10 เหตุผลที่ All-new Honda Accord Gen-10 เหนือกว่ารถคู่แข่ง
เปิดตัวแบบสวยๆ เป็นที่เรียบร้อย All-new Honda Accord เจเนอเรชั่นที่ 10 ด้วยการเลือกดีทรอยต์ เมืองหลวงแห่งอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ จัดงานรอบเวิลด์พรีเมียร์ เหมือนเป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของพวกเขาในฐานะรถยนต์ซีดานขนาดกลางที่ทำยอดขายสูงสุดของสหรัฐฯ 4 ปีซ้อน (ปี 2013-2016)
และหลังจากได้เห็นข้อมูลอย่างเป็นทางการ มาลองดูกันว่าทำไม All-new Honda Accord สมควรถูกยกให้เหนือกว่าบรรดารถคู่แข่งในกลุ่ม D-Segment ที่มีอยู่ในตอนนี้
1. การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอก: จริงอยู่ที่คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่ามันคือ Body Language ที่ถอดแบบมาจาก Civic รุ่นปัจจุบัน แต่ดูเหมือนว่าทีมวิศวกรของ Accord มีความตั้งใจให้เจเนอเรชั่นที่ 10 ของ D-Segment รุ่นนี้มีความเป็นสปอร์ตมากขึ้น และเรียกว่าเป็นการพลิกโฉมครั้งแรกที่แตกต่างจากภาพลักษณ์ของรถยนต์ครอบครัวแบบเดิมๆ โดยเฉพาะการลดความสูงของตัวถังลง 15 มิลลิเมตรเป็น 1,450 มิลลิเมตร ทำให้ค่า CG ของตัวรถลดลงด้วย
2. ระบบ ADS-Adaptive Damper System หรือปรับระดับความหนืดของโช้กอัพมาจากโรงงาน: ถ้าดูจากสเป็กของ All-new Accord ที่จะขายในสหรัฐฯ ไม่ว่ารุ่นพื้นฐานหรือรุ่นไฮบริดจะมีระบบนี้ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนระบบกันสะเทือนพื้นฐานด้านหน้าจะใช้ MacPherson Strut และระบบ Multi-link ที่ด้านหลัง ดังนั้นงานนี้สนุกแน่
3. แรงสะใจกับเครื่องยนต์ 252 แรงม้า: เมื่อก่อนเราจะได้สัมผัสกับตัวท็อปของ Accord ผ่านทางเครื่องยนต์ V6 แต่ในรุ่นนี้ไม่มี V6 แต่จะแรง และเร้าใจเหมือนเดิมกับเครื่องยนต์เทอร์โบตัวท็อปรุ่นใหม่เบนซิน 4 สูบ ทวินแคม i-VTEC 16 วาล์ว 2,000 ซีซี ความแรง 252 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 273 ปอนด์-ฟุตที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที
4. รุ่นธรรมดาหรือไฮบริดก็มี: ถ้าคุณไม่ชอบตัวแรง All-new Accord มีทางเลือกของเครื่องยนต์ที่หลากหลายให้เลือก เริ่มต้นกับเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน 4 สูบ 1,500 ซีซีที่เราคุ้นเคย แต่รีดกำลังออกมาได้ 192 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 192 ปอนด์-ฟุตที่ 1,500-5,500 รอบ/นาที หรือจะเน้นความประหยัดกับเครื่องยนต์ไฮบริด 4 สูบ 2,000 ซีซีแบบ NA เป็นต้นกำลัง ประกบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า และมีแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนในการเก็บกระแสไฟฟ้า โดยสเป็กในเรื่องของแรงม้าและแรงบิดยังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้ และในรุ่นนี้จะใช้เกียร์ CVT แบบไฟฟ้า หรือ e-CVT
5. ความกว้างขวางของห้องโดยสาร: Accord ใหม่ได้รับการขยายระยะฐานล้อถึง 2.16 นิ้วหรือ 54.8 มิลลิเมตรเป็น 2,830 มิลลิเมตร ดังนั้นในห้องโดยสารมีความกว้างขวางเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะพวกพื้นที่วางขาของเบาะหลัง หรือพวก Leg Room ทั้งหลาย ซึ่ง Honda บอกว่าเพิ่มขึ้นขั้นต่ำ 2 นิ้ว ส่วนพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังเพิ่มขึ้นอีก 2.5 ลูกบาศก์ฟุตเป็น 105.7 ลูกบาศก์ฟุต
