1963 BSA Rocket Gold Star
จาก “สนาม” สู่ “ถนน” จิตวิญญาณแท้ๆ จาก “โกลดี้บอย”

รถสปอร์ตเพื่อการพาณิชย์ที่เกิดขึ้นจากพื้นฐานรถแข่งอย่าง Gold Star กับขุมพลังอัปเกรดของเครื่องยนต์ของรหัส A10 ตามลำดับ

ค่าย “อังกฤษ” รังสรรค์ “รถสปอร์ตโรงงาน” ชั้นดีมากมายหลายแบรนด์การค้า Triumph ส่งรถ “คาร์บิวฯคู่” ในนามของรุ่น Bonneville เป็นเรือธง…Norton ก็จัดให้เต็มสตรีม ในนามของ Dominator 650SS ในขณะที่ค่ายใหญ่ Royal Enfield ก็ส่ง Continental GT มาลงชิงชัยในถนน เรียกว่า “ดาหน้า” มาชิง มวลชน “สายซิ่ง” ที่พิสมัย “ความเร็ว” และคาแรกเตอร์เฟี้ยวๆ ของรถโรงงานที่ต่างออกไป เม้าท์มาถึง ณ จุดๆ นี้ ก็คงจะผิดวิสัยหากไม่เอ่ยถึง BSA 2 ล้อสายซิ่งจาก “โรงงานปืน” Birmingham Small Arms ไม่ต้องถึงรถแข่ง “โกลด์สตาร์” รหัส DBD34 หรอก แค่ได้เห็น DNA ของ “โกลดี้บอย” ก็ร้องแล้ว จัดไปกับรถหมอบระดับเอ็กซ์คลูซีฟ ในรหัส A10…Rocket Gold Star!!!

ชุดหน้ากระบอกเทเลสโคปิก ไฮดรอลิกแอบซอร์บ กับวงล้ออะลูมิเนียมขอบยก ลายเซ็นของรถซิ่งที่ต้องมี พร้อมดุมหน้า Gold Star ขนาด 8 นิ้ว เป็นดุมเหล็กที่เจาะช่องที่ฝาดุม สำหรับกักอากาศระบายความร้อนเบรก

เครื่องยนต์ A10 ขนาด 646 ซี.ซี. ที่ปรับเปลี่ยนมาใช้ฝาสูบแบบอะลูมิเนียม ภายในเป็นแคมชาฟท์จากตระกูล SS ที่มีองศาการปิด/เปิดให้สูงขึ้น ส่วนฝาทามมิ่งนั้นเจาะยัดเฟืองวัดรอบ

ไม่มีใครกังขากับ “ตำนานความเร็ว” ภายใต้การรังสรรค์ของเหล่าวิศวกรโรงงาน BSA ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์รหัส ZB รถแข่งที่ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดตั้งแต่ปี 1937 ภายใต้นักแข่งฝีมือฉมังนาม Walter Handley…“Goldie” เครื่องยนต์แบบ “แคมฯเดี่ยว” บล็อกอะลูมิเนียมทั้งหมด ได้รับการพัฒนา ปรับแต่ง มาจนถึงขั้นสุดขั้ว มันไม่แรงเฉพาะแทร็กเรียบ “รถทางฝุ่น” เครื่องยนต์อานิสงส์จาก ZB ทั้ง B32/B34 ก็เก่งไม่น้อยหน้าใคร “รถลุย” พันธุ์นี้สร้างความกริ่งเกรงให้คู่แข่งขันได้หลายคำรบ…เพราะขายได้ในการแข่งขัน “รถเพื่อการพาณิชย์” จึงติดตลาดง่ายดายเป็นของแถมพก เครื่องยนต์หลากบล็อกทั้ง จุดเดี่ยว จุดคู่ หลากความจุทั้ง 350/500/650 ซี.ซี. กำลังทยอยเจาะกลุ่มลูกค้า “ผู้ดี” ที่พร้อมแลก…ซึ่ง…โฟกัสบทหนึ่งของเราฉบับนี้…ถูก…เทความสนใจสู่เครื่องยนต์ขนาด 650 ซี.ซี. ภายใต้รหัสว่า A10 รถ “หกแรงครึ่ง” ที่ถูกหยิบจับสู่โครงสร้างรถแข่งคันแรงนามว่า…ร็อคเก็ต โกลด์สตาร์!!!

เต็มระบบของ “รถหมอบ” พิศนี้มันคือ “รถแข่ง” ในจำนานชัดๆ สีบรอนซ์เงิน เขียนเส้นพู่กันสีแดง บาร์หมอบ ขาจับกะโหลกไฟทรงโค้ง มาตรวัดต่างๆ ครอบถ้วน ทั้ง ไมล์/วัดรอบ ของ Smiths ปรับฝืดคอกันคลาย และขาจับกะโหลกไฟ Gold Star มันคือความทรงจำที่ได้รับการถ่ายทอดจาก Gold Star DBD 34 ในตำนาน

A10 ปรากฏตัวให้เห็นครั้งแรกในปี 1950 ด้วยจุดขายที่ความทันสมัย สวย และใช้สอยเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันได้รับการจัดวางเรทติ้งไว้ในอันดับต้นๆ ของตลาด “Golden Flash” ยังคงเรียกขานติดปากด้วยขุมพลังขนาด 35 แรงม้า และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 100 ไมล์/ชม. (160 กม./ชม.) เพราะมันดี A10 จึงเสนอทางเลือกด้วยรถหลายหน้าตา อาทิ Super Flash และ Road Rocket….จนถึง…Super Rocket ที่ได้รับอัปเกรดจนมีแรงม้าสูงสุดถึง 46 แรงม้าที่ความเร็ว 105 ไมล์/ชม. (168 กม./ชม.)…ทว่า มันยังดีได้ อีก!!5ท่อไอเสียเมกาโฟนแบบออกคู่ซ้าย/ขวา เสริมเสียงที่ดุดันกับหน้าตาแบบต้นตำรับ (Siamesed Exhaust)

“พาร์ทซิ่ง” แบบฉบับรถสนาม งานเก็บความละเมียดที่ต้องให้ความสำคัญ

…1962 เครื่องยนต์ของ Super Rocket ถูกปรับจูนอีกครั้ง เครื่องยนต์ที่อัปเกรดถูกยกวางบนโครงสร้างเฟรมแบบเปลคู่ (GA10) โช้คอัพหน้า ล้อ รวมถึงระบบเบรกของรถระดับตำนานอย่าง Gold Star มันเป็นรถ “คาเฟ่ เรเซอร์” ที่ร้อนแรงที่สุดแห่งยุค ซึ่งเปิดตัวให้เห็นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1962 ความร้อนแรงดังกล่าวยังรวมถึงการปรับแต่งอัตราทดเฟืองเกียร์ให้ชิดขึ้น จัดตำแหน่งวางพักเท้า รวมถึงหน้าตาของท่อไอเสียพาร์ทซิ่งอย่างพิมพ์เขียว (Siamese7เบาะที่จัดทรงใหม่ ปั้นทรงยากมากๆ แต่ทำให้เข้าทรง บอกเลยงานหิน เปลี่ยนมาหลายใบกว่าจะโดนใจ

logoโลโกข้างถังของรุ่น “โกลด์สตาร์” บ้านเราเรียก “โลโกนายอำเภอ” มีให้เลือกทั้ง “ดำ” และ “แดง” แต่ถ้าให้เห็นถนัดตา จะถูก จะแพง ขอแดงไว้ก่อน

STORY : NUIAJS

PHOTO : Kwang GPI.Photo Dep.