10 Hothatch ที่ไม่ควรยุ่งด้วย
เอาเป็นว่าขนาดขับรถสปอร์ตสมรรถนะสูงบางครั้งก็ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ หามกไม่อยากเจอสิ่งที่เรียกว่า ‘เหนือฟ้ายังมีฟ้า’ และบนถนนที่มีรถยนต์หลากหลายประเภท คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่ารถยนต์แบบแฮทช์แบ็กไม่ว่าจะ 3 หรือ 5 ประตู มันก็คือรถยนต์จ่ายกับข้าวดีๆ นี่เอง ซึ่ง 80% อาจจะใช้ แต่ที่เหลืออีก 20% อาจจะทำให้คุณหน้าแหกได้ ถ้าคิดจะไปต่อกรกับพวกเขา เพราะพวกนี้ได้รับฉายาว่า Hot Hatch ที่มาพร้อมกับสมรรถนะที่ไม่ธรรมดา
1.Honda Civic Type-R : เมื่อก่อน Type-R ใช้ตัวถังของ Civic ที่เป็นแฮทช์แบ็กแท้ๆ (ยกเว้นรุ่น FD2 ที่มีซีดานขายคู่กันด้วย) ดังนั้นพอเป็นเจนเนอเรชั่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2017 หลายคนก็เลยแปลกตาไปหน่อย เพราะมันใช้ตัวถังเดียวกับ Civic Hatchback ที่ขายในบ้านเรา ส่วนสมรรถนะก็ 320 แรงม้าจากเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี VTEC Turbo
2.Volkswagen Golf GTI/R : รุ่นแรกถือเป็นตัวแรงที่ใครรู้จักกันดีเพราะมีขายคู่กับรุ่นธรรมดามาตั้งแค่การถือกำเนิดของ Golf และความแรงก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในรุ่นปัจจุบันใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซ๊ เทอร์โบแบบ TSI จ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง 230 แรงม้า แต่ถ้าโชคร้านไปซ่ากับ Golf แล้วเจอรุ่น R อาจจะหน้าแหกหนักขึ้น เพราะจำนวนม้ามันขยับขึ้นเป็น 300 ตัว
3.Renault Megane RS : พัฒนาโดยแผนก Renault Sport รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับรูปทรงที่สวยสะดุดตาและเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง 4Control ซึ่งล้อหลังจะสามารถเลี้ยวในทิศทางตรงข้ามกับล้อหน้าไม่เกิน 2.7 องศาเพื่อช่วยในการยึดเกาะถนน ส่วนเครื่องยนต์ก็แรงเร้าใจด้วยขุมพลังแบบ 4 สูบ 1,800 ซีซี Di ที่รีดกำลังออกมาได้ 280 แรงม้า โดยใช้เทอร์โบแบบ Twin Scroll
4.Ford Focus RS : เทคโนโลยีจากสนามแข่ง WRC สมัยที่ Focus ยังเป็นตัวแข่งอยู่ และพวกเขาผลิตเวอร์ชัน RS ตามออกมาขายในยุโรปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันหน้าที่นี้จะไม่ใช่ Focus อีกต่อไปแล้ว แต่ Ford ก็ยังผลิตขายเหมือนเดิมกับความเร้าของเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,300 ซีซี เทอร์โบที่สามารถรีดกำลังออกมาได้ 350 แรงม้า
5.Peugeot 308GTi : พัฒนาโดยทาง Peugeot Sport บนตัวถังแฮทช์แบ็กใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,600 ซีซี เทอร์โบ แต่เบ่งกล้ามออกมาได้ 2 ระดับ คือ 250 และ 270 แรงม้าแล้วแต่ว่าลูกค้าจะชอบแบบไหน โดยใช้เวลา 6.2 และ 6.0 วินาทีในการทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงตามลำดับ
6.Opel Astra OPC : อีกหนึ่งตัวแรงที่สมรรถนะไม่ธรรมดาแม้ว่าหน้าตาจะดูแล้วธรรมดาเหมือนกับรถแต่งทั่วไป แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อเปิดฝากกระโปรงดูคุณอาจจะสงสัยว่ามันคือเครื่องยนต์อะไร และคำว่า OPC หรือ Opel Performance Center คือ สิ่งที่การันตีได้ว่าขุมพลัง 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ ที่เห็นจะมีการผลิตม้าออกมาได้ 280 ตัว และทำให้ตัวรถแล่นถึง 250 กิโลเมตร/ชั่วโมงอย่างแน่นอน นั่นคือสเป็กรุ่นที่แล้ว ส่วนรุ่นปัจจุบันยังไม่เปิดตัวออกมา
7.Seat Leon Cupra R : คำว่า Cupra ก็ว่าแรงแล้ว ยิ่งมีคำว่า R เพิ่มเข้ามาด้วย งานนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน โดยตัวรถใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบแบบ TSI ในการรีดกำลังออกมาได้ 300 แรงม้า โดยการผลิตจะมีเพียง 799 คัน ซึ่ง 300 คันเป็นรุ่นเกียร์ DSG ส่วนอีก 499 คันเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
8.Hyundai i30 N : งานนี้ไ/ม่ได้มีแค่ญี่ปุ่นและยุโรปเท่านั้น แต่ผลผลิตจากเกาหลีใต้ก็มาร่วมด้วย ซึ่ง Hyundai พัฒนารถยนต์รุ่น i30 ที่มาพร้อมกับความแรงและความเร้าใจเพื่อส่งขายในตลาดยุโรป โดยใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ 275 แรงม้าเป็นขุมพลัง
9.Mercedes-Benz A45AMG : ถ้าขาดชื่อนี้ไปเห็นจะไม่ครบขบวนการ Hot hatch อย่างแน่นอน แม้ว่ารุ่นใหม่ของ A-Class เราจะยังไม่ได้เห็นตัวแรงรุ่นใหม่ของพวกเขา แต่กับ A35AMG ที่พัฒนามาจาก A-Class รุ่นที่แล้วถือว่าฮ็อตอย่างมากกับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบที่ถูกขยับจาก 360 แรงม้าในรุ่นปี 2013-2015 มาเป็น 280 แรงม้าในรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรูปลักษณ์ที่สุดปราดเปรียว
10.BMW M140i : ขยับขาก M135i ในรุ่นที่แล้วมาเป็น M140i ในรุ่นใหม่ย่อมหมายความถึงสมสรรถนะที่ไม่ธรรมดาด้วยกำลังที่ถูกเบ่งออกมามากถึง 340 แรงม้าจากเครื่องยนต์ 6 สูบ 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่ และแล่นทะยานเกิน 250 กิโลเมตร/ชั่วโมงอย่างแน่นอน
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th