6. Honda Sensing: มาเต็มมีทั้งระบบแจ้งเตือนหากมีแนวโน้มว่าจะเกิดการชนทางด้านหน้า ระบบรักษาให้ตัวรถอยู่ในช่องทาง ระบบรักษาความเร็วแบบปรับความเร็วได้อัตโนมัติหรือ Adaptive Cruise Control ระบบจดจำระบบสัญญาณไฟจราจร และระบบขับตามคันหน้าด้วยความเร็วต่ำสำหรับการใช้งานในเมือง
7. ระบบเกียร์ที่หลากหลาย: เมื่อก่อนเราจะเจอแค่เกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ แต่ในรุ่นนี้มีการแบ่งเกียร์ออกเป็นธรรมดา 6 จังหวะ, อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องหรือ CVT ที่มาพร้อมกับแป้น Paddle Shift, เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้าหรือ e-CVT ขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์ว่าทาง Honda จะจับคู่อย่างไรให้เหมาะสม
All-new Accord ในรุ่น Sport ที่มาพร้อมสีแดงให้อารมณ์เร้าใจ
8. ระบบความบันเทิง และการเชื่อมต่อที่ทันสมัยกว่ารถระดับเดียวกัน: ระหว่างงานแถลงข่าว Jeff Conrad รองประธานอาวุโส Honda สหรัฐฯ ประกาศว่า All-new Accord จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกในเซกเม้นต์ที่เจ้าของรถสามารถนำสมาร์ทโฟนแตะที่สัญลักษณ์ Bluetooth บนจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว บริเวณคอนโซลกลาง เพื่อเชื่อมต่อสัญญาณในทันที ไม่ต้องรอให้ค้นหาอุปกรณ์เหมือนรถทั่วไป พร้อมติดตั้งที่ชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging Pad) มาให้อีกด้วย รวมทั้งรองรับสัญญาณ 4G LTE Wi-Fi เพื่ออัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ของ All-new Accord ในแบบ OTA (Over-the-air Update) เหมือนที่ใช้งานในรถไฟฟ้าแบรนด์ Tesla
คลิปอธิบายระบบความบันเทิงใน All-new Accord ติดตามได้ตั้งแต่นาทีที่ 16.00
9. รุ่นไฮบริดไม่ต้องกังวลกับพื้นที่บรรทุกสัมภาระอีกต่อไป: เจ้าของรถ Accord ไฮบริดโฉมปัจจุบันหรือ Gen-9 อาจจะมีความสุขกับการขับระยะทาง 800-900 กิโลเมตรต่อการเติมน้ำมันเต็มถัง 1 ครั้ง แต่พวกเขาต้องปวดหัวทุกครั้งเวลาชอปปิ้งหรือบรรทุกของขนาดใหญ่ แต่ปัญหาทั้งหมดถูกแก้ไขเป็นที่เรียบร้อย โดย Accord ไฮบริดรุ่นใหม่ จะย้ายแบตเตอรี่ลิเธียม-ไออน มาเก็บไว้ที่ใต้ท้องรถบริเวณเบาะหลัง ทำให้พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังใกล้เคียงกับรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา แถมสามารถพับเบาะหลังลงมาแบบ 60/40 หากต้องขนของที่มีขนาดใหญ่อีกด้วย
รูปเดียวของ All-new Accord Hybrid ที่ออกมาอย่างเป็นทางการ
10. ความเชื่อมั่น และความนิยมที่ต่อเนื่องยาวนาน: นับตั้งแต่เปิดตัวขายครั้งแรกในประเทศสหรัฐฯ เมื่อปี 1976 Honda Accord ประสบความสำเร็จทางด้านยอดขาย และได้รับรางวัลประกันคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง ครองตำแหน่งรถยนต์ซีดานขนาดกลางทำยอดขายสูงสุดของสหรัฐฯ 4 ปีติดต่อกัน (2013-2016) นับจนถึงปัจจุบันมียอดขายสะสมสูงกว่า 13 ล้านคัน โดยช่วง 6 เดือนแรกของปี 2017 Accord ทำยอดขายในกลุ่มรถยนต์นั่งทุกประเภทเป็นอันดับ 2 รองจาก Honda Civic เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
ขอบคุณข้อมูล: Honda Media
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th