นทางในวันนี้ เลยทำให้เราได้ทดลองสรรถนะพละกำลัง เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร 2GD-FTV ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาทีของเจ้า โตโยต้าไฮลักซ์ รีโว่ ได้เป็นอย่างดี แถมยังมีตัวช่วยเป็นโหมดการขับขี่มีทั้งโหมด eco และ power ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม ช่วงวิ่งทางตรงยาวอัตราเร่งต้องบอกว่าใช่ได้เลยทีเดียวกดคันเร่งลงไปความเร็วไหลขึ้นอย่างต่อเนื่องและนุ่มนวล การเร่งแซงก็ทำได้แบบรวดเร็วทันใจดีไม่ต้องมาลุ้นว่าจะแซงพ้นมั้ยขับสนุกจริงๆครับ ยิ่งในช่วงขึ้นเขากดโหมด power เลยจ้าแรงเหลือๆ ขึ้นเขา หรือทางเนินชันได้แบบสบายหายห่วงขับสนุกมากขอบอก
ท้องอิ่มออกเดินทางกันต่อเพราะจุดหมายต่อไปของเราอยู่ที่นครพนม เส้นทางในช่วงนี้ต้องวิ่งเข้าเมืองใช้ความเร็วไม่มากนักเลยปรับเป็นโหมด eco จะได้ประหยัดน้ำมันซะหน่อย ขับเพลินๆ ก็เดินทางมาถึงนครพนมเพื่อมาสักการะพระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดีลงความเห็นว่าพระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200–1400 ตามตำนานกล่าวว่าผู้สร้างคือ พระมหากัสสปะ พระอรหันต์ 500 องค์ และท้าวพระยาเมืองต่าง ๆ ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ลักษณะของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดียวกันกับปราสาทของขอม และได้ทำการบูรณะเรื่อยมา ในปี พ.ศ. 2485 ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น “วรมหาวิหาร”พระธาตุพนมไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนมเท่านั้น พระธาตุพนมยังเป็นที่เคารพของชาวไทยภาคอื่นๆ และชาวลาวอีกด้วย ว่ากันว่าถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือเป็นมงคลแก่ชีวิตแล้ว
แต่ก่อนที่เราจะไปสักการะพระธาตุพนม ทางโตโยต้ามีจัดการแข่งขัน eco run หรือการขับทดสอบประหยัดน้ำมันโดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์เป็นกรรมการ คณะคาราวานของเราต้องมาร่วมปล่อยตัวและเป็นสักขีพยาน โดยใช้ระยะทางประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร ผลปรากฎว่าเจ้าไฮลักซ์ รีโว่สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้เฉลี่ยถึง 31.4 กม./ลิตร โอ้โห!! ทั้งขับสนุกทั้งประหยัดเจ๋งดีอ่ะ จากนั้นเราเข้าไปสักการะพระธาตุพนม ร่วมทำบุญและถวายผ้าห่มพระธาตุ แถมครั้งนี้คณะคาราวานของเราได้เข้าไปด้านในตัวพระธาตุด้วย ซึ่งปกติไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้า ซึ่งด้านในพระธาตุจะมีพระบรมสารีริกธาตุ และมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้น โดยเฉพาะฉัตรทองคำน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัมบนยอดพระธาตุ นับเป็นบุญตาที่ได้เข้าไปเห็นกับตา ขอบคุณครับโตโยต้า
เมื่ออิ่มบุญเป็นที่เรียบร้อย พวกเรามุ่งหน้าไปสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่3 ที่เชื่อมระหว่างประเทศไทยที่จังหวัดนครพนม และประเทศลาวที่คำม่วนเป็นอีกหนึ่งสะพานที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และได้กลายเป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่งด้านการค้าและการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศเวียดนาม และภาคใต้ของประเทศจีน โดยสะพานนั้นมีความยาวรวม 780 เมตร มีช่องลอดกว้าง 60 เมตร สูง 10 เมตร 2 ช่วง ความกว้างสะพาน 13 เมตร และมีการช่องจราจร 2 ช่อง และไม่มีทางรถไฟ คาราวานของเราขึ้นไปวิ่งชมความงดงามและแสงสุดท้ายก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าของการเดินทางในวันที่ 3 ในวันพรุ่งนี้เราเดินทางไปที่ไหนจังหวัดอะไรต้องคอยติดตามนะครับกับไฮลักซ์ รีโว่ คาราวาน ทริปอีสาน ประตูสู่อินโดจีน …
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
ภาพ : พิสิษฐ์ ธนะสารเจริญ
ถ่ายภาพ/ตัดต่อ : จิตรกร หลวงยศ
เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th