10 นวัตกรรมยานยนต์เปลี่ยนโลก
แม้ว่ารถยนต์ที่ใช้งานกันส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากช่วงต้นศตวรรษที่ 20 คือมีเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ส่งกำลังขับเคลื่อนสู่ล้อผ่านทางชุดเกียร์ และมีพวงมาลัยที่ด้านหน้าห้องโดยสารเพื่อควบคุมทิศทางของรถ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์รถยนต์มีการคิดค้นและประดิษฐ์ที่สำคัญหลากหลายครั้งที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
แนวคิดของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ให้ประโยชน์ทั้งในด้านความปลอดภัยและสมรรถนะของรถถูกแนะนำออกมาครั้งแรกตั้งแต่ปี 1930 โดยบริษัทรถสปอร์ตสัญชาติดัทช์ที่ชื่อ Spyker แต่หลังจากนั้นแล้วสิ่งนี้ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่จำกัดการใช้อยู่กับรถแทรกเตอร์และยานยนต์ทางทหารอย่าง Land Rover และ Jeep รวมทั้งจากผู้ผลิตรถยนต์รายเล็กบางราย จนกระทั่ง Audi ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องนี้กับ Quattro ซึ่งเป็นรถคูเป้ที่เปิดตัวออกมาในปี 1980 ที่แม้ว่าจะไม่ได้มียอดขายที่สูงมากนัก แต่ด้วยการปรับจูนรถสำหรับใช้การแข่งขันและประสบความสำเร็จในการแข่งแรลลี ทำให้นับตั้งแต่นั้นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไม่เพียงแค่สิ่งที่มีเพื่อความอเนกประสงค์ในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งดึงดูดด้านสมรรถนะด้วย โดยทุกวันนี้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมีอยู่ในรถซาลูนหรูไม่ต่างกับรถที่เน้นความอเนกประสงค์ในการใช้งาน
เกียร์อัตโนมัติ
ทุกวันนี้หลายคนที่ซื้อรถยนต์อาจบ่นว่าผู้ผลิตรถยนต์ไม่ทำเกียร์แมนนวลออกมาให้เลือก ในขณะที่คนจำนวนมากรู้สึกว่าระบบส่งกำลังอัตโมนัติของรถเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ความสบายขึ้นและง่ายขึ้นในการขับรถ ซึ่งจริงๆ แล้วต้องขอบคุณการเกิดแนวคิดเรื่องเกียร์อัตโนมัติที่เกิดขึ้นมายาวนานแล้วตั้งแต่ปี 1904 และการต่อยอดในอีก 35 ปีให้หลังที่ General Motors มีการแนะนำ Hydra-Matic ซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติที่มีการผลิตสำหรับใช้งานจำนวนมากออกมา
Mini
รถ Mini รุ่นแรกที่ออกแบบโดย Sir Alec Issigonis เป็นสิ่งที่ฉีกกฎดั้งเดิมเกี่ยวกับพาหนะเดินทางราคาถูกสำหรับครอบครัว โดยแสดงให้เห็นว่ารถยนต์ขนาดเล็กนี้สามารถรองรับการเดินทางของผู้ใหญ่ได้ 4 คน และแม้จะถูกเปิดตัวออกมาครั้งแรกตั้งแต่ปี 1959 แต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ ที่ยังคงมีมาถึงรถขนาดเล็กในปัจจุบัน
เข็มขัดนิรภัย 3 จุด
Nils Bohlin วิศวกรของ Volvo ซึ่งเคยทำงานด้านการบินมายาวนานได้ใช้สิ่งที่เรียนรู้จากอุตสาหกรรมนั้นเพื่อทำให้เกิดแนวคิดเรื่องเข็มขัดนิรภัย 3 จุดสำหรับรถยนต์ที่สามารถป้องกันทั้งลำตัวและหน้าตักของผู้อยู่ในรถยนต์ได้ โดยนอกจาก Volvo จะเริ่มใช้กับรถยนต์ของตนในปี 1959 แล้ว ภายหลังบริษัทรถยนต์สวีดิชแห่งนี้ยังเปิดกว้างด้านสิทธิบัตรนี้ เพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัยในรถยนต์ และช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมากไว้จากอุบัติเหตุรถยนต์
Motorwagen รถยนต์คันแรกของโลก
Karl Benz ได้จดสิทธิบัติ Motorwagen หรือ Motorcar ตั้งแต่ปี 1886 และเมื่อถึงปี 1888 รถยนต์ซึ่งจริงๆ แล้วกระบวนการพัฒนาทั้งหมดภรรยาของเขามีส่วนสำคัญ แต่ไม่สามารถจดสิทธิบัตรเองได้ในตอนนั้นก็สามารถใช้เดินทางได้ 60 ไมล์
เบรก
หนึ่งในนวัตกรรมสำคัญที่เกิดขึ้นระหว่างการพัฒนารถยนต์ Motorwagen คือการที่ Bertha Benz ภรรยาของ Karl Benz ให้ช่างทำรองเท้าตอกหนังเข้ากับบล็อกเบรก ซึ่งได้กลายเป็นการคิดค้นผ้าเบรกสำหรับใช้ในการหยุดรถขึ้นมา
สายการผลิตของ Ford
ในอดีตรถยนต์จะถูกผลิตในลักษณะจำนวนไม่มากนักและใช้เวลา จนกระทั่ง Henry Ford ได้ค้นหาวิธีที่จะผลิตรถยนต์จำนวนมาก และสายการประกอบรถยนต์ของเขาก็สามารถผลิตรถยนต์ออกมาได้เร็วขึ้นถึง 8 เท่าจากที่เคยทำกันมา ซึ่งด้วยเหตุนี้ส่งผลให้รถยนต์เป็นสิ่งที่จับต้องได้มากขึ้นด้วย และโรงงานใน Dearborn ของ Ford ก็สามารถผลิตรถยนต์ออกมาได้ถึง 10 ล้านคันในปี 1924 โดยครึ่งหนึ่งของรถยนต์ที่ผลิตออกมาคือ Model T
Toyota Prius
แม้ว่า Toyota จะไม่ไช่ผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ทำรถไฟฟ้า แต่ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นรายนี้ก็นำรถไฮบริดมาสู่การผลิตสำหรับขายจำนวนมากได้ด้วย Prius ที่เปิดตัวออกมาในปี 1997 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการการผลิตรถไฮบริดรวม 9 ล้านคันในปี 2016 โดยที่จำนวนหนึ่งล้านคันหลังใช้เวลาในการผลิตเพียง 9 เดือน
Citroen DS
เมื่อเปิดตัวออกมาในปี 1955 Citroen DS ไม่เพียงมีรูปทรงที่ล้ำหน้าสำหรับยุคนั้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับหลายสิ่งใหม่ๆ ในช่วงเวลานั้นด้วย อย่างการใช้ดิสก์เบรก รวมไปถึงที่แชสซีสศ์ของรถยังมีระบบช่วงล่างไฮดรอลิกเพื่อให้ความสบายในการเดินทาง
Aston Martin Lagonda
นอกจากรูปทรงที่โดดเด่นของ Aston Martin Lagonda สำหรับรถยนต์ในยุค 1970 แล้ว ภายในห้องโดยสารของรถยังมีนวัตกรรมที่สำคัญ เพราะเป็นรถยนต์คันแรกที่มาพร้อมกับเรือนไมล์ดิจิตอล
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